What's new | 26 October 2022

A day in life: ที่ออฟฟิศ Unicharm องค์กรที่มุ่งสร้างสังคมแห่งการดำรงอยู่ร่วมกัน

เคยคิดไหมว่าการที่ได้ทำงานกับบริษัทใดสักที่หนึ่ง จะเป็นมากกว่าการทำงาน เพราะคุณจะได้เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนให้ผู้คนในโลกได้ทำตามความฝันโดยปราศจากข้อจำกัดมากที่สุด วันนี้ WorkVenture จะพาทุกคนไปดูการทำงานใน 1 วันที่ Unicharm บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของญี่ปุ่น พร้อมกับวัฒนธรรมการทำงานที่น่าหลงใหล เชื่อเลยว่าถ้าใครได้รู้จักที่นี่ต้องหลงรัก Unicharm อย่างแน่นอน

เริ่มต้นวันทำงานกับ Unicharm

เริ่มต้นวันของการทำงาน แม้ว่าย่านอโศก เพชรบุรี จะรถติดแค่ไหนก็ไม่ได้กระทบกับการเดินทางมาทำงานเลยสักนิด เพราะสามารถเดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า MRT ลงสถานีเพชรบุรี ถึงปุ๊บก็เดินเข้าตึกได้สบายๆ เลย หรือจะลงสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ มักกะสัน เดินต่อมาได้ชิวๆ แป๊บๆ ก็ถึงแล้ว เพื่อช่วยลดภาระของพนักงานให้มากที่สุด Unicharm เลยมีสวัสดิการค่าเดินทางให้กับพนักงานทุกคนด้วย

 

ก่อนเข้าสู่ออฟฟิศ Unicharm

พอเรามาถึงอาคารสิงห์คอมเพล็กซ์แล้ว ก็กดลิฟต์ขึ้นมาชั้น 31 ได้เลย ขอแอบกระซิบนิดนึงว่ามาทำงานที่นี่มีร้านอาหารเก๋ๆ มากมาย คลินิกเอย ฟิตเนสเอย  และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันละลานตาเต็มไปหมด ตอนเช้าๆ มาถึงจะอยากนั่งทานข้าวก่อนขึ้นไปทำงานก็ยังได้



Unicharm ความสดใสและความอบอุ่นแทรกอยู่ในทุกมุม

ถึงแล้ววว ออฟฟิศของ Unicharm พนักงานสแกนใบหน้าหน้าปุ๊บก็เข้าทำงานได้แล้ว เปิดประตูมาก็จะเจอล็อบบี้ที่ดูสดใสพร้อมกับความน่ารักของน้องโพโคจังยืนต้อนรับทุกคน เอาล่ะเข้าไปในออฟฟิศกัน!

 



ก่อนเริ่มงานชวนกันยืดเส้นยืดสาย เพื่อป้องกันและบรรเทาออฟฟิศซินโดรมกันซักหน่อย

ถึงออฟฟิศแล้วสิ่งแรกที่เราทุกคนทำเป็นกิจวัตรประจำวันเวลา 8 โมงเช้าก็คือการออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายกันสักหน่อย เพื่อให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าในการทำงาน ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของการทำงานที่นี่ ที่ทำให้เราได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันนอกจากงาน หลังจากยืดเส้นยืดสายกันเสร็จ จะมีกิจกรรมที่เรียกว่า โชเร (Chorei) นั่นคือ พี่ๆ ผู้บริหาร หรือทีมต่างๆ จนถึงพนักงานทุกคน จะผลัดเปลี่ยนกันมาแชร์เรื่องราวต่างๆ ตั้งแต่ข้อมูลข่าวสาร Business case study หรือพูดคุยเรื่องทั่วๆ ไป สร้างความใกล้ชิดกันในทุกๆ เช้า เพราะที่นี่ให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่สะดวกและเข้าถึงทุกคนซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ นี่แหละคือความใส่ใจของผู้บริหารต่อพนักงาน เห็นแล้วรู้สึกประทับใจมาก  

 

ถึงเวลาเริ่มงาน กับ ออฟฟิศ ที่ใส่ใจสุขภาพพนักงานทุกคน

ในโซนทำงานที่ดูโล่งโปร่งสบายตาทำให้ไม่อึดอัด บวกกับวิวของชั้น 31 ที่มองเห็นย่านอโศก พระราม 9 ได้แบบ 180 องศา และต้องบอกเลยว่าการนั่งทำงานที่นี่มีความเป็นระเบียบเรียบง่าย  และในทุกๆ มุมของออฟฟิศยังมีเครื่องฟอกอากาศไว้ให้ด้วยเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเมื่อนั่งทำงานอยู่ที่นี่จะได้รับอากาศที่สะอาด สดชื่น และรู้สึกปลอดภัยอย่างแน่นอน

