Job search advice | 27 October 2015

พูดคุยแบบโปรๆ กับช่างภาพมือโปร

ในช่วงเทศกาลรับปริญญาแบบนี้ หนึ่งอาชีพที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฮอตฮิตและเป็นที่ต้องการมากที่สุดก็คือ อาชีพช่างภาพนั่นเองค่ะ พวกเขาเหล่านี้มีหน้าที่สำคัญในการตามเก็บทุกภาพความประทับใจ ให้กับเหล่าบัณฑิต ครอบครัว และเพื่อนๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดี เรียกได้ว่า ถ้าขาดช่างภาพคนสำคัญไปล่ะก็ ความทรงจำในวันสำคัญของใครหลายๆคนอาจจะไม่สมบูรณ์เลยก็ได้

 

อาชีพนี้ฟังดูน่าสนใจใช่มั้ยล่ะคะ แต่รู้หรือเปล่าว่า การจะมาเป็นช่างภาพมืออาชีพนั้น ไม่ง่ายเลย ไม่ใช่แค่ว่ามีกล้อง มีนางแบบ กดปุ่มสองสามแชะ ก็เรียกตัวเองว่าเป็นช่างภาพได้แล้วนะคะ ก่อนจะมาเป็นช่างภาพที่มีฝีมือได้นั้น ก็ต้องผ่านการเรียนรู้ ฝึกฝน จนกว่าจะได้ค้นพบแนวทางที่ใช่สำหรับตัวเอง และแน่ใจแล้วว่าเส้นทางสายนี้เหมาะกับเราจริงๆ วันนี้ WorkVentureจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับช่างภาพมืออาชีพเจ้าของผลงานอันโดดเด่น ที่มาพร้อมกับเรื่องราวน่าสนใจ และเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแน่นอนค่ะ

 

 

Wish Photograph

www.facebook.com/wishphotograph

 

“แนะนำตัวเองหน่อย”

 

สวัสดีครับ Wish Photograph ครับ ผมเป็นผู้ชายอารมณ์ดี อายุ 20กว่าๆ  ที่รักการถ่ายภาพครับ 

 

“ทำไมถึงมาเป็นช่างภาพล่ะ?”

 

เริ่มมาจากความชอบและความสนใจล้วนๆเลยครับ ผมรู้สึกว่า เวลาได้อยู่หลังกล้อง ได้มองสิ่งต่างๆผ่านช่องมองภาพแล้วมันสนุกดี ผมเริ่มศึกษาเรื่องกล้องและการถ่ายภาพ จากเว็บต่างๆและหนังสือ ด้วยตัวเอง (ไม่ได้เรียนสายนี้มา) พอซื้อกล้องมา ก็ถ่ายนู่นนี่ ถ่ายทุกอย่าง ฝึกไปเรื่อยๆ จนเริ่มมารับงาน เล็กๆน้อย ศึกษางานจากช่างภาพเก่งๆคนอื่นๆ มีไปขอเป็นผู้ช่วยเพื่อศึกษาวิธีการทำงานด้วยครับ พอเริ่มมั่นใจในฝีมือของตัวเอง ก็เลยสร้างเพจ สร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา จากวันที่เริ่มต้น ก็ผ่านมาราวๆ 5-6 ปีได้ละครับ ทุกวันนี้ก็ไม่มีเบื่อนะ อาจจะเคยมีท้อบ้าง เจอทางตันบ้าง แต่ก็ยังสนุกที่ได้สร้างร้อยยิ้มให้กับลูกค้า ได้เปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับทั้งตัวเราเองและลูกค้า ผมพยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด แม้จะเหนื่อย มีเวลาพักผ่อนน้อย ผมก็มีความสุขกับงานนี้ครับ 

 

 

“ชีวิตหนึ่งวันของการเป็นช่างภาพ”

 

บางทีก็ต้องตื่นเช้าเพื่อเดินทางไปถ่ายงาน ตี 2 บ้าง ตี 4 บ้าง ผมมันคนต่างจังหวัดครับ ฮ่าๆ ไปถึงเราก็พักผ่อน เตรียมอุปกรณ์ รอเริ่มงานตามกำหนดการ ระหว่างรอก็พูดคุย สร้างความเป็นกันเองกับลูกค้า หลังจากนั้นก็เริ่มงานถ่ายภาพ แอบงีบบ้างเวลาพัก พอเสร็จงาน เย็นบ้างดึกบ้าง ก็เก็บของกลับบ้าน ถึงบ้านก็ยังไมได้นอนนะ ต้องมาเคลียร์ไฟล์รูปของแต่ละวัน ชาร์จอุปกรณ์ ทำความสะอาดกล้องและเลนส์เพื่อเตรียมงานต่อวันพรุ่งนี้หรือสำหรับวันอื่นๆ วันๆผมก็ทำอยู่แค่นี้แหละครับ บางทีก็อยากให้หนึ่งวันมากกว่า 24 ชม. นะ จริงๆ ส่วนวันที่ไม่มีงาน ผมก็จะใช้เวลาส่วนใหญ่ปรับแต่งภาพที่ถ่ายมา เวลาที่เหลือก็ใช้ศึกษาดูงานช่างภาพท่านอื่นๆ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการสร้างผลงานใหม่ๆ

 

 

“ปกติชอบถ่ายภาพแนวไหน? จุดเด่นของเราคืออะไร?”

