5 บริษัทในไทย ที่มีสวัสดิการ “ดีต่อใจ” มากที่สุด และแนวโน้มสวัสดิการปี 2017
แม้สวัสดิการจะไม่ใช่ปัจจัยแรกที่ผู้สมัครงานจะพิจารณา เหมือนปัจจัยด้านอื่น เช่น เงินเดือน แต่สวัสดิการกลับเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับพนักงาน เมื่อได้เข้ามาทำงานกับบริษัทเต็มตัวแล้ว และเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้พนักงานอาศัยอยู่กับบริษัทได้นาน WorkVenture เว็บไซต์หางาน และลงประกาศงานชื่อดังของไทย ได้ทำการสำรวจการให้สวัสดิการพนักงานของบริษัทชั้นนำกว่า 1,200 บริษัททั่วประเทศ ในปี 2016 ที่ผ่านมา ตั้งแต่บริษัทขนาดใหญ่ ในตลาดหลักทรัพย์ไปจนถึงบริษัทสตาร์ทอัพและได้เผย 5 บริษัทในประเทศไทย ที่มีสวัสดิการน่าสนใจที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา โดยมีรายชื่อบริษัทดังนี้
Siam Cement Group | SCG
บริษัท Siam Cement Group หรือ SCG นับเป็นบริษัทที่เด็กจบใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ด้วยวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำการพัฒนาอย่างยั่งยืน SCG จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนเป็นอย่างยิ่ง บริษัทมีการสนับสนุนให้พนักงานศึกษาต่อถึงระดับปริญญาเอก ทั้งมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศและต่างประเทศ โดยมีการชำระค่าธรรมเนียมการศึกษา และให้ชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่นระหว่างที่กำลังศึกษาต่อ ตลอดจนค่าครองชีพสำหรับพนักงานที่มีการศึกษาต่อต่างประเทศด้วย
Pomelo Fashion
Cool and Fun คงเป็น 2 คำที่ใช้อธิบายสวัสดิการที่ Pomelo ให้กับพนักงานได้เป็นอย่างดี แม้จะเป็นบริษัทขนาดเล็ก เมื่อเทียบกับ 2 บริษัทก่อนหน้า แต่สวัสดิการก็ไม่ได้น้อยหน้าแม้แต่นิดเดียว ที่นี่มีการจัดอาหารกลางวันให้กับพนักงาน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ พร้อมทั้งขนมและเครื่องดื่มฟรีทุกวัน และที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือทุกวันศุกร์บริษัทจะมีการจัดปาร์ตี้ในออฟฟิศ และที่พลาดไม่ได้คือส่วนลดสำหรับการซื้อเสื้อผ้าและเครื่องประดับแบรนด์ Pomelo และยังให้วันลาพักร้อนถึง 14 วันต่อปี สำหรับพนักงานทุกคน
Dean & Deluca Thailand
เรียกได้ว่ามีครบทั้งสวัสดิการที่ดูแลด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจ ที่ Dean & Deluca สำหรับสุขภาพกาย มีการสนับสนุนพนักงานในหลากหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น การตรวจสุขภาพประจำปีฟรี การเบิกค่าทันตกรรม ไปจนถึงกิจกรรมตีแบตหลังเลิกงาน ส่วนสุขภาพใจระหว่างทำงานพนักงานสามารถเบิกเครื่องดื่มได้ฟรี รวมทั้ง Canteen สำหรับพนักงานเพื่อทานอาหารและพักผ่อน และที่ “ดีต่อใจ” มากไปกว่านั้นคือ สำหรับพนักงานที่เพิ่งแต่งงานทางบริษัทมี Wedding Allowance เป็นเงินขวัญถุงสำหรับเริ่มต้นชีวิตครอบครัวด้วย
มิตรผล
มิตรผลถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างบริษัทที่นำเอาหลักการเรื่อง Employee Centric มาใช้ในการกำหนดสวัสดิการให้กับพนักงาน เพราะที่นี่ยึดหลักว่า “เราไม่ได้มุ่งเน้นแค่การทำงาน เราอยากให้พนักงานมีความสุข Feel Good ที่ได้มาทำงาน และได้พัฒนาตนเองด้วย” ดังนั้นมิตรผลจึงมีการสนับสนุนการพัฒนาทักษะด้านภาษา ทั้งคอร์สเรียน การสอบวัดความรู้ และการทำ Workshop อีกมากมาย ส่วนด้านการพัฒนาสุขภาพกาย บริษัทก็มีฟิตเนสสำหรับพนักงานพร้อมผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ทางโภชนาการด้วย
Line Thailand
