8 ประเภทพนักงานหายาก ที่บริษัทไหนก็อยากรับเข้าทำงาน

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมถึงมีแค่พนักงานบางคนเท่านั้นที่โดดเด่นกว่าพนักงานทั่วไป?

ความสำเร็จในหน้าที่การงานเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถไขว่คว้าตามเป้าหมายและการวางแผนของตนเองได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถบรรลุเป้าหมาย โดดเด่น และเปล่งประกายเหนือพนักงานทั่วไปออกมาได้ เหมือนอย่างที่ Catherine Kaputa ผู้เชี่ยวชาญด้านการหางานและการสร้างแบรนด์บุคคลมากว่า 40 ปีได้เผยกับสำนักข่าว CNBC ลงในบทความของเธอว่ามีคนอยู่ 8 ประเภทที่ถูกจัดว่าเป็น “พนักงานหายาก” ที่ทำให้พวกเขาสามารถทำงานได้โดดเด่นกว่าใคร จะมีคนประเภทไหนกันบ้าง ตาม WorkVentrue ไปดูกันเลย!

1. The Innovator

พนักงานที่มีลักษณะเป็น The Innovator มักเป็นกลุ่มคนที่สามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้เสมอ เพราะพวกเขาไม่ได้ยึดติดกับแนวคิดหรือเส้นทางเดิม ๆ ในการทำงาน แต่จะสามารถนำความคิดสร้างสรรค์มาปรับใช้เพื่อให้ผลงานมีความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร รวมถึงสามารถออกแบบวิธีการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ได้โดยที่ไม่รู้สึกเกรงกลัวกับความท้าทายที่กำลังเผชิญอยู่ ทำให้คนกลุ่มนี้มักถูกนิยามว่าเป็นคนประเภทที่ชอบคิดนอกกรอบ แถมยังมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงทำให้ไอเดียของพวกเขามีความสดใหม่และไม่มีความคิดของผู้อื่นเข้ามาผสมด้วย

2. The Leader

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน พนักงานที่มีทักษะของความเป็นผู้นำที่ดีก็ยังคงเป็นที่ต้องการของหลายบริษัทอยู่เสมอ เพราะคนกลุ่มนี้มักจะมีความสามารถในการวางแผนงาน จัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพราวกับว่าทักษะเหล่านี้เป็น DNA ของพวกเขาโดยธรรมชาติ นอกจากนี้คนที่มีสภาวะความเป็นผู้นำสูงยังถือเป็นกลุ่มคนที่สามารถผลักดันและสร้างแรงบันดาลใจให้สมาชิกในทีมตลอดการทำงานได้ ทำให้ไม่ว่าทีมจะเจออุปสรรคใดก็ตามก็จะสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดีจากแรงสนับสนุนของคนที่เป็นผู้นำ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคนประเภทนี้ถึงเป็นที่ต้องการสูงอยู่เสมอ

3. The Maverick

หากพูดถึงความหมายโดยทั่วไปของคำว่า The Marverick แล้วจะหมายถึงคนที่ไม่ยอมอยู่ในกฎเกณฑ์ของสังคม หรือคนนอกขนบธรรมเนียม ซึ่งคุณอาจพบว่าคำนี้ดูมีความในแง่ลบในภาษาไทย แต่ในวัฒนธรรมของชาวอเมริกัน คำว่า The Maverick จะสื่อไปในทางแง่บวก พนักงานประเภทนี้จึงเป็นคนที่เชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองสูง และมักเป็นคนริเริ่มเส้นทางใหม่ ๆ มากกว่าจะเดินตามรอยเท้าของคนอื่น ทำให้พนักงานประเภทนี้จะมีอิสระทางความคิดสูง เน้นการทำงานคนเดียวเป็นหลัก และยังถนัดในการดึงดูดความสนใจของผู้อื่นได้เป็นอย่างดีด้วย คนประเภทนี้จึงมีประโยชน์ต่อองค์กรในแง่ของการนำเสนอไอเดียแปลกใหม่ ไม่ยึดติดกับอะไรเดิม ๆ เพื่อสร้างทางเลือกอันหลากหลายให้กับองค์กรในอนาคต

4. The Engineer 

พนักงานที่มีความเป็นวิศวกรอยู่ในตัวมักจะเป็นกลุ่มคนที่มองเห็นแนวทางการพัฒนาผลงานหรือประสิทธิภาพการทำงานของทั้งตัวเองและทีมอยู่เสมออย่างที่พนักงานประเภทอื่น ๆ และคนทั่วไปอาจมองไม่เห็น พวกเขาจึงมีความละเอียดอ่อนเป็นอาวุธสำหรับทำงาน ทำให้ผลงานที่ผ่านการดูแลโดยพนักงานในกลุ่มวิศวกรมีความรอบคอมแถมยังสร้างสรรค์อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น คนกลุ่มนี้มักจะเป็นประเภทที่ทำงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน รวมถึงใช้ตรรกะในการทำงานและแก้ปัญหาสูง จึงหมดห่วงเรื่องการตกหล่นรายละเอียดที่สำคัญไปได้เลยสำหรับพนักงานประเภทนี้

