ข่าวสารใหม่ๆ | 2 November 2022

เปิดออฟฟิศที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานทุกรูปแบบสำหรับทุกคนที่ Accenture


วันนี้ WorkVenture ขอพาคุณมาเปิดออฟฟิศใหม่ของ Accenture Thailand บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจและเทคโนโลยีระดับโลกที่อยู่บนตึกสุดล้ำใจกลางเมือง เรียกได้ว่า ที่นี่เป็นออฟฟิศที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานทุกรูปแบบสำหรับทุกคน ด้วยบรรยากาศสบายๆ ง่ายต่อการทำงานร่วมกันในการครีเอทไอเดียใหม่ๆ นอกจากจะใช้ประโยชน์ได้ครบครันแล้ว ยังสวยงามเกินบรรยายอีกด้วย เชื่อว่าหลายคนเห็นแล้ว ต้องอยากมาร่วมงานกับ Accenture แน่ๆ เลย!

เริ่มต้นก็ขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 9 ในส่วน West Wing ของตึก The Parq ก็จะพบกับออฟฟิศที่ดูอบอุ่นทันสมัยของ Accenture ซึ่งนอกจากจะเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีที่ดูแลพนักงานกว่า 700,000 คนทั่วโลกแล้ว วัฒนธรรมการทำงานของเขายังน่าสนใจเอามากๆ  ทำให้คนรุ่นใหม่และคนที่มองหางานสุดท้าทายมากมาย มารอต่อแถวเป็นแคนดิเดทของที่นี่ไม่ขาดสายเลยทีเดียว

 

Reception & Welcoming area

เดินเข้ามาในออฟฟิศนี้ สิ่งแรกที่คุณจะมองเห็นได้อย่างชัดเจน คือเคาน์เตอร์สำหรับติดต่อและต้อนรับผู้มาเยือน มีการตกแต่งที่ดูโมเดิร์นแต่อบอุ่น สบายตาด้วยงานไม้ และต้นไม้สีเขียวสด  โดดเด่นสะดุดตาด้วยโลโก้ Accenture ถือเป็นมุมที่บ่งบอกถึงความเป็น Accenture ได้อย่างชัดเจนและยังเป็นที่จดจำของผู้ที่มาเยือนอีกด้วย 
  



Lobby & Waiting Area

โซนนั่งรอผู้มาติดต่อ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าออฟฟิศนี้ออกแบบมาเพื่อทุกคน นั่นไม่ได้หมายถึงเพียงแค่พนักงานเท่านั้น แต่ยังคิดเผื่อผู้มาติดต่อหรือลูกค้าอีกด้วย สังเกตได้จากมุมนี้ที่ถูกออกแบบมาเป็นทรงกลม มีฉากกั้นทำให้ผู้ที่มานั่งรอรู้สึกสบาย ไม่รู้สึกอึดอัด มีภาพผลงานจากศิลปินชาวไทยมาตกแต่งสถานที่ให้ดูไม่น่าเบื่อเพราะออฟฟิศแห่งนี้ มีโอกาสได้ต้อนรับลูกค้าและพนักงานมากมายทั้งในและต่างประเทศ ภาพวาดเหล่านี้จึงถือเป็นการโชว์เอกลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างดี หรือใครจะมาเซลฟี่เป็นที่ระลึกก็ไม่ติดเลย
 

 

Networking Zone

มุมไฮไลท์ของออฟฟิศก็คือตรงนี้เลย เพราะเป็นมุมที่พนักงานส่วนใหญ่ใช้เวลาร่วมกันมากที่สุด เพื่อสร้างมิตรภาพใหม่ๆ กับเพื่อนร่วมงาน หรือจะมานั่งคุยเล่น ปรึกษางานกันก็ยังได้ มองออกไปด้านนอกยังเห็นวิวตึกสวยงามใจกลางกรุง ในส่วนของโซนนี้มีความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ มีขั้นบันไดที่สามารถทำเป็นเก้าอี้และเวทีเพื่อใช้จัด Townhall  หรือกิจกรรมต่างๆ ในออฟฟิศ รวมถึงมีทางลาดสำหรับให้รถเข็นวีลแชร์ขึ้นไปใช้พื้นที่ตรงนี้ได้ด้วย ถือเป็นการใช้พื้นที่ทุกส่วนอย่างคุ้มค่าที่สุด
 



