อย่ามองข้ามสิ่งเหล่านี้ หากอยากให้เรซูเม่ของคุณโดดเด่นกว่าใคร
การเขียนเรซูเม่ 'CV' หรือ resume (เรซูเม่) ที่มีประสิทธิภาพ จะโชว์ความสามารถและประสบการณ์สำคัญๆของคุณออกมา แล้วก็บอกนายจ้างในอนาคตของคุณด้วยว่าทำไมคุณถึงเป็นคนที่ใช่ที่สุดสำหรับงานนี้ จะบอกให้ว่าคนที่อ่าน resume ของคุณเค้ากำลังมีคำถามในใจง่ายๆสองข้ออยู่ว่า “คุณทำงานนี้ได้มั้ย” และ “คุณจะเข้ากับองค์กรได้รึเปล่า”
ลองทำตามคำแนะนำง่ายๆพวกนี้ดูนะ คะแล้วคุณก็จะได้เขียน resume ที่เพอร์เฟ็คสุดๆไปเลย!
1. ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ ที่อยู่ และ ช่องทางติดต่อเป็นสิ่งที่ต้องใส่เสมอ และถ้าเป็นไปได้ ใส่ข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางในการติดต่อคุณเอาไว้ในทุกๆหน้าของ resume เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล เพราะคุณจะไม่มีวันรู้เลยถ้า resume ของคุณมันกระจัดกระจายไปไหนต่อไหน และถ้าคุณมีเว็บไซต์ประเภทที่เก็บผลงานหรืออะไรของคุณไว้ แล้วมันจะทำให้ใบสมัครของคุณดูดีขึ้นมาได้ล่ะก็ อย่าลืมใส่มันลงไปด้วยนะ
2. ประสบการณ์ในการทำงาน
ในการเขียน resume อย่าลืมใส่ตำแหน่งงาน วันเริ่มต้นและวันสิ้นสุด ชื่อองค์กร แล้วก็อธิบายสั้นๆว่าเป็นองค์กรเกี่ยวกับอะไร จากนั้นใส่หน้าที่ของคุณ ความรับผิดชอบ ความสามารถ และความสำเร็จต่างๆที่ได้รับ อธิบายงานต่างๆที่ผ่านมาด้วยการบอกว่าคุณได้ทำอะไร รับผิดชอบส่วนไหนบ้าง
บริษัทจะให้ความสนใจในงานที่คุณทำเร็วๆนี้มากกว่างานเก่าๆ เพราะฉะนั้น มุ่งเน้นไปที่งาน 2 งานล่าสุดของคุณ แล้วค่อยๆ ไล่ย้อนกลับไป แล้วก็อย่าลืมเน้นด้วยถ้าเกิดว่าคุณเคยทำอะไรที่มันใกล้เคียงกับตำแหน่งที่คุณสมัครไป พวกเขาจะได้รู้ว่าคุณเคยทำอะไรแนวๆ นี้มาบ้างแล้วนะ
3. คุณสมบัติ การศึกษา และ ทักษะต่างๆที่คุณมี
ใส่เนื้อหาพวกนี้ไว้ตอนท้ายๆ ของการเขียน resume แต่ถ้ามีคุณสมบัติอะไรที่มันดูจำเป็นสำหรับงานนี้และมันจะทำให้คุณดูน่าสนใจก็ใส่ไว้ที่หน้าแรกหลังจากข้อมูลส่วนตัวก็ได้ อย่าลืมใส่ระดับการศึกษาและกิจกรรมต่างๆ ที่คุณเคยเข้าร่วม แต่ต้องใส่ตามความจริง เพราะเรื่องแบบนี้บางองค์กรเค้าก็เช็คนะ
อย่าลืมที่จะพูดถึงความสามารถที่เกี่ยวข้อง เช่น ทักษะด้านภาษา ทักษะด้านเทคโนโลยี ทักษะที่เกี่ยวข้องกับงาน หรือ คุณเคยไปฝึกงาน/ทดลองงาน ที่ไหนมาบ้าง แล้วก็อย่าลืมหาอะไรมาใส่สำหรับช่วงที่คุณว่างงานด้วยนะ คุณอาจจะไปเรียนภาษา เข้าคลาสฝึกทักษะอะไรเพิ่มเติม หรือทำงานพาร์ทไทม์งานจิตอาสาก็ได้ อย่าให้องค์กรเห็นว่าคุณนอนเล่นอยู่บ้านเฉยๆ
4. บุคคลอ้างอิง
มันไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่จะต้องใส่บุคคลอ้างอิงลงไปใน resume ของคุณ แต่ถ้าคุณตัดสินใจที่จะใส่บุคคลอ้างอิงและข้อมูลติดต่อของบุคคลเหล่านั้น ลงไปแล้ว คุณควรจะบอกพวกเขาไว้ก่อนด้วย เพื่อที่เขาจะได้เตรียมตัวเตรียมคำพูดที่ทำให้คุณดูดีไว้ไงล่ะ
