Job search advice | 28 May 2015

20 สิ่งที่คุณไม่ควรเขียนใน Resume...รีบเอาออกซะ ถ้าอยากได้งาน

 

เรซูเม่เป็นประตูด่านแรกที่จำให้บริษัทและ HR รู้จักกับผู้สมัคร ดังนั้นการเขียนเรซูเม่เพื่อสมัครงานจึงควรทำแต่สิ่งที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกประทับใจหรือถูกชะตา เพื่อจะได้ผ่านเข้าไปสู่ด่านของการสัมภาษณ์งาน และ 20 ข้อต่อไปนี้คือสิ่งที่ WorkVenture ขอแนะนำควรหลีกเลี่ยง ถ้าอยากให้ผู้อ่านเรซูเม่ของคุณเรียกคุณสัมภาษณ์

1. ความสามารถอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง

ถ้าคุณมีความสามารถที่อยากจะพัฒนาต่อไปในงานที่กำลังสมัคร ให้คุณใส่ความสามารถนั้นไว้เป็นอันดับแรก ๆ ใน Resume ของคุณเลย เว้ยเสียแต่จะเป็นความสามารถที่จริง ๆ แล้วคุณก็ไม่ได้ทำได้ดี แถมยังไม่เกี่ยวข้องกับงานที่สมัครสักเท่าไหร่ คุณก็ไม่ควรใส่ความสามารถนั้นลงใน Resume เพราะนอกจะต้องอธิบายในสิ่งที่คุณไม่ถนัดแล้วขณะสัมภาษณ์งานแล้ว ตอนทำงานจริงคุณอาจจะต้องลำบากเวลาทำงานจริงเพราะบริษัทอาจจะคาดหวังให้คุณทำมันได้อย่างดีอีกด้วย

2. งานพิเศษตอนเรียนมัธยมปลาย

ถ้าคุณเพิ่งเรียนจบมัธยมแล้วสมัครงานเลยคุณก็ควรเล่าเรื่องราวนี้ว่าคุณเคยมีประสบการณ์ทำงาน Part Time เว้นเสียแต่ คุณจะบอกได้ว่างานนั้นเกี่ยวข้องกับการทำงานอย่างไร เพราะไม่เช่นนั้น Resume ของคุณจะยาวเกินไปกับสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องอีกด้วย

3. ชื่ออีเมลล์ที่ดูเด็ก ๆ ไม่เป็นมืออาชีพ

ถ้าคุณยังใช้อีเมลล์เก่า ๆ ครั้งวันวาน ที่ถึงแม้สมัยนั้นจะดูเก๋มาก ๆในตอนที่คุณสมัคร ไม่ว่าจะเป็น [email protected] หรือ [email protected] ล่ะก็ ควรเก็บไว้ใช้เป็นส่วนตัวเลย แล้วเปลี่ยนมาใช้เมลล์ที่เป็นชื่อจริง นามสกุลจริงดีกว่า

4. สะกดคำผิดและใช้ไวยกรณ์แบบไม่ถูกต้อง

การสะกดคำหรือใช้ไวยกรณ์แบบผิด ๆ ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้คุณอดได้งาน หรือแม้แต่อดได้โอกาสไปสัมภาษณ์ได้เลยนะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมที่จะตรวจทานให้ดีทุกครั้ง หลาย ๆ ครั้ง และถ้าจะดีกว่านั้นลองให้คนอื่น เช่น เพื่อนหรือญาติช่วยอ่านให้ด้วย !