 

ผลงานของผมส่วนใหญ่ ก็จะเป็นภาพที่ดูเรียบง่ายแต่น่าสนใจ สีสบายตา อาจจะดูไม่อลังการแต่ก็ไม่ธรรมดานะ ผมจะเน้นดึงตัวตนของแบบที่เราถ่ายผสมกับสไตล์ของตัวผมเอง เก็บอารมณ์และโมเม้นต่างๆของตัวแบบ ซึ่งแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกัน ซึ่งผมจะเน้นที่ว่า ให้เป็นตัวของเขาเอง ให้เป็นธรรมชาติที่สุด ทุกๆครั้งที่เขาดูรูป เขาจะได้รู้สึกว่า นี่คือตัวเขาเอง ไม่ปรุงแต่งจนเกินไป

 

ผมชอบถ่ายภาพแนว portrait นั่นล่ะครับ แบบสบายๆ และหากมีเวลาว่าง ไปถ่าย landscape ก็สนุกดีนะครับ งานหลักๆ ที่จะรับถ่ายก็จะเป็น wedding pre-wedding รับปริญญา และโปรไฟล์ อีเว้นท์ต่างๆ ครับ  หากยังสงสัย สไตล์ที่ผมถ่ายนั้นประมาณไหน ลองเข้าดูที่ www.facebook.com/wishphotograph ได้เลยครับ รับลองดูไม่เบื่อ  

 

 

#Fenderfoto

www.facebook.com/FenderFoto-516848351797995

 

“แนะนำตัวเองหน่อย”

 

ชื่อเฟนเดอร์ หรือ #fenderfoto นะคะ เพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ คณะนิเทศศาสตร์ เอกประชาสัมพันธ์ ค่ะ เป็นคนระยอง ก็เลยชอบถ่ายทะเล เรือ และท้องฟ้ายามเย็นค่ะ ยามเช้าไม่ไหวค่ะ เพราะตื่นไม่ทัน ฮ่าๆ ชอบจับกล้องมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ชอบถ่ายวีดีโอ ถ่ายภาพมุมสูง หรือว่าถ่ายรูปธรรมดา ชอบหมดค่ะ

 

 

“ทำไมถึงมาเป็นช่างภาพล่ะ?”

 

เพราะว่าได้แรงบันดาลใจแม่ค่ะ แม่เอารูปเราตอนเด็กๆมาโชว์ แล้วก็เล่าเรื่องตอนนั้นตอนนี้ให้ฟังค่ะ เห็นรอยยิ้มนั้นแล้วทำให้รู้ว่ารูปถ่ายธรรมดานี่แหละ เก็บความทรงจำดีๆของคนไว้ได้มากมาย อีกอย่างคือเราเป็นคนลุยๆค่ะ ต่อให้ต้องลุยป่า ลุยน้ำ ลุยโคลน เพื่อภาพถ่ายดีๆสักใบ ลำบากแค่ไหนก็สู้ค่ะ

 

 

“ชีวิตหนึ่งวันของการเป็นช่างภาพ”

 

วันทำงานปกติก็จะพยายามไปถึงสถานที่เร็วกว่าปกติ เพื่อจะได้สำรวจสถานที่รอบๆ หามุม หาที่นั่งพักตากล้องด้วยเช่นกัน ฮ่าๆ แล้วก็ต้องเทสแสงก่อนถ่ายด้วยค่ะ พอลูกค้ามาถึงก็จับกดชัตเตอร์รัวๆเลยค่ะ ฮ่าๆ พยายามเช็คไฟล์ภาพบ่อยๆ อยากให้จบหลังกล้องมากที่สุดค่ะ เพราะเราจะพยายามส่งไฟล์ให้ลูกค้าเร็วที่สุดค่ะ บางคน 2 วันก็ได้ภาพแล้ว ลูกค้าแฮปปี้ เราก็แฮปปี้ ส่วนใหญ่ก็ประมาณนั้นค่ะ

 

 

“ปกติชอบถ่ายภาพแนวไหน? จุดเด่นของเราคืออะไร?”

