คุณเปลี่ยนงานบ่อยจนกลายเป็น Job Hopper หรือไม่?

หลายคนสงสัยว่า Job hopper คืออะไร? Job hopper ก็คือคนที่เปลี่ยนงานบ่อยๆ ไม่สามารถอยู่ที่ไหนได้นานๆ และบางเคสก็เปลี่ยนเพื่อเงินเดือนที่มากขึ้น แต่ในบางเคส Job hopper ก็มีความตั้งใจที่จะหางานที่ใช่สำหรับตัวเองจริงๆ เพียงแต่ยังหาไม่เจอ ถ้าคุณรู้สึกว่า Job hopper นั้นเป็นตัวคุณ (หรือคนรอบๆ ตัวคุณ) มาลองอ่านบทความนี้กันเถอะ

1. หาตัวเองไม่เจอ

ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้ง่ายในคนรุ่นใหม่ที่ยังหาตัวเองไม่เจอว่าจะเดินไปในทิศทางไหนดี พวกเขาเลยเปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ เพื่อสำรวจตัวเอง แต่รู้ไหมว่าเวลาที่คุณยังไม่มีประสบการณ์มากพอ มันก็ยากที่จะรู้ว่าตัวคุณจะชอบอะไร อย่างเช่น คนที่พึ่งจบจากมหาวิทยาลัย พวกเขามักจะใช้เวลาปีแรกๆ ไปกับการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตการทำงาน และการเปลี่ยนงานบ่อยๆเพื่อค้นหาตัวเองในช่วงนี้ก็เป็นเรื่องปกติ และบางครั้งการลองทำหลายๆ อย่างก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะทำให้เรารู้ว่า ตัวเราต้องการอะไรกันแน่ "เพราะคุณยังหาตัวเองไม่เจอ คุณก็เลยไขว่คว้าไปเรื่อยๆ" แต่อีกสิ่งที่คุณควรจะทำก็คือการลองทำงานที่ไหนสักแห่งนานๆ เพื่อเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้มากขึ้น ซึ่งคุณจะมีเวลาและโอกาสในการทบทวนตัวเอง ว่าคุณอยู่กับอะไรได้นานๆ ทำอะไรแล้วมีความสุข หรือลองค้นหาตัวเองโดยเริ่มจากวิธีง่ายๆนี้

สำรวจว่าเวลาว่างคุณชอบทำอะไร หรือถนัดอะไร
เรียงลำดับความชอบ
ลองทำสิ่งเหล่านั้นว่าใช่สิ่งที่ชอบจริงไหม

2. หางานแบบผิดที่ผิดทาง

สำหรับคนที่มีประสบการณ์มากแล้ว แต่ก็ยังพบว่าตัวเองเปลี่ยนงานบ่อยๆอยู่ อาจจะต้องลองหันมาดูวิธีหางานของตัวเองบ้างแล้วหล่ะ เพราะบางคนก็ใช้ชีวิตแบบซ้ำๆ หาทางออกไม่ได้ซักที เพราะอาจจะไม่ได้อย่างรอบคอบมากนักเวลาหางานใหม่ และก็พร้อมที่จะกระโดดเข้าหางานแรกที่เสนอเงินเดือนดีๆให้ แต่หลังจากนั้นก็จะมานั่งคร่ำครวญว่าเงินเดือนดีแต่งานไม่ถูกใจเลย ออกดีกว่า ซึ่งคนเหล่านี้จะกลับเข้ามาสู่ตลาดแรงงานเพื่อหางานใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาจะคุ้นชินกับความรู้สึกวิตกกังวล ความรู้สึกต้องการงาน ต้องการเงินเดือน และพวกเขาก็จะจบลงที่การกระโดดเข้าไปหางานที่เสนอเงินเดือนที่ถูกใจให้เหมือนเดิม แทนที่จะใช้เวลาให้มากขึ้นและทุ่มเทความพยายามให้คุ้มค่าเพื่อหางานที่ใช่ และพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเลือกทำงานนั้น โดยเริ่มจากการหาข้อมูล เช่น

หาข้อมูลบริษัท เพื่อทำความรู้จักองค์กรให้ดีก่อน
บริษัทมีแนวคิดใด ให้คุณค่ากับอะไร และต้องการอะไร
วัฒนธรรมองค์กร และบรรยากาศการทำงานเป็นอย่างไร

3. คุณยังมีนิสัยที่ไม่ลงตัว

ไม่ว่างานของคุณมันจะน่าตื่นเต้นหรือสนุกแค่ไหนในวันแรก พอถึงจุดๆหนึ่ง ความเป็นจริงของโลกแห่งการทำงานก็จะตามคุณทัน และมันก็จะกลายเป็น “ก็แค่งานงานหนึ่ง” เท่านั้น ซึ่งเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้แต่กับดารานักร้อง หรือนักบินอวกาศ

ไม่มีงานที่เราจะมีความสุขในทุกๆวันจริงๆ หรอกค่ะ เพราะคนบางคนก็อาจจะมีความคิดสร้างสรรค์และนอกกรอบมากจนอึดอัดกับการทำอะไรซ้ำๆ ในที่สุดพวกเขาก็อาจจะรู้สึกกระสับกระส่าย วิตกกังวล หรืออาจจะถึงขั้นสิ้นหวังเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม แทนที่จะมาคิดวิเคราะห์ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และควรจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร คนบางอาจจะหาทางออกที่ง่ายที่สุดด้วยการเปลี่ยนงานซะเลย แล้วก็หวังว่าอะไรๆ มันจะดีขึ้น แต่ก็น่าเศร้าที่สุดท้ายมันก็จะกลับไปยังจุดเดิม

ถ้าอ่านสิ่งเหล่านี้แล้ว รู้สึกว่ามันตรงกับคุณมากๆ ก็ไม่ต้องห่วงนะคะ เพราะชีวิตของคุณยังไม่จบสิ้นซะหน่อย อย่างน้อยบทความนี้ก็จะทำให้คุณรู้จักตัวเองมากขึ้น และมีโอกาสหาวิธีที่จะปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นอีกได้

การเปลี่ยนงานไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าสนุกอยู่ดี เวลาที่คุณกระโดดจากงานนั้นไปงานนี้ จริงๆ แล้วคุณก็กำลังมองหาความรู้สึกที่จะมาเติมเต็มอยู่ใช่ไหมล่ะ นอกจากนั้น เวลาเปลี่ยนงาน นอกจากจะเครียดในการหางานใหม่แล้ว คุณก็ต้องใช้เวลาสักพักในการปรับตัวให้เข้ากับที่ใหม่ เรียนรู้งาน แล้วพอเปลี่ยนงานที่ใหม่ คุณก็ต้องมาเครียดกับเรื่องพวกนี้อีกครั้ง ซึ่งจริงๆ แล้ว การหางานที่คุณจะสามารถทำได้นานๆ ทำให้คุณมีความสุขนั้น เป็นเป้าหมายสูงสุดของใครหลายๆคนเลยแหละ และเราก็เชื่อว่า มันเป็นไปได้อย่างแน่นอน!