5. ลองมองจากมุมมองของนายจ้างดูบ้าง
ก่อนที่คุณจะสมัครงานที่ไหนก็ตาม คุณต้องรู้ด้วยว่านายจ้างในอนาคตของคุณกำลังมองหาคนแบบไหนอยู่ ลองดูจากประกาศหางาน คนวงใน หรือแม้แต่จากตัวองค์กรเองก็ตาม แล้วเอาข้อมูลเหล่านั้นมาปรับใช้กับการเขียน resume ของคุณ ยิ่งคุณพรีเซ้นต์ตัวเองว่าคุณมีความสามารถแบบเดียวกับที่พวกเขากำลังตามหามากเท่าไหร่ คุณก็จะมีโอกาสที่จะได้ไปสัมภาษณ์งานมากขึ้นเท่านั้นนะ
6. ซื่อสัตย์และจริงใจ
ข้อมูลใน resume ของคุณจะถูกเอามาถามอีกครั้งในตอนสัมภาษณ์แน่ๆ และ การโม้อะไรที่ไม่เป็นความจริงลงไปก็จะทำให้คุณเจอปัญหาอื่นๆต่อไปเรื่อยๆ ดังนั้น ใส่ข้อมูลที่เด่นๆเกี่ยวกับความสามารถและพรสวรรค์ “จริงๆ”ของคุณ แล้วก็ใส่พวกรางวัลที่คุณเคยได้ รวมไปถึงความสำเร็จต่างๆของคุณลงไปจะดีกว่า
7. ระวังเรื่องภาษา
การเขียน resume ของคุณจะต้องกระชับ หลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์เฉพาะทางที่อ่านยากแถมยังชวนให้สับสน ใช้ประโยคสั้นๆ เขียนออกมาเป็นข้อๆ ไม่จำเป็นต้องร่ายยาวมาก เพราะเรื่องพวกนี้คุณสามารถเอาไปพูดเพิ่มเติมตอนสัมภาษณ์ได้อยู่แล้ว
8. การจัดหน้า
วางเค้าโครงให้ไม่เกะกะ เว้นช่องไฟแบบพอดีๆ ปรับขอบกระดาษให้มันกว้างหน่อย จะได้ดูไม่ล้น แน่นจนเกินไป
สำหรับการเขียน resume ภาษาอังกฤษ คุณควรจะใช้ฟ้อนต์ง่ายๆเช่นพวก
Times New Roman
Arial
หรือ Courier
ขนาด10-12 สำหรับเนื้อหาทั่วไป ส่วนหัวเรื่องก็ใช้ฟ้อนต์ขนาดอย่าเกิน 16 อย่าใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดเพราะมันดูเหมือนคุณกำลังตะโกนอยู่ตลอดเวลา แต่ให้ทำตัวหนานะ
อย่าลดขนาดตัวหนังสือ หรือปรับขอบกระดาษเพื่อจะทำให้เนื้อหาทั้งหมดอยู่ในหน้าเดียวกัน ถ้าคุณต้องขึ้นหน้าใหม่จริงๆก็ขึ้นหน้าใหม่ไปเลย แล้วถ้า resume ของคุณมีมากกว่าหนึ่งหน้าก็อย่าลืมใส่เลขหน้าด้วยนะ
9. ตรวจทาน ตรวจทาน และตรวจทานอีกครั้ง
มันจำเป็นมากที่ resume ของคุณต้องอ่านง่าย และทำให้ข้อมูลสำคัญๆของคุณโดดเด่นขึ้นมา ระวังการใช้ฟ้อนต์ประหลาดๆที่คนอื่นเค้าไม่ค่อยมีกัน เพราะมันอาจจะอ่านยากสำหรับคนบางคน แล้วมันก็อาจจะทำให้การจัดหน้าของคุณพังพินาศอีกด้วยถ้าผู้รับไม่มีฟ้อนต์ตัวเดียวกับที่คุณใช้
อย่าลืมเช็คการสะกดคำและหลักภาษาทุกครั้ง เพราะความผิดพลาดพวกนี้อาจจะทำให้คุณอดได้งานก็เป็นได้ ถ้าคุณไม่มั่นใจก็หาใครซักคนมาช่วยคุณตรวจอีกแรง สี่ตาย่อมดีกว่าสองตานะ
อย่าลืมอัพเดท resume ของคุณอยู่เรื่อยๆถึงคุณไม่ได้กำลังมองหางานอยู่ก็ตาม เพราะเมื่อถึงเวลา คุณอาจจะพลาด หรือลืมใส่ข้อมูลสำคัญๆลงไป เช่น วันที่ หรือรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับโปรเจค และถ้าคุณฝึกเขียน resume ตามข้อแนะนำของเรา มั่นใจได้เลยว่าการเขียน resume ของคุณจะสร้างความประทับใจให้แก่องค์กรอย่างแน่นอน โชคดีในการหางานนะคะ!