Pantry & Networking area

เมื่อร่างกายต้องการคาเฟอีน ก็ไม่ต้องไปไหนไกล เพราะโซน Pantry มีเครื่องกดกาแฟอัตโนมัติไว้ให้พนักงานได้จิบเบาๆ ชอบกาแฟแบบไหน เลือกได้เลย หรือถ้าใครไม่ดื่มกาแฟก็มีชา โกโก้ หรือนมสดให้ด้วยนะ ซึ่งทำได้ทั้งร้อนและเย็นเลย เพราะมีเครื่องกดน้ำแข็งอัตโนมัติไว้บริการตลอด  พักเบรกกับเครื่องดื่มสุดโปรด ได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานสั้นๆ เท่านี้ก็มีแรงไปทำงานต่อแล้ว
 



Collaboration area

โต๊ะประจำอาจจะเอาท์ไปแล้วสำหรับการทำงานปัจจุบัน ออฟฟิศที่นี่จึงเป็นแบบ Open ไม่มีที่ประจำ ใครอยากนั่งตรงไหนก็เลือกนั่งได้ตามใจชอบ  รวมถึงยังมีโต๊ะที่สามารถปรับระดับความสูงได้ ให้พนักงานสามารถออกแบบพื้นที่การทำงานของตัวเองได้ตามต้องการ ทีนี้พอได้นั่งทำงานในที่ที่แฮปปี้ งานก็จะออกมาดี จริงไหมล่ะ?
 



Game Room

เป็นพื้นที่ไว้สำหรับมานั่งเล่นเกมส์กับเพื่อนร่วมงาน หรือจะมานั่งปรึกษาคุยงาน brainstorming กลุ่มเล็กๆในห้องนี้ก็ได้ ด้วยสีสันที่ดูสดใส เก้าอี้นุ่มสบาย จึงถือเป็นอีกหนึ่งมุมโปรดของพนักงานหลายๆ คนที่นี่เลย
 



Training room

ในส่วนของห้องประชุมใหญ่นี้สามารถจุคนได้ 50-70 คน พร้อมหน้าจอคุณภาพสูงขนาดใหญ่ ทำให้มั่นใจว่าไม่ว่าคุณจะนั่งมุมไหนของห้องนี้ก็มองเห็นจอได้อย่างชัดเจน และทุกโต๊ะยังมีปลั๊กให้อีกด้วย ไม่ต้องห่วงว่าคอมพิวเตอร์คู่ใจจะแบตหมด เพราะที่ Accenture เขาได้คิดเผื่อไว้แล้ว ไม่เพียงแค่เฉพาะในห้องนี้เท่านั้น แต่ทุกมุมของออฟฟิศ พนักงานก็สามารถนั่งทำงานได้สบายๆ แน่ใจว่ามีปลั๊กถึงแน่นอน
 



Phone Booth

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่น่าสนใจในออฟฟิศนี้คือ ตู้ Phone Booth ที่ตั้งกระจายอยู่หลายจุดรอบๆออฟฟิศ  ซึ่งเจ้า Phone Booth นี้ มีไว้เอาเพื่ออำนวยความสะดวกให้พนักงานเข้าไปประชุมหรือคุยโทรศัพท์ในเรื่องสำคัญๆได้ นอกจากจะช่วยให้พนักงานรู้สึกสบายใจระหว่างการพูดคุยแล้ว ยังช่วยให้ลดเสียงรบกวนในออฟฟิศได้ด้วย
 



Project Room

ห้องมุมโค้งตกแต่งสีเขียวสบายตา ทำให้ผู้ที่มาใช้งานห้องนี้รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ เป็นอีกห้องที่เหมาะกับการนั่ง brainstorming แบบจริงจัง วันไหนที่ต้องมีเตรียมพรีเซนต์โปรเจกต์ใหญ่ๆ  ห้องนี้ก็เหมาะเลยนะ
 



Multi - Purpose Room

ถ้าต้องการปลุกไอเดียเจ๋งๆ ล่ะก็ ห้องประชุมสีแดงสุดร้อนแรงนี้ถือว่าเหมาะมากเลยทีเดียว เพราะนอกจากสีห้องที่จะช่วยจุดไฟให้ไอเดียของคุณแล้ว ยังมีเก้าอี้พนักพิงสุดสบาย พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ให้คุณได้สร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ซึ่งที่นี่ก็มีห้อง Multi-Purpose Room หรือห้อง meeting room มากมายหลายสี หลายขนาดให้เลือกใช้ด้วยนะ
 