5. ข้อมูลยิบย่อยที่ไม่เกี่ยวกับงาน

ข้อมูลยิบย่อยต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวอย่างเช่น งานอดิเรกพับกระดาษของคุณก็ไม่ควรจะไปอยู่ใน Resume แต่ถ้าอยากจะพูดถึงความสุดยอดของนกกระดาษคุณเก็บไว้คุยตอนสัมภาษณ์ดีกว่า รวมถึงรางวัลต่าง ๆ ถ้าคุณอยากจะใส่ ก็ควรจะมาจาก กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานหรือกิจกรรมเพื่อสังคม และงานเดิมของคุณจะดีกว่า

6. ไม่เปลี่ยนรูปแบบ ใช้ Resume แบบเดิม ๆ

ลองหาแบบ Resume ใหม่ ๆ ที่จะสะดุดตาให้นายจ้างสนใจ แต่ก็อย่าเลือกแบบที่แปลกและดูยากจนเกินไป ตรวจสอบอย่าลืมใช้ฟอนต์ด้วยว่าเป็นฟอนต์เดียวกันทั้งหมดหรือไม่ เพื่อให้ Resume ของคุณดูเป็นระเบียบ

7. อย่าลืมเป้าหมายในการทำงาน

แทนที่จะบอกว่าคุณกำลังค้นหางานตำแหน่งอะไรเพียงอย่างเดียว ให้บอกว่าเป้าหมายในการทำงานของคุณคืออะไร แล้วคุณมีความสามารถอะไรบ้างและความสามารถนั้นมีประโยชน์อย่างไรกับองค์กร เพราะบริษัทที่เราสมัครงานจะได้รู้ว่าความคิดของเราตรงกับองค์กรหรือไม่

8. ข้อมูลที่ส่วนตัวเกินไป

คุณไม่จำเป็นต้องบอกข้อมูลส่วนตัวละเอียดถึงขั้น วันเกิด เชื้อชาติ หรือแนวคิดด้านศาสนา ยกเว้นงานที่คุณไปสมัครมันมีอะไรเกี่ยวข้อง เหตุผลที่คุณออกจากงานที่เดิม ที่อยู่และชื่อของนายจ้างคนเก่าก็ไม่จำเป็นต้องใส่ ไว้คุณตอนสัมภาษณ์ดีกว่า

9. รูปถ่ายสุดชิล

เหตุผลเดียวที่คุณควรจะใส่รูปลงไปคือภาพลักษณ์ของคุณมีผลต่อการที่คุณจะได้งานหรือไม่ได้งานนั้น และนายจ้างต้องการรูปถ่ายของคุณก่อนเจอตัวจริง แต่ก็ควรเป็นรูปสำหรับการสมัครงาน ไม่ใช่รูปตอนไปเที่ยวสุดชิล

10. ช่วงเวลาว่างงาน

ในบางกรณีคุณอาจจะมีเวลาว่างระหว่างที่ออกจากงานเก่าและกำลังหางานที่ใหม่ คุณไม่จำเป็นต้องใส่ว่าคุณว่างงานมานานเท่าไหร่แล้ว แต่ก็อย่าลืมที่จะเติมเต็มช่วงเวลาเหล่านี้ด้วยการทำงานอาสาสมัคร หรือไปช่วยเพื่อนคุณทำธุรกิจ ซึ่งคุณสามารถใส่ได้ว่าคุณไปเป็นที่ปรึกษา

11. เบอร์โทรศัพท์บ้าน

อย่าใส่เบอร์โทรศัพท์บ้านของคุณเด็ดขาด ให้ใช้เบอร์มือถือเท่านั้น นายจ้างชอบที่จะติดต่อคุณได้ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ตอนที่คุณอยู่บ้าน อย่าลืมเรื่องนี้

12. บุคคลอ้างอิง

คุณไม่จำเป็นจะต้องใส่บุคคลอ้างอิงลงไปใน Resume เพราะถ้าคุณผ่านไปถึงขั้นตอนสัมภาษณ์ได้ นายจ้างก็จะถามคุณอีกครั้งอยู่ดี

13. หน้าที่สอง

ใส่ข้อมูลสำคัญ ๆ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับตัวคุณและประสบการณ์ต่าง ๆ ไว้ที่หน้าแรกของ Resume เพราะหน้าที่สองมักจะไม่ค่อยถูกเปิดอ่านซักเท่าไหร่

