ช่วงว่างงาน ทำอะไรดี? วิธีเพิ่มคุณค่าในช่วงหางาน
สำหรับนักศึกษาจบใหม่ที่ยังหางานไม่ได้ หรือบางคนแล้วอาจจะไม่รู้มาก่อนว่าจะต้องตกงานกะทันหัน ทำให้เกิดหลายๆ ความรู้สึกไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกว่างเปล่าเพราะไม่ทันได้เตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ยิ่งถ้าต้องว่างงานเป็นเวลานานๆ ด้วยแล้ว หลายคนอาจจะรู้สึกท้อแท้หรือหมดกำลังใจได้ WorkVenture จึงอยากที่จะแนะนำแนวทางที่จะเปลี่ยนช่วงเวลานี้ให้กลายเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่า และบางคนอาจจะค้นพบตัวเองจากการทำกิจกรรมต่างๆ ช่วงที่ว่างงานนานๆ ไปเลยก็ได้
1. อ่านหนังสือประเภทที่ปกติไม่อ่าน
การอ่านหนังสือนั้น เชื่อว่าหลายคนก็คงจะรู้อยู่แล้วว่าดีเพียงใดเพราะให้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินได้ แต่อาจจะไม่ค่อยมีเวลาอ่านหนังสือเท่าไหร่ ในช่วงที่ยังทำงานอยู่ แต่ไหนๆ เมื่อต้องว่างงานแล้ว ลองเอาเวลาที่ว่างในช่วงนี้ศึกษาอะไรที่ไม่เคยศึกษาอย่างจริงจังมาก่อน เช่น
-
เรื่องเกี่ยวกับการลงทุนที่แต่ก่อนรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัวและยากที่จะเข้าใจ ก็เอาเวลามาศึกษาอย่างจริงจังเสีย
-
แรงบัลดาลใจจากบุคคลที่ประสบความสำเร็จ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จมักจะพบเจอปัญหามากมายก่อนที่จะประสบความสำเร็จ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะพบเจอกับคนที่ประสบปัญหาเดียวกันกับคุณแล้วทำให้คุณหาทางออกที่เหมาะสมกับตัวเองได้
2. เรียนภาษา
หากคุณรู้ภาษาที่สอง ที่สามย่อมทำให้เกิดโอกาสในการทำงานมากขึ้น ซึ่งหากคุณยังไม่รู้จะทำอะไรดี ก็อาจที่จะเลือกเรียนภาษาให้เก่งไปเลยสักภาษาก็ได้ เช่น ตั้งเป้าหมายว่าจะสอบ TOEIC HSK JLPT หรืออื่นๆ ให้ได้คะแนนดีขึ้น หรือสนทนาให้เก่งขึ้น ทุกวันนี้มีช่องทางออนไลน์สำหรับเรียนภาษาในราคาที่ไม่แพงมาก หรือเรียนฟรีก็มีเช่นเดียวกัน
โดยคุณอาจจะเริ่มจากการท่องศัพท์ ดูภาพยนต์ หรือจำเนื้อร้องเพลงให้ได้ เพราะวิธีการเรียนภาษาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนจำเป็นภาพได้ดี แต่บางอาจจะชอบจำจากรากศัพท์ ดังนั้นก็หาวิธีเรียนที่ใช่สำหรับตัวคุณเอง และเมื่อคุณได้งานทำ ก็ควรที่จะพัฒนาทักษะด้านภาษาต่อไปเพื่อไม่ให้ขาดตอน
3. ลงอบรมทำอาหาร งานฝีมือ หรือสาขาที่อยากรู้
หลายคนคงมีงานอดิเรกที่ชอบแต่ไม่ได้ฝึกฝนให้ชำนาญจริงๆ จังๆ เสียที หรืออาจจะไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร ลองหัดทำของ Handmade ไม่ว่าจะเป็นพวกของถักทอ สมุดทำมือหรืออื่นๆ เพื่อนำไปขายตามตลาดนัดของเหล่า Hipster
ลองเรียนทำอาหาร จากเมนูง่ายๆ อย่างเมนูไข่ ว่าจะเป็น ไข่ปิ้งทรงเครื่อง ไข่เจียวจักรพรรดิ์ อะไรก็ว่าไปขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของคุณ นอกจากนี้คุณอาจจะไปเลือกเรียนที่คุณไม่ได้ทำจริงๆ จังๆ เสียที เช่น เรียนดนตรี เรียนการนวด หรือแม้แต่เรียนดูดวง ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