 

การใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องพื้นฐาน ที่ยูนิชาร์มเริ่มต้นกันตั้งแต่ในออฟฟิศ

นอกจากเรื่องโปรเจคการใส่ใจสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่ยูนิชาร์มกำลังดำเนินการ รวมถึง การคัดแยกขยะต่างๆตั้งแต่ต้นทาง ที่พนักงานทุกคนทำกันเป็นกิจวัตรมาต่อเนื่องแล้ว  ตอนนี้  พนักงานยูนิชาร์ม กำลังทำกิจกรรม “Bring Box Back” ซึ่งกระดาษทุกแผ่นในออฟฟิศจะถูกใช้งานอย่างคุ้มค่าที่สุด หลังจากนั้นจะถูกส่งไปรีไซเคิล และกลับมาเป็นกระดาษที่ใช้ในออฟฟิศ วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ  เพราะที่นี่เค้าเชื่อว่าเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของทุกคนตั้งแต่ระดับบุคคลถึงองค์กร และเริ่มทำได้ด้วยตัวเองตั้งแต่เรื่องใกล้ตัวเล็กๆน้อยๆ นี่แหละ

 

Communication Area พื้นที่ระดมไอเดียของทุกคน

อย่างที่เกริ่นไปว่าการทำงานที่ Unicharm นั้นให้ความสำคัญกับการสื่อสารเป็นอย่างมาก เค้ามีพื้นที่ส่วนกลาง ที่อื่นอาจเรียกว่า Co-working space แต่ที่ยูนิชาร์ม เค้าเรียกกันว่า Communication area ซึ่งจะอยู่ตามจุดต่างๆ ภายในออฟฟิศ ให้ทุกฝ่ายสามารถมานั่งคุยงานกันด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง จะคุยตอนไหน เวลาไหนก็ได้ ในบรรยากาศพื้นที่เปิดโล่ง ทำให้ติดต่องานกันได้สะดวกมากยิ่งขึ้นและเปิดโอกาสในการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุดสำหรับทุกคนจริงๆ

 

โอกาสที่จะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันกับผู้บริหาร คือโอกาสสำหรับทุกคน

เมื่อถึงเวลาต้องนำไอเดียไปเสนอผู้บริหารสูงสุด สำหรับที่นี่ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือจะเป็นน้องใหม่ ก็ไม่มีอะไรมาปิดกั้นความสามารถของพนักงานได้ เค้าสนับสนุนให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม สามารถสื่อสารใกล้ชิดผู้บริหารได้ มีเรื่องอะไรก็สามารถขออนุญาตปรึกษาที่โต๊ะได้เลย ด้วยบรรยากาศที่ไม่มีแบ่งแยกห้องผู้บริหาร  เปิดกว้าง อบอุ่น และเป็นโอกาสที่เปิดไว้ให้สำหรับทุกคน

 

ห้องประชุมทั่วไทยกับช่วงเวลาที่เป็นทางการหรือต้องการความเป็นส่วนตัว

เมื่อได้เวลาประชุม ! ไม่ว่าจะเป็น VDO Conference กับต่างประเทศ ภายในประเทศ  หรือจะเป็นการพูดคุยกันเองแบบ Face to Face ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ออฟฟิศยูนิชาร์มก็มีห้องประชุมมากมายไว้ให้ใช้งาน พร้อมอุปกรณ์ครบครัน พนักงานทุกคนพูดคุยออกไอเดียกันได้เต็มที่ สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ แต่ละห้องนั้นจะมีชื่อเป็นสถานที่ในประเทศไทย เช่น ห้องสุโขทัย ห้องเชียงใหม่ ห้องภูเก็ต ห้องเขาใหญ่  เป็นต้น เรียกว่าวันนี้อยากคุยงานกันที่ไหน ก็จองได้ทั่วไทยไปเลย ถึงจะเป็นบริษัทญี่ปุ่น แต่ก็ผสานความเป็นไทยได้อย่างลงตัวทีเดียว

 

