น้อง . พี่ (หรือ) ที่รัก...ความสัมพันธ์แบบนี้อย่าเกินเลยในที่ทำงานจะดีกว่า
แรงบันดาลใจต่อการเดินทางมาทำงานในแต่ละวัน สำหรับบางคนคือการมีความรักในที่ทำงาน แน่นอนว่าหลายคนบอกว่าความรักคือสิ่งสวยงามซึ่งนิยามนี้เราคงไม่ปฏิเสธ แต่ความรักก็มีมุมมืดเหมือนกัน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทรยศต่อความสัมพันธ์ที่เกิดจากความไว้ใจ ทีนี้แหละมันจะไม่ได้ตามมาด้วยสถานะแห่งการเลิกลาเพียงอย่างเดียว แต่จะมีผลกระทบอย่างอื่นตามมาด้วย ถ้าความสัมพันธ์จากพี่น้องมาเป็นที่รักที่ลงเอยกันไม่สวย นี่คือเส้นทางที่คุณอาจต้องเจอหลังจากนี้
เพราะรักแล้วช้ำ รักมันทำลาย
ผลกระทบแรกที่จะตามมาคือ หากงานที่คุณทำอยู่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับอดีตคนเคยรักที่จบลงไม่สวยงามเหมือนเครื่องสำอางค์บนใบหน้า จะสร้างปัญหาจุกจิกต่างๆ ตามมามากมายจากทัศนคติเชิงลบ ไม่ว่าจะเป็นการตามงาน การแก้ไขงาน โดยเฉพาะหากคุณไปหักอกคนที่มีอำนาจมากกว่าในหน้าที่การงาน ก็ถือว่าเจอโจทย์หินพอสมควรในการทำงานด้วย ยกเว้นกรณีที่คุณและเขาเป็นมืออาชีพพอที่จะแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ อันนี้ก็ถือว่าเป็นบุญกุศลมหาศาลที่ต่างคนจะได้รับ สิ่งสำคัญไปกว่านั้นคือเพื่อนร่วมงานและบรรยากาศโดยรวมไม่เกิดความอึดอัดจากความสัมพันธ์ที่คุณสร้างขึ้นมาด้วย
เพียงกระซิบบอก...บอกฉันสักคำ
ปัญหาต่อมาที่คุณจะเจอคือสำนักข่าวกอสซิปประจำออฟฟิศที่ทุกที่มักจะมี ยิ่งเป็นเรื่องหวานๆ คาวๆ นี่แหละชาวออฟฟิศชอบนักชอบหนา แน่นอนว่าเหตุการณ์แบบนี้ จะทำให้คุณเจอข่าวลือจากคนอื่นๆ และสายตาแปลกๆ จากคนรอบข้างพอสมควร สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ และสภาพบรรยากาศที่ไม่ชวนมาทำงานอีกด้วย หากถามว่าจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร คงไม่มีคำแนะนำที่ดีกว่า การตั้งใจทำงานและคงต้องปล่อยให้เรื่องที่เกิดขึ้นเงียบลงไปเอง
ออกยังงี้ต้องลาออก
สืบเนื่องจากสองข้อที่แล้ว...บางคนรับสภาวะบรรยากาศที่เกิดขึ้นไม่ไหว ก็ถึงเวลาที่ต้องเดินไปสารภาพบาปกับ HR ว่ามีความรู้สึกอย่างไร และทำไมถึงจะตัดสินใจลาออก ซึ่งเมื่อเรื่องที่เกิดขึ้นเดินมาถึงขั้นตอนนี้ ก็จะเป็นขั้นตอนที่ HR จะแสดงศักยภาพในการรักษาคนไข้ด้วยกลวิธีต่างๆ เสมือนหมอที่ต้องวินิจฉัยโรคก่อนจะจ่ายยาให้ไปรักษาแล้วกลับมาตรวจเป็นระยะๆ
มีบางกรณีที่ HR เสนอให้ย้ายแผนกเพื่อรักษาบุคลากรที่มีความสามารถเอาไว้ หรือหากหมดหนทางในการแก้ไข ก็ยินยอมที่จะให้เรื่องทั้งหมดจบลงเป็นเพียงตำนานที่กล่าวขานกันรุ่นสู่รุ่น จนเป็นบทเรียนของ HR ที่ได้ร่างนโยบายใหม่ขึ้นมาต่อพนักงานรุ่นใหม่ และรุ่นเก่าว่า เป็นพี่น้องกันในที่ทำงานดีแล้ว แต่ถ้าจะมีความรักกันนั้นอาจมีได้ แต่อย่าให้หอรักล่มสลายจนเลยเถิดมาถึงหน้าที่การงานเลย เพราะนอกจาก HR ยังต้องดูแลพนักงานและวัฒนธรรมองค์กรแล้ว การที่จะมาเป็นผู้รักษาบาดแผลความรักของพนักงานอีกด้วยนั้น มันคงเหนื่อยไม่ใช่เล่น