 

ก็ถ่ายแนวที่เป็นตัวเราที่สุดค่ะ ย้อนแสงบ้าง ฟรุ้งฟริ้งหน่อยๆ หรือจะมุมยิ้มแบบเผลอๆก็ใช่สไตล์เราเลยค่ะ ส่วนถ้าถามว่าชอบถ่ายแนวไหนเป็นพิเศษ ก็คิดว่าชอบถ่ายภาพธรรมชาตินะค่ะ ยังไงก็ติดตามผลงาน #fenderfoto กันได้ที่ https://www.facebook.com/FenderFoto-516848351797995/

 

 

Print Photographer

www.facebook.com/print.photograph

 

“แนะนำตัวเองหน่อย”

 

ชื่อ บาเรียน วิศิษฏ์ศาสตร์กุล ชื่อเล่น “ปริ๊นท์” ครับ จบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยรังสิต คณะ Digital Art ครับผม ปัจจุบันเป็นช่างภาพอิสระครับผม

 

 

“ทำไมถึงมาเป็นช่างภาพล่ะ?”

 

ส่วนตัวผมชอบการถ่ายภาพมาตั้งแต่สมัยเรียนครับ แล้วบังเอิญมีโอกาสได้ลองรับงานถ่ายภาพรับปริญญาจากรุ่นพี่ของเพื่อน ก็เลยเริ่มถ่ายภาพจริงจังตั้งแต่ตอนนั้นครับ จากนั้นก็เริ่มเปิดเพจและรับงานด้วยตนเองมาเรื่อยๆครับผม ต้องบอกว่าโชคดีที่เกิดมาใน ยุค social ด้วยแหละครับ ฮ่าๆ

 

 

“ชีวิตหนึ่งวันของการเป็นช่างภาพ”

 

ผมคิดว่าช่างภาพที่ดีต้องมีความตื่นตัวในการทำงานครับ เพราะอาชีพนี้มันต้องมีการพูดคุย มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่งก็จะทำให้เราทำงานง่ายไปด้วย ที่เหลือก็จะเป็นเรื่องของการแบ่งเวลาสำหรับแต่งรูป ส่งงาน อีกอย่างที่ผมคิดว่าจำเป็นมากๆคือ เราต้องมีวินัยต่อตัวเองและต่อลูกค้า ถ้ามีเวลาว่าง (ซึ่งก็ว่างเยอะฮ่าๆ) ผมก็จะเสพงาน เพื่อหาไอเดียใหม่ๆ เราต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ตัวผมเองก็ยังต้องพัฒนาอีกเยอะครับ ฮ่าๆ

 

 

“ปกติชอบถ่ายภาพแนวไหน? จุดเด่นของเราคืออะไร?”

 

ผมชอบถ่ายภาพกับแสงธรรมชาติครับ คิดว่ามันดูไม่ประดิษฐ์ดี ยิ่งกับงานรับปริญญายิ่งสนุกครับแสงแต่ละวันมันจะไม่เท่ากัน มีอะไรให้คิดให้ทำเยอะดีครับ  ถ้าถามถึงจุดเด่นในงานของผม ก็คิดว่าน่าจะอยู่ที่ความสบายๆ อย่างเช่น งานรับปริญญา เราก็อยากให้น้องๆเค้าดูเป็นตัวของตัวเองที่สุดครับผม

 

 

TaklongGotji

www.facebook.com/TaklongGotji

 

“แนะนำตัวเองหน่อย”

 

ผมชื่อ ไตรทิพย์ น้ำทองไทย ชื่อเล่นว่า สก๊อต หรือคนส่วนใหญ่จะรู้จักในนาม ตากล้องก๊อตจิ ปัจจุบันอายุ 27 ปี เรียนจบด้านวิศวะฯ มัลติมีเดียและระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพครับ

 

 

“ทำไมถึงมาเป็นช่างภาพล่ะ?”

 

ผมชอบถ่ายภาพมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วครับ แต่ส่วนใหญ่ก็เน้นถ่ายเล่นสนุกๆกับเพื่อนๆ พอจบมามีโอกาสได้ทำงานตามสายที่เรียนมาสักพักนึง ก็คิดว่ามันยังไม่ใช่ตัวตนเรา เลยออกมาค้นหาสิ่งที่ใช่ ผมก็ลองทำมาหลายอย่างนะครับ จนวันนึง ได้กลับไปจับกล้องอีกครั้ง เนื่องจากได้มีโอกาสไปถ่ายงานรับปริญญาให้น้องที่รู้จัก ตอนนั้นก็รู้สึกแทบจะทันทีเลยครับ ว่าสิ่งนี้แหละคือสิ่งที่ใช่ สิ่งที่เราสามารถอยู่กับมันได้ตลอดเวลา ผมสามารถที่จะใช้เวลาทั้งวันนั่งเล่นกับกล้องตัวโปรดของผม ชอบความรู้สึกที่มองภาพต่างๆผ่านเลนส์ ได้เห็นความสวยงามที่มากกว่าที่ตาเห็น รู้สึกว่าเสน่ห์อย่างหนึ่งของภาพถ่ายคือ เราสามารถจะหยุดความทรงจำ ความรู้สึก ณ ตอนนั้น เพื่อที่จะเก็บเอาไว้ดูได้ตลอดเวลา นั่นแหละครับ ผมถึงไม่รีรอที่จะผันตัวเองและเริ่มเป็นช่างภาพนับตั้งแต่วันนั้น