พื้นที่พักเบรคไว้นั่งชิลกลุ่มเล็กๆ ระหว่างวัน 

เมื่ออยากพักเบรค ซักเล็กน้อยหรือจะเป็นเวลาพักกลางวัน ที่นี่มีพื้นที่เบรคส่วนกลาง ชื่อว่า “ห้องจตุจักร” ไว้รองรับพนักงานที่อยากพักทานขนมเบาๆ พร้อมเครื่องดื่มที่บริษัทจัดให้ฟรี หรือจะจัดหนักมื้อ เช้า เที่ยง เย็น ได้เลย แต่ถ้าวันไหนอยากเปลี่ยนบรรยากาศจะชวนกันไปหาร้านอร่อยๆ ข้างนอกก็ได้ เพราะแถวนี้มีร้านอาหารมากมายให้เลือก ตั้งเรียงราย ราคาสบายกระเป๋า ให้ได้ใช้เวลามื้อกลางวันสานมิตรภาพช่วงพักเที่ยง และที่สำคัญนะทุกคน Unicharm มีสวัสดิการเงินช่วยเหลือเพื่อแบ่งเบาภาระค่าอาหารให้กับพนักงานด้วยนะ

 

Food court ในตึกอีกหนึ่งทางเลือกความสะดวก

พักกลางวันถ้าใคร ไม่ชอบแดดเมืองไทย ไม่อยากเดินไปหาของอร่อยไกล ก็แค่ลงมาชั้น 3 ในตึกเดียวกัน ที่นี่มีร้านอาหารมากมายให้เลือกรับประทาน จะส้มตำ ยำแซ่บๆ หรืออาหารตามสั่ง สลัด น้ำปั่น หรือแม้กระทั่งอาหารเพื่อสุขภาพ ที่นี่ก็มีครบ หื้ม…แค่นึกภาพตามท้องก็ร้องแล้ว และ Food court ที่นี่เค้าก็อินเทรนด์สังคม Cashless นะทุกคน เรียกได้ว่าพักเที่ยงของที่นี่เค้ามีตัวเลือกหลากหลายจริงๆ

 

อุปกรณ์สามัญประจำออฟฟิศในยุคนี้

ต้องบอกว่าสถานการณ์โควิดแค่ซาลงแต่ยังไม่ได้หายไปจากโลกของเรา ดังนั้นป้องกันไว้ดีกว่าแก้ ที่ Unicharm ดูแลพนักงานโดยการจัดเตรียมอุปกรณ์สามัญประจำออฟฟิศไว้ให้ทุกคน เป็นอุปกรณ์พื้นฐาน นั่นคือ หน้ากากอนามัย และชุดตรวจ ATK ให้พนักงานทุกคนมีติดไว้ทั้งที่ออฟฟิศและที่บ้าน เพื่อความสบายใจทั้งต่อตัวเอง ต่อเพื่อนร่วมงาน นอกจากนี้เจ้าเครื่องฟอกอากาศในออฟฟิศของที่นี่เค้าก็เลือกแบบที่ป้องกันได้ทั้ง PM2.5 และเชื้อไวรัสนะทุกคน                  

ในสถานการณ์ที่พนักงานต้อง Work From Home ที่นี่ก็เข้าใจถึงภาระที่เพิ่มขึ้นของพนักงานเมื่อต้องทำงานจากที่บ้านด้วย เลยมีสวัสดิการช่วยเหลือให้กับพนักงานที่ต้อง Work From Home ด้วย และสำหรับพนักงานสุภาพสตรีที่นี่ก็มีผ้าอนามัยฟรีวางไว้ให้ใช้เป็นสิ่งของพื้นฐาน เพราะ Unicharm ต้องการให้ทุกคนใช้ชีวิตประจำวันได้โดยปราศจากข้อจำกัดให้มากที่สุดและตั้งใจเป็นส่วนหนึ่งของสังคมแห่งการดำรงอยู่ร่วมกัน

 

กิจกรรมนอกออฟฟิศที่มีให้ทุกเดือนกับ “Scrum Dinner” 

สุดท้าย ย้ำอีกครั้งว่าที่ Unicharm นั้นสนับสนุนการสื่อสารและการสร้างความสัมพันธ์ในทีมเป็นอย่างมาก เลยมีกิจกรรมให้พนักงานออกไปสังสรรค์ ดินเนอร์กันเดือนละ 1 ครั้งภายในทีม โดยบริษัทฯ สนับสนุนค่าใช้จ่าย เพราะ Unicharm มองว่าการพบปะสังสรรค์ทำให้ช่วยสร้างความสัมพันธ์ภายในทีมและช่วยให้ทุกคนเปิดใจพูดคุยกันได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นในแต่ละเดือนทุกๆ ทีม ก็จะพากันไปดินเนอร์ มีทั้ง ปิ้งย่าง ชาบู ร้านอาหารไทย ญี่ปุ่น บุฟเฟต์ หรือบาร์ชิคๆ  ก็แล้วแต่จะโหวตเลือกกันในทีมเลย เอาล่ะ หากใครอยากได้ประสบการณ์การทำงานสนุกๆ ที่นี่ล่ะก็ ที่ Unicharm รอต้อนรับอยู่นะ

 

close
Join WorkVenture for the newest job offers and company reviews