4. ฟังสัมนาฟรี
ทุกวันนี้มีงานสัมนาและงาน Event ที่จัดฟรีๆ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาต่อต่างประเทศ งานแสดงสินค้า งานสัมนาเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่าย งานเหล่านี้อาจจะไม่ได้เป็นการพัฒนาทักษะเพื่อให้คุณได้งาน แต่ก็จะทำให้คุณได้ค้นเรื่องราวใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งช่วยทำให้ไดเดียของคุณพุ่งกระฉูด หรือบางทีก็อาจจะเจอคนที่มีความสนใจเหมือนกันและได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน
5. เดินทางพักผ่อน
ไม่จำเป็นต้องไปไหนไกลๆ เพราะอาจจะต้องเสียเงินจำนวนมาก ลองนั่งรถไฟฟ้าไปเช้าเย็นกลับ สบายๆ ในจังหวัดใกล้ เช่น ถ้าอยู่กรุงเทพฯ ก็อาจจะลองไปเที่ยวกาญจนบุรี หัวหินหรือพัทยา คุณอาจจะรู้สึกว่าไม่อยากไปจังหวัดใกล้ๆ เพราะก็คงจะเหมือนๆ หรือไม่ต่างจากที่ๆ คุณอยู่มากนัก แต่ช่วงเวลาที่ว่างงานนั้น คุณจะมีเวลาซึมซับสิ่งต่างๆ รอบตัวมากขึ้น หรือก็คือใช้ชีวิตแบบสโลวไลฟ์ได้ นั่นเอง โดยอาจจะเปลี่ยนเป้าหมายจากการไปเที่ยวเพื่อเที่ยวแบบหนักๆ ลุยๆ เป็นไปเที่ยวเพื่อหัดถ่ายรูปสวยๆ สำหรับอัปลงโซเชียลมีเดียแทน คุณก็จะได้ทักษะการถ่ายรูปเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย การออกเดินทางยังทำให้คุณได้อะไรใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย
6. รับงานพาร์ทไทม์ งานฟรีแลนซ์ สอนพิเศษ
ถึงจะว่างงานแต่เราก็ยังคงต้องกินต้องใช้อยู่ ดังนั้นลองหางานที่สามารถเริ่มได้ทันทีโดยเฉพาะพวกงานพาร์ทไทม์ ที่ต้องการพนักงานอยู่เสมอๆ หรือหากคุณมีความสามารถด้านอื่นๆ ก็ลองหางานฟรีแลนซ์หรืองานสอนพิเศษ ซึ่งการทำงานเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้ทักษะต่างๆ เหล่านั้นของคุณไม่หายไปแล้ว ก็จะทำให้คุณเก่งขึ้นได้อีกด้วย และถ้าคุณทำได้ดีก็อาจจะกลายเป็นงานประจำของคุณไปเลยก็ได้
ยิ่งทุกวันนี้มีบล็อกที่ให้สาระความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ หรืออ่านข่าวสารที่อัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ทั้งวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและข่าสารธุรกิจก็ยิ่งทำให้คุณก้าวไปข้างหน้าได้เร็วมากขึ้น
ทั้งหมดที่กล่าวถึงมานี้คงเป็นแนวทางให้หลายๆ คนลองกลับมาทบทวนตัวเองดูว่าอันที่จริงช่วงเวลาที่เราต้องว่างงานนั้นๆ ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสใดเลย เพียงแต่ต้องมีความขยันและอดทนเพิ่มมากขึ้น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ทั้งนี้ระหว่างที่คุณกำลังหางาน อย่าลืมอัปเดตข้อมูลและฝากประวัติตามเว็บไซต์หางานอย่างสม่ำเสมอด้วย ว่าคุณได้พัฒนาทักษะใหม่ๆ อะไรไปแล้วบ้าง