 

 

“ชีวิตหนึ่งวันของการเป็นช่างภาพ”

 

ถ้าวันที่มีถ่ายภาพ ส่วนมากผมจะตื่นมาตั้งแต่ตี4 เพื่อที่จะเตรียมตัวไปก่อนลูกค้าเสมอ สำหรับผมเรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญ มันถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการเริ่มงานในวันนั้น พอถ่ายงานเสร็จ ก็ต้องทำตัวอย่างให้ลูกค้าชมก่อนเป็นน้ำจิ้มครับ ส่วนภาพเต็มๆก็ต้องใช้เวลารังสรรค์ให้สวยงามสมบูรณ์แบบ ซึ่งใช้เวลาอีกประมาณไม่เกิน 2อาทิตย์ครับ นั่นก็คือช่วงวันหยุด ที่เหมือนจะได้หยุด แต่ก็ไม่ได้หยุด เพราะต้องใช้เวลาเหล่านี้มาแต่งรูปให้ลูกค้าครับ ส่วนช่วงที่ไม่มีงานถ่ายภาพ ผมจะชอบตื่นมาช่วงเช้ามืดเพื่อมานั่งแต่งภาพให้ลูกค้าครับ ผมชอบเวลาช่วงนั้น ช่วงที่ได้นอนมาเพียงพอ ช่วงที่อากาศเย็นๆ เสียงทุกอย่างจะเงียบๆ บางทีก็เปิดเพลงเบาๆ นั่งทำงานไป ฟังเพลงไป ก็ได้อารมณ์ดีครับ พอสายๆทำงานเสร็จก็จะนอนกลางวันสักนิด บ่ายๆมาตื่นมาอีกทีผมก็ต้องขอเช็คโลกโซเชียลนิดนึง ซึ่งถือว่าขาดไม่ได้ เพราะเป็นช่องทางหลักในการหางานของผม ส่วนมากก็จะมีลูกค้าติดต่อมาทางเพจถ่ายภาพส่วนตัว ไม่ก็ตามเว็บไซต์หาช่างภาพที่เราต้องหมั่นไปโพสต์เพื่อเสนอผลงานของตัวเองครับ ในเว็บเหล่านั้นจะมีช่างภาพเยอะมาก ที่จะมาตามหาลูกค้าเหมือนผม ดังนั้น ถ้าใครจะอยู่วงการนี้จะต้องหมั่นฝึกฝนฝีมือตัวเอง และรักษาคุณภาพให้ได้อยู่เสมอนะครับ

 

 

“ปกติชอบถ่ายภาพแนวไหน? จุดเด่นของเราคืออะไร?”

 

ผมชอบถ่ายภาพ portrait หรือภาพถ่ายบุคคลครับ เพราะเวลาถ่ายภาพคน ก็เหมือนการดูหนัง ได้เห็นอารมณ์ ความคิด ความรู้สึกต่างๆ ตัวแบบสามารถถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้เป็นร้อยเป็นพัน และมันก็ท้าทายว่าจะทำยังไงที่จะบอกเล่าอารมณ์เหล่านั้นออกมาเป็นภาพถ่ายได้ชัดเจนที่สุดครับ

 

ส่วนจุดเด่นของผมที่ดีทีสุด ก็คือการที่ผมมักจะชอบค้นหามุมมองที่จะทำให้แบบออกมาสวยที่สุด ดูดีที่สุด สำหรับผม ผมเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนมีความสวย แต่อาจจะสวยคนละแบบกัน นั่นถือเป็นเสน่ห์ของผู้หญิงเลยนะครับ ส่วนถ้าถ่ายแบบผู้ชาย ผมชอบจะดึงความเป็นเอกลักษณ์ของคนๆนั้นออกมาเช่นกัน ดังนั้น การถ่ายภาพบุคคลสำหรับผม เหมือนจะง่าย ก็ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกิน ถ้าเราสามารถดึงเสน่ห์ ความโดดเด่น หรือถ่ายทอดความรู้สึกของแบบนั้นออกมาให้สวยงามที่สุดบนรูปภาพนั้นๆครับ