5. The Expert

การที่องค์กรจะประสบความสำเร็จได้ นอกจากการร่วมแรงร่วมใจกันของพนักงานแต่ละคนที่มีความสามารถหลากหลาย สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ การมีพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งความเชี่ยวชาญในความรู้เกี่ยวกับตำแหน่งที่ทำอยู่ รวมถึงความเชี่ยวชาญในสินค้า บริการ และอุตสาหกรรมที่บริษัทกำลังดำเนินการ เพราะคนกลุ่มนี้มักมีความสามารถในด้านการค้นหาข้อมูลอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ทำให้ความรู้ที่มีนั้นอัปเดทอยู่ตลอดเวลา พร้อมนำมาปรับใช้และพัฒนาความสามารถและองค์กรอยู่เสมอ อีกทั้งพนักงานที่ถูกเรียกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญยังได้รับความไว้วางใจจากคนมากมายในการทำงานและตัดสินใจเรื่องสำคัญอีกด้วย

6. The Target Marketer

สินค้าหรือบริการขององค์จะไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุดได้ หากขาดพนักงานที่เป็น The Target Marketer ที่เป็นเหมือนกับหางเสือขององค์กรที่จะคอยช่วยกำหนดทิศทางการผลิตสินค้าหรือบริการผ่านการทำความรู้จัก เรียนรู้ และเข้าใจกลุ่มเป้าหมายขององค์กรอย่างลึกซึ้ง เพราะคนกลุ่มนี้มักจะมีทักษะการเป็นผู้ฟังที่ดี ช่างสังเกต และมีความเอาใจใส่ลูกค้าอยู่เสมอเพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพวกเขา พนักงานที่เป็น The Target Marketer จึงมีความสำคัญต่อองค์กรอย่างยิ่ง เพราะพวกเขาจะเป็นกลุ่มที่สามารถซื้อใจลูกค้าให้ใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการขององค์กรได้ต่อไปนาน ๆ 

7. The Elite 

ท่ามกลางพนักงานหลากหลายประเภทภายในองค์กร The Elite มักเป็นกลุ่มคนที่ความเป็นตัวเองสูงออกมาอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความมั่นใจในความสามารถและคุณค่าในตัวเองอันเปี่ยมล้นที่ตั้งใจแสดงออกผ่านผลงาน การนำเสนอ และวิธีการทำงาน ทำให้คนกลุ่มนี้มีโอกาสน้อยที่จะพบเจอกับ “โรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง” หรือ Imposter Syndrome ในทางตรงกันข้าม พวกเขาจะสามารถเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและความล้มเหลวได้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถกลับมาลุกขึ้นยืนเพื่อพัฒนาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว จนสามารถสร้างผลงานที่สามารถเป็นประโยชน์กับองค์กร รวมถึงพวกเขาสามารถภูมิใจกับทุกความสำเร็จของตัวเองได้อย่างเต็มที่

8. The Cause 

หากพูดถึงความถูกต้องและเที่ยงธรรม พนักงานประเภท The Cause จะกลายเป็นสิ่งที่หลายคนนึกถึง เพราะคนกลุ่มนี้จะมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าการเปลี่ยนแปลงของบางสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเรื่องยากหรือมีความเป็นไปได้น้อยเพียงใดก็ตาม ทำให้พนักงานประเภทนี้มักมีความเข้าอกเข้าใจต่อผู้อื่น สามารถรับมือกับความอ่อนไหวทางอารมณ์ได้เป็นอย่างดี และพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ ทำให้พวกเขามักจะกลายเป็นกลุ่มคนประเภทที่เพื่อนร่วมงานเชื่อใจและไว้วางใจ อีกทั้งพนักงานประเภท The Cause บางคนยังมีแนวโน้มเป็นผู้ที่ขับเคลื่อนสังคมเพื่อต่อสู้กับความไม่ถูกต้องผ่านการชูประเด็นต่าง ๆ ขึ้นมาพูดเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมทั้งในวงแคบและวงกว้าง

เป็นยังไงกันบ้างกับคน 8 ประเภทที่ WorkVenture ได้นำมาเสนอให้กับทุกคน เพียงแค่อ่านก็รับรู้ถึงความเจ๋งของคนแต่ละประเภทแล้วใช่ไหม? หากใครพบว่าตัวเองมีความสามารถตรงกับคนประเภทไหนก็สามารถพัฒนาทักษะเหล่านั้นได้ผ่านการลงมือทำจริง เก็บเกี่ยวประสบการณ์ จนกลายเป็นจุดแข็งที่สามารถทำให้คุณโดดเด่นขึ้นมา และกลายเป็นหนึ่งในพนักงานหายากทั้ง 8 ประเภทนั้นจนไม่ว่าบริษัทไหนก็อยากรับคุณเข้าไปทำงานนั่นเอง