ถ้าพูดถึง LINE คงจะนึกถึงคำว่า “WOW” เพราะไม่ใช่เพียงคาแรกเตอร์ที่ตกแต่งทั่วออฟฟิศ แต่ยังรวมไปถึงสวัสดิการและวัฒนธรรมอง์กรแนว Work-life Balance ที่ทำให้ “WOW” อีกด้วย เริ่มจากเติมพลังทุกวันด้วยอาหารเช้า กลางวัน ยังมีไอศกรีมเดย์ทุกวันศุกร์ และกิจกรรม LINE Connect Day ที่ให้พนักงานมาปาร์ตี้ สังสรรค์ อัพเดท เพื่อใกล้ชิดกันมากขึ้นทุกเดือน นอกจากนี้สิ่งที่พิเศษกว่าที่อื่นก็คือ Welcome Pack ของพรีเมี่ยมของ LINE ที่ให้พนักงานใหม่ทุกคน และ Giftcode สำหรับซื้อสติกเกอร์ ธีม ไอเทมเกม ที่แจกให้พนักงานตลอดปี ทำงานกันแล้วก็ต้องพักผ่อนกันด้วย LINE ให้ไปรีแลกซ์ 10 -15 วันและหยุด 1 อาทิตย์เต็มช่วงสงกรานต์ไปเลย
จะเห็นได้ว่าบริษัทที่มีสวัสดิการสำหรับพนักงานเจ๋งๆ ล้วนแล้วแต่มีการให้สวัสดิการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและทักษะของพนักงาน แต่นั่นเป็นเพียงตัวอย่างจากบริษัทส่วนน้อยในอุตสาหกรรม ยังมีบริษัทส่วนใหญ่ในประเทศไทยที่ WorkVenture ค้นพบจากการสำรวจครั้งนี้คือ การให้สวัสดิการที่จ่ายเป็นตัวเงิน เช่น โบนัสและเงินเดือน ยังคงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมของทุกอุตสาหกรรม โดยวัตถุประสงค์หลักของคือเพื่อสร้างแรงจูงใจในการสร้างผลงานให้กับบริษัทนั่นเอง
ในขณะที่บริษัทส่วนใหญ่ในไทยเน้นการให้สวัสดิการที่เป็นตัวเงินเป็นหลัก บริษัทชั้นนำของโลกมีการใช้สวัสดิการเป็นกลยุทธ์ในการบริหารทรัพยากรบุคคลของบริษัท ซึ่งมีทิศทางเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงานโดยรวม มากกว่าที่จะจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อให้พนักงานทำงานมากขึ้นเท่านั้น และนี่เป็น 3 เทรนด์ สวัสดิการของปี 2017 ที่ HR ไทยสามารถนำมาปรับใช้ได้
1. พัฒนาสุขภาพกาย และ สุขภาพใจ
โปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปี ประกันสุขภาพ สมาชิกฟิตเนส สามารพัฒนาความสุขโดยรวมของพนักงานได้ มีการศึกษาของบริษัท Fitbit Group Health พบว่าสุขภาพของพนักงานมีความสัมพันธ์กับ ROI ของบริษัท นอกจากนี้ Fitness Tracking Device อย่าง Fitbit หรือ Apple Watch อาจจะกลายมาเป็นหนึ่งใน Gadget สำคัญในปีนี้เพราะมีการศึกษาว่าเครื่องมือเหล่านี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับด้านสุขภาพของพนักงานในระยะยาวได้
2. การให้ความช่วยเหลือทางการเงิน
การให้ความช่วยเหลือทางการเงินในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการให้เงินสดกับพนักงานโดยตรง แต่เป็นการให้คำปรึกษาด้านการเงินและการลงทุนในระยะสั้นและระยะยาว เพราะมีการศึกษาของ Willis Towers Watson's Global Benefits Attitudes Survey พบว่าคนใน Generation Y มีแนวโน้มเริ่มลงทุนเพื่อการเกษียณอายุตั้งแต่เริ่มงาน
3. Work-Life Balance
คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักไม่สามารถจัดการชีวิตตัวเองให้สุดได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานและเรื่องชีวิตส่วนตัว บริษัทต่างๆ จึงเริ่มสร้างความยืดหยุ่นให้กับพนักงานมากขึ้น โดยให้พนักงานในบริษัทของตนทำงานจากที่ไหนก็ได้ หรือสำหรับพนักงานที่เป็น Night Owls บริษัทก็อนุญาติให้พวกเขาเข้างานบ่ายและกลับบ้านช้ากว่าคนอื่นได้
เป็นอย่างไรกันบ้างกับตัวอย่างของบริษัทที่มีสวัสดิการทีน่าสนใจ โดยทางเราเชื่อว่าข้อมูลด้านสวัสดิการเหล่านี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กรของคุณได้ และองค์กรของคุณจะซื้อใจพนักงานได้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลย
สำหรับคุณผู้อ่านท่านใดที่อยากได้ข้อมูลจากแบบสำรวจเพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดได้ข้างล่าง