เหตุผลที่ต้องหยุดเป็นมนุษย์ขี้เม้าท์เดี๋ยวนี้!...ถ้าอยากมีชีวิตดีขึ้น

“นี่ๆ รู้รึยัง เค้าเม้าท์กันว่า มีคนเห็นสตีฟจากฝ่ายบัญชีออกมาจากห้องนอนของเด็บบี้ฝ่ายการตลาดตอนเช้ามืดวันอาทิตย์แหละ แล้วก็มีคนเค้าไปเจอสองคนนั้นกินข้าวเที่ยงกันที่ร้านลูอิจิตั้งสองครั้งแล้วนะ แถมเคธี่ยังบอกอีกว่าเธอเคยเห็นสองคนนั่นจับมือกันในลิฟท์ เธอก็รู้ใช่มั้ยว่าสตีฟแต่งงานแล้ว แล้วฉันคุ้นๆ ว่าเด็บบี้ก็พึ่งจัดงานหมั้นกับแฟนของเขาไปนะ เธอว่ายังไงล่ะ? สองคนนั้นทำตัวแบบนั้นมันจะถูกเหรอ?”

คำถามก็คือ แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ

ชีวิตรักแบบฉาวๆ ของสองคนนี้มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับงานของคุณเลย ยกเว้นว่า คุณเป็นภรรยาสตีฟหรือคู่หมั้นของเด็บบี้ หรือคุณต้องทำงานร่วมกับสองคนนี้และเรื่องนี้มีผลกระทบต่อหน้าที่การงานของพวกเขา การที่เราบอกคุณว่า “อย่าซุบซิบนินทา” ไม่ได้แปลว่าอย่าฟังในสิ่งที่พวกเขาพูดๆ กันนะ เพราะคุณอาจจะพบว่าข้อมูลเหล่านี้มันมีประโยชน์ภายหลังก็ได้ แต่สิ่งที่คุณควรจะทำก็คือ รับฟัง แต่ไม่ส่งต่อ การทำแบบนี้จะทำให้คนอื่นรู้สึกว่าคุณเป็นพวกเดียวกับเขา และไม่ทำให้วงสนทนากร่อย คุณไม่จำเป็นต้องขัดคอพวกขี้นินทาพวกนั้น แต่แค่ไม่เอาข้อมูลที่ได้รับมาเม้าท์ต่อให้คนอื่นอีกที

การซุบซิบนินทาเป็นกิจกรรมของคนว่างงาน เช่นเดียวกับการบ่น โอดครวญ เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรเลยค่ะ มันเสียเวลา ไม่ใช่กิจกรรมที่สร้างสรรค์ และมันก็จะทำให้คนอื่นมองคุณว่าเป็นคนไร้สาระ ไม่ทำอะไร ใจแคบ และ น่าเบื่อ การนินทาคนอื่นจะทำให้คุณถูกไม่ใส่ใจกับการทำงานจนปากว่างมานินทาคนอื่นได้ ส่วนการบ่นจะทำให้มุมปากของคุณจะหันลง ทำให้คุณดูหน้าบึ้ง ไม่น่าเสวนาด้วยเอาซะเลย และการบ่นก็อาจจะดึงดูดคนขี้บ่น ชอบโอดครวญทั้งหลายให้เข้ามาหาคุณ จากนั้น คุณก็จะโด่งดังว่าเป็นคนขี้บ่นที่ไม่ทำอะไรดีๆ ให้คนอื่น คุณจะกลายเป็นคนที่ไม่มีแรงบันดาลใจ และทุกอย่างก็จะกลายเป็นวงจรของปัญหาที่หาทางออกไม่ได้

เราเข้าใจว่า บางครั้งเพื่อนร่วมงานของคุณก็หนีงานเอาดื้อๆ แล้วคุณก็ต้องต้องเอางานเขามาทำแทนซะงั้น บางทีหัวหน้าของคุณก็ทำตัวไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง ไร้ความสามารถและก็มักจะมีความคิดที่ไม่เข้าท่าอยู่เสมอ หรือบางทีเพื่อนร่วมงานที่ทำงานผิดพลาดตลอดแต่รู้จักประจบประแจงก็ได้รับการเลื่อนขั้น คนงี่เง่าอยู่รอบตัวคุณเต็มไปหมด โลกใบนี้มันช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย

แต่งั้นคุณบอกเราหน่อยได้ไหมว่า การบ่นว่าโลกนี้มันไม่ยุติธรรมเนี่ย มันช่วยทำให้สถานการณ์เหล่านี้ดีขึ้นได้ยังไง? การคร่ำครวญเรื่องพวกนี้มันทำให้อะไรๆ เปลี่ยนไปไหม?

การบ่นไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยค่ะ และถ้าว่ากันจริงๆ แล้ว มันก็เป็นกิจกรรมที่เสียเวลาซึ่งควรจะถูกสงวนไว้สำหรับคนที่ว่างและไม่มีการมีงานทำด้วยซ้ำ ซึ่งคนที่ชอบโอดครวญ ไม่พอใจกับเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตเหล่านี้ ก็มักจะสนิทกับคนที่ชอบซุบซิบนินทาคนอื่น หรือไม่เขาก็อาจจะเป็นคนๆ เดียวกันก็ได้ เพราะหลังจากที่เขาบ่นเสร็จ เขาก็อาจจะเปลี่ยนโหมดมาซุบซิบนินทาคนอื่นต่อก็ได้

แล้วถ้าคุณเป็นคนติดนิสัยชอบโอดครวญ ขี้บ่น อยู่แล้ว จะทำอย่างไรดีล่ะ? ง่ายมาก! ทุกครั้งที่คุณอยากบ่น คุณต้องบังคับตัวเองให้หาทางออกสำหรับสิ่งที่คุณบ่นไว้ด้วย เรียกได้ว่า ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ก็อย่าบ่นพร่ำเพรื่อนั่นเอง ลองทำแบบนี้ซักอาทิตย์นึง แล้วคุณจะบ่นน้อยลงไปเองล่ะ

การบ่น หรือนินทาผู้อื่นมักจะเกิดขึ้นลับหลังเสมอ แต่จะบอกให้ว่า คราวหลังนะคะ ถ้ารู้สึกว่าอย่างบ่นใครหรือว่าใคร ก็บอกกับเขาตรงๆ ต่อหน้าไปเลย และถ้าเขาไม่อยู่ตรงนั้น ก็ไม่ต้องนินทาค่ะ ส่วนการนินทาคนอื่น ถ้าคุณไม่เข้าร่วมกับเขา เขาก็อาจจะมองว่าคุณแปลกแยก ดังนั้น ทำตัวเหมือนอยู่ในวงสนทนา แต่ไม่ต้องเอาใครไปเม้าท์ต่อจะดีกว่าค่ะ เรื่องง่ายๆ แค่นี้เอง ทำกันให้ได้นะคะ!