5 สิ่งที่คุณต้องรู้ ถ้าอยากร่วมงานกับ TOA

ในทุกๆวันนี้เรื่องค่าตอบแทนและสวัสดิการคงไม่ใช่ปัจจัยสำคัญลำดับต้นๆของเหล่าคนทำงานยุคใหม่ที่กำลังมองหางานอีกต่อไป ทำให้แต่ละบริษัทสร้างสิ่งจูงใจเชิญชวนให้คนใหม่ๆอยากเข้ามาร่วมงาน และคนปัจจุบันก็ยังอยู่ต่อโดยเฉพาะ TOA บริษัทผู้นำด้านสีที่คนไทยรู้จักกันดี ได้ทุ่มเทและให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานอย่างดีมาก บอกเลยว่าถ้าไม่ได้มาทำงานที่นี่สักครั้งในชีวิต ถือว่าพลาด

วันนี้ WorkVenture จะพาทุกคนไปล้วงลึกเกี่ยวกับการทำงานในออฟฟิศแห่งสีสันของ TOA ว่าที่นี่ดูแลพนักงานอย่างไรถึงทำให้บริษัทเติบโตอย่างไวและเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านสีได้ในปัจจุบัน อยากรู้กันแล้วใช่ไหม งั้นเราไปดูกันเลย!

1. เติบโตได้แบบไม่มีอะไรมากั้น

TOA เชื่อมั่นว่าบุคลากรที่มีคุณภาพคือรากฐานแห่งความสำเร็จ จึงสนับสนุนความก้าวหน้าของพนักงานทุกคนอย่างเต็มที่ โดยมีทุนการศึกษาให้สำหรับคนที่อยากเรียนรู้ในทุกแขนง ใครที่อยากเชี่ยวชาญในสายงานของตนเอง เช่น พนักงานตำแหน่งเซลล์ สามารถเรียนรู้การขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ทุกอย่าง แบบรู้ลึก รู้จริง ไม่มีข้อจำกัด  และมีคลาสเรียนภาษาอังกฤษและภาษาอื่น ๆ ที่เชิญอาจารย์เจ้าของภาษามาสอนพนักงานโดยตรง ให้พนักงานจัดการเวลามาเรียนได้ตามความสะดวก นอกจากความรู้ในห้องเรียนแล้ว TOA ยังมีโรงงานในต่างประเทศอย่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย พม่า ที่พนักงานไทยสามารถเข้าไปแลกเปลี่ยนความรู้ได้ โดยใช้ความรู้ที่มีสอนผู้อื่น ถือเป็นการฝึกฝนและพัฒนาตนเองอีกทางนึงด้วย



2. พนักงานอยากจะทำอะไร TOA ก็จัดให้

TOA สนับสนุนให้พนักงานมี Work-Life Balance อย่างเหมาะสม ผ่านการจัดกิจกรรมมากมายที่ให้พนักงานทุกคนได้ลงมือทำได้เลย ไม่ว่าจะเป็นชมรม TOA อาสา ชมรมแนะนําท่ีกินที่เที่ยว ชมรมจัดทริปท่องเที่ยