ก็เลือกได้อะ เคล็ดไม่ลับวิธีเลือกงานที่ใช่

หลายต่อหลายคนท้อแท้มากกับการไม่ได้งาน ไม่ว่าจะไปสัมภาษณ์กี่ที่ ๆ ก็ไม่มีเจ้าไหนติดต่อกลับเลย แต่รู้หรือไม่ ความหนักใจนี้ก็เกิดขึ้นกับคนที่เลือกได้เช่นกัน มีคนอีกมากมายที่รู้สึกเครียดที่ไม่รู้ว่าจะเลือกที่ไหนเข้าไปทำงานดี เพราะเก่งจนทุกที่ต้องการไปซะหมด ทีนี้ จะมีวิธีเลือกอย่างไรดีล่ะ ?

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าการต้องเลือกระหว่างงานสองงานหรือมากกว่านั้นถือว่าเป็น "ปัญหาที่ดี" เพราะมันหมายความว่าการตามหางานในหลายๆ เดือนที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ แล้วการที่มีคนมาเสนองานให้กับคุณทำให้เห็นว่า หลังจากผ่านการสัมภาษณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า และ ส่งใบสมัครไปมากมาย คุณได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว ให้เวลาตัวเองได้เชิดและสนุกไปกับความสำเร็จนี้หน่อย

1. ทำการบ้านให้รู้เขารู้เรา

ก่อนจะไปสัมภาษณ์งานที่ไหนก็ตาม คุณควรจะหาข้อมูลของบริษัทที่เรียกตัวคุณเข้าไปเอาไว้ให้มาก ๆ หมายความว่า คุณควรจะรู้ว่า บริษัทให้ความสำคัญกับเรื่องอะไรบ้าง หรือ บริษัทคาดหวัง อะไรจากคนที่จะมาทำงานในตำแหน่งนี้ แล้วใช้ข้อมูลเหล่านี้มาประกอบการตัดสินใจว่า คุณจะรู้สึกสบายใจกับการทำงานที่ไหนมากกว่ากัน 

2. เก่งแค่ไหน Culture ไม่ Fit ก็อยู่ได้ไม่นาน

ตอนที่คุณเข้าไปสัมภาษณ์แน่นอนคุณต้องมองเห็นภาพบรรยากาศคร่าว ๆ ของ วัฒนธรรมองค์กร และผู้คนที่นั่น ว่าเป็นอย่างไร คุณชอบพวกเขามั้ยล่ะ? คุณสามารถนึกภาพตัวเองมาทำงานที่นี่ห้าวันต่อสัปดาห์ ไหวมั้ย?

3. ผลประโยชน์พิเศษที่ที่ทำงานคุ้มหรือไม่

งานแต่ละที่ก็มีจุดเด่นจุดด้อยที่ต่างกัน เช่น ผลประโยชน์เพิ่มเติ่มอื่น ๆ นอกเหนือจากเงินเดือน มีบริษัทไหนที่มีผลประโยชน์มากกว่าหรือเปล่า มีบริษัทไหนให้ความยืดหยุ่นเวลางานกว่ากัน การเดินทางไปทำงานในที่หนึ่งใช้เวลานานกว่า หรือไกลกว่าอีกทีมากรึเปล่า

4. เทียบให้เห็นชัด ๆ ไปเลย

คุณควรจะลิสต์จุดเด่นจุดด้อยของงานหรือบรรยากาศการทำงานของแต่ละที่ ข้อดีข้อเสีย สิ่งที่ชอบหรือไม่ชอบ มาให้หมด จากนั้นก็ให้คะแนนแต่ละข้อตามความสำคัญของมัน ที่ที่ได้คะแนนโดยรวมมากกว่า น่าจะเป็นงานที่เหมาะมากที่สุด

5. "ชอบ" กับ "ใช่" มันต่างกันอยู่

มันน่ายั่วยวนมากที่จะเลือกเงินก่อนสิ่งอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ถ้างานที่บริษัท A เป็นสิ่งที่คุณหลงไหล อย่างมาก และสามารถช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานระยะยาวมากกว่างานอีกงานที่บริษัท B คุณน่าจะพอใจกับการทำงานที่บริษัท A มากกว่าถึงที่นั่นจะจ่ายเงินเดือนน้อยกว่าก็ตาม คุณต้องลองดูว่าคุณสามารถอยู่ด้วยเงินเดือนแค่นั้นได้มั้ย หรือคุณจำเป็นจะต้องได้เงินเดือนที่สูงกว่านั้นจริง ๆ

6. เชื่อในเซ้นส์ของตัวเอง

ถ้าคุณยังมีปัญหาในการเลือกระหว่างงานแต่ละที่ ให้ทำตามที่ความรู้สึกลึก ๆในใจที่บอกคุณ เพราะความรู้สึกเหล่านั้นมันมีเหตุผลอยู่แน่นอน การทำตามที่เซ้นส์บอกว่ามันต้องการอะไร หรือชอบอะไร  อาจจะทำให้ตัวคุณมีความสุขมากกว่าในระยะยาวก็ได้ 

คำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกงานใดงานหนึ่งจากหลายๆงาน ที่น่าจะดีที่สุดสำหรับหน้าที่การงานของคุณได้ อย่างไรก็ตาม อย่าทำให้นายจ้างของคุณต้องรอนานกว่าเวลาคุณขอไว้ เพราะนอกจากมันดูไม่เป็นมืออาชีพ และ พวกเขาก็จำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับการเริ่มงานของคุณ หรือไม่ก็เสนองานตำแหน่งนั้นให้คนอื่นต่อไปอีกเช่นกัน