“อู้งาน” อย่างไรให้หัวหน้าประทับใจ! และยังดีต่อสุขภาพจิต
การใช้เวลาเอื่อย ๆ นั่งเฉื่อย ๆ อย่างสบายใจ
จะช่วยให้งานของคุณมีคุณภาพมากขึ้นได้
กองงานที่ทำเท่าไรก็ไม่เสร็จไม่สิ้น และวัฒนธรรมการทำงานที่บีบบังคับให้พวกเราต้องขยันขันแข็งทุกวี่ทุกวัน ทำให้พวกเราเกิดความรู้สึกละอายหรืออย่างน้อยก็รู้สึกผิดเล็ก ๆ เมื่อเราได้มีเวลาพักระหว่างวัน แต่เชื่อเถอะว่าชีวิตที่ต้องนั่งเฝ้าจออีเมล์เมื่อไม่มีอะไรทำไม่ใช่วิธีพัฒนาการทำงานแน่นอน ทว่า “การอู้” อย่างมีชั้นเชิงต่างหากที่จะช่วยให้งานของคุณดีขึ้นได้
“เราต้องทำงานตลอดเวลา” จริงหรือ?
เชื่อไหมว่าปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นเมื่อเราวิ่งไล่อุดมคติที่ไม่ถูกต้อง อย่างเช่น การทุ่มเทให้องค์กรก็จนทำให้รู้สึกผิดเวลาพัก ทั้งๆ ที่เราควรจะพักผ่อนหย่อนใจอย่างที่คนปกติควรจะทำเมื่อเหนื่อยล้า ไม่ว่าจะเป็นการงีบหลับสั้นๆ ออกไปเดินทอดน่องสัก 5 นาที หรือนั่งอ่านหนังสือที่ชอบสักพักหนึ่งที่อย่างน้อยก็พอจะทำให้ได้พักหายใจพักสมองกันบ้าง
ตัวอย่างจากเรื่องราวเมื่อ 2 ปีก่อนของ Merlin Mann นักเขียนชื่อดัง ผู้ถูกว่าจ้างให้เขียนหนังสือเกี่ยวกับระบบการจัดการอีเมล์ได้ตัดสินใจเทงาน แล้วโพสต์ระบายลงบนบล็อกส่วนตัว โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการใส่ใจงานมากเกินไปจนทำให้เขาเสียเวลาสำคัญๆกับครอบครัวไป
“พักจากงานด้วยการจ้องจอ” ปัญหาใหญ่ในสังคมเมือง
วิธีที่เหล่าพนักงานส่วนใหญ่จะทำเพื่อบรรเทาความรู้สึกแย่ๆ คือการกลับไปนั่งประจำที่โต๊ะ เพื่อเปิดคอมพิวเตอร์หาอะไรอ่านหรือดูไปเรื่อยๆ ทั้งเว็บไซต์และอีเมลที่ส่วนใหญ่ก็คงไม่ใช่เรื่องงาน การทำแบบนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อทั้งงานและสุขภาพจิตอย่างที่มันควรจะเป็น
คนทำงานอย่างเราๆ มักจะโดนปลูกฝังให้ “ทำงานตลอดเวลา” โดย Michael Guttridge นักจิตวิทยาผู้ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมในที่ทำงานบอกว่า มันยากที่จะออกจากความคิดแบบนั้นแล้วไปเดินเล่นชิลๆ ทั้งๆ ที่ในบางครั้ง เราอาจจะนั่งอยู่หน้าจอโดยที่ไม่ได้งานเลยด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ เรายังพลาดโอกาสดีๆ ในการพัฒนาสุขภาพกายและใจ เป็นเรื่องน่าเศร้ามากที่บางครั้งผู้คนเลือกจะกินข้าวบนโต๊ะทำงานของเขา แทนที่จะออกไปเดินเล่น ไปร้านกาแฟ หรือทำไงก็ได้ให้ได้ออกไปจากหน้าคอมบ้าง
แนวคิดที่ว่า การทำงานหนักจะนำมาซึ่งชิ้นงานที่ดี นั้นไม่ถูกต้องเสียทีเดียว หากเราแบ่งเวลาให้เหมาะสมและตั้งใจทำงานมากพอ เราจะพบว่าระยะเวลาที่ใช้ต่อการทำงานแต่ละชิ้นไม่ได้มากมายอย่างที่คิด
และในบางครั้งที่เราอยากจะให้รางวัลตัวเอง อย่างเช่นการดูหนัง แต่ก็ดันถูกความคิดนี้ทำลายความสนุกของหนังไป บ้างก็เร่งความเร็วเพื่อให้จบไวขึ้น บ้างก็กรอข้ามตอนไป เพราะรู้สึกผิดที่ทำอย่างอื่นนอกจากงาน เหมือนโดนลงโทษแทนที่จะได้รางวัล
“อู้งาน” อย่างไร ให้ได้ประโยชน์
การชาร์จแบตให้ชีวิตด้วยการปล่อยให้ตัวเองได้ใช้เวลากับสิ่งที่ชอบ จะช่วยเตรียมพร้อมให้สมองของคุณให้สามารถจัดเรียงข้อมูลเพื่อรับสิ่งใหม่ๆ ได้ดี
การได้ใช้เวลาผ่อนคลายโดยไม่คำนึงถึงเรื่องงานจะนำไปสู่การสร้างผลงานดีๆ และยังช่วยสร้างสุขภาพกายและจิตที่ดีตามไปด้วย ดังนั้น พวกเราทุกคนควรจะใช้เวลาว่างเท่าที่มี เพื่อทำอะไรที่คุณชอบ และที่สำคัญที่สุด เราอยากให้คุณมองว่า การปล่อยให้ตัวเองได้หลุดออกจากการทำงานไปใช้ชีวิตจริงๆ บ้างคือ “การใช้เวลาอย่างคุ้มค่า” ไม่ใช่ “การอู้”
บทความจาก: https://www.weforum.org/agenda/2017/05/this-is-the-psychological-importance-of-wasting-your-time