14. เดือนที่เริ่มต้นและสิ้นสุดของงาน

เวลาเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงาน ให้ใช้ปีในการบอกว่างานนี้เริ่มต้นและสิ้นสุดเมื่อไหร่ ยกเว้นว่างานนั้นจะเริ่มต้นและสิ้นสุดในปีเดียวกัน ถึงจะใส่เดือนลงไปว่าทำงานมานานเพียงใด

15. คำว่า Resume

ห้ามใส่หัวข้อ Resume ของคุณว่า “Resume” เด็ดขาด ! แต่ควรใช้ชื่อของคุณ เพราะนี่คือ Resume ที่จะบอกข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณเอง

16. บรรยายลักษณะงานเป็นย่อหน้า

เปลี่ยนจากการใช้ย่อหน้า เป็น Bullet Point ในการอธิบายลักษณะงานของคุณ แต่อย่าเยอะไปจนทำให้คนอ่านตาลาย เพราะนายจ้างส่วนใหญ่จะเลิกอ่าน Resume ที่มีย่อหน้าและเนื้อหามากเกินไป และพวกเขามักจะเลือกอ่าน Resume ที่เป็น Bullet Point อ่านง่าย ๆ มากกว่า

17. เงินเดือนที่ผ่านมาแบบหลอก ๆ

อย่าใส่เงินเดือนปัจจุบันเกินความเป็นจริงที่คุณได้ และคุณไม่ควรเรียกร้องเงินเดือนที่เกินความสามารถของคุณไปมากนัก ทางที่ดีก็ใส่ไปว่าคุณคาดหวังจะได้เงินเดือนเท่าไหร่แบบยืดหยุ่นจะดีกว่าให้นายจ้างสามารถต่อรองได้จะดีกว่า เพราะเราไม่มีทางรู้ว่านายจ้างกำลังคิดอะไรอยู่ และคุณอาจจะชวดโอกาสในการสัมภาษณ์เลยก็ได้

18. ชื่อตำแหน่งงานแบบกว้างเกินไป

ใส่ตำแหน่งงานเดิมของคุณตามความเป็นจริงและความเหมาะสม นายจ้างจะได้รู้ว่าคุณเคยทำอะไรมาบ้างและคุณควรจะไปอยู่ในตำแหน่งไหนต่อไป

19. หน้าที่และความรับผิดชอบ

ถ้าคุณอยากให้นายจ้างเห็นว่าคุณดีกว่าผู้สมัครคนอื่น ๆ อย่าใส่หน้าที่และความรับผิดชอบลงไปใน Resume แต่ให้ใส่อะไรที่ทำให้คุณพิเศษกว่าคนอื่น เช่นคุณเคยทำอะไรที่มันท้าทายและคุณเอาชนะมันได้อย่างไร หรือองค์กรเก่าได้ประโยชน์อะไรจากการมองโลกในแง่ดีและความคิดสร้างสรรค์ของคุณบ้าง

20. อะไรก็ตามที่ทำให้นายจ้างรู้ถึงอายุของคุณ

อย่าใส่ตำแหน่งงานที่คุณเคยทำเมื่อนานมากแล้ว และอย่าใส่วันที่คุณจบการศึกษาด้วย การเหยียดอายุยังมีอยู่จริง บางที่จำกัดอายุผู้สมัครอยากรับแต่ผู้สมัครที่อายุไม่เยอะ ถ้าอายุของคุณมากกว่าที่พวกเขาต้องการแม้จะเพียงแค่เล็กน้อย พวกเขาก็อาจจะข้ามใบสมัครของคุณไปเลยก็ได้

 

WorkVenture เชื่อว่าหากคุณลองนำสิ่งเหล่านี้ไปปรับใช้กับ Resume ของคุณจะทำให้คุณถูกเรียกสัมภาษณ์งานแน่นอน

close
Join WorkVenture for the newest job offers and company reviews