Accessibility Center

ออฟฟิศที่นี่ได้ออกแบบให้รองรับการใช้งานของทุกคนรวมถึงผู้พิการด้วยเช่นกัน ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็น รถเข็น ทางลาด อักษรเบล และ อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งมุม Accessibility Center นั้นก็เปิดให้พนักงานทุกคนที่อยากลดอาการออฟฟิศซินโดรม หรือนั่งทำงานให้ถูกหลักของการยศาสตร์ หรือ เออร์โกโนมิคส์  (Ergonomics) ก็สามารถเข้ามาใช้งานได้ด้วยนะ เห็นไหมล่ะ ว่าออฟฟิศที่นี่เขาคิดมาแล้ว
 



Wellness Room 

ห้องสีเขียวที่ตกแต่งอย่างอบอุ่น พร้อมเก้าอี้โซฟานุ่มๆ ตัวใหญ่นั่งสบายแห่งนี้คือ ห้อง Wellness ไว้สำหรับให้นมบุตรสำหรับพนักงานที่เป็นคุณแม่สามารถมาใช้พื้นที่ตรงนี้ได้เลย  
 



IT Support Corner

ถ้า laptop ของพนักงานมีปัญหา หรือต้องการ technical support ต่างๆ ที่นี่ก็จะมีโซนของฝ่ายไอทีที่พร้อมดูแลพนักงานทุกคนหรือที่พนักงานที่นี่คุ้นชื่อกันดี อย่าง “LTS Tech Bar” โดยโซนนี้ตกแต่งสไตล์ไม้ตัดกับสีขาว ผสานกับวิวเมืองสุดอลังการ พร้อมเครื่องทำเครื่องดื่มอัตโนมัติ ทำให้พนักงานนั่งรอได้อย่างสบายๆ นอกจากนี้ก็ยังมีมุมนั่งทำงานเพิ่มเติม ที่สามารถมองเห็นวิวเมืองวิวเมืองได้อีกด้วย
 



Locker Zone

ที่นี่ยังมีล็อคเกอร์ให้พนักงานที่ต้องการเก็บสิ่งของ หรือเอกสารต่างๆด้วย ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงานได้อย่างดี โดยล็อคเกอร์เหล่านี้เป็นระบบอัตโนมัติ เพียงแค่คอนโทรลจาก application บนมือถือในการเปิด-ปิด เท่านั้น หมดปัญหาในวันที่ลืมกุญแจไปได้เลย 



Boardroom

อีกหนึ่งห้องประชุมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกสักหน่อย เหมาะกับการประชุมที่เป็นทางการ มองออกไปจะเห็นวิวจากชั้น 9 ของตึกที่ดูสวยงาม โคมไฟประดับที่ดูล้ำสมัย พร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ครบครัน สมกับเป็นผู้นำเทคโนโลยีจริงๆ
 



LEED office

แหม ก็สวย และมากด้วยสารพัดประโยชน์ขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ออฟฟิศที่นี่จะได้ รับการรับรองจาก LEED ที่เรียกเต็มๆ ว่า Leadership in Energy & Environmental Design คือ ความเป็นผู้นำด้านการออกแบบที่อนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมนั่นเอง โดยการรับรองนี้ เป็นโปรแกรมชั้นนำระดับนานาชาติสำหรับการออกแบบและก่อสร้างอาคารอย่างยั่งยืน ซึ่งการที่ Accenture ได้รับการรับรองจาก LEED ก็หมายความว่าออฟฟิศมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในการออกแบบและก่อสร้าง รวมถึงมีส่วนช่วยในการประหยัดพลังาน จากที่เห็นได้ว่าทุกสิ่งในออฟฟิศ Accenture ผ่านกระบวนการคิดไตร่ตรองมาแล้วอย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังมองภาพกว้างไปถึงผู้คนและสิ่งแวดล้อมรอบข้างอีกด้วย นับว่าเป็นบริษัทที่ใส่ใจทุกรายละเอียดอย่างแท้จริง

การได้มาทำงานที่นี่จะทำให้คุณได้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาที่ล้ำสมัยในทุกด้าน และนี่คือส่วนหนึ่งของออฟฟิศ Accenture ประเทศไทย ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของทุกคน ซึ่งแม้จะดูเรียบง่าย แต่ทุกรายละเอียดก็แฝงไปด้วยความหมาย และประโยชน์มากมาย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ Accenture ได้ที่ https://www.workventure.com/en/company/accenture-solutions-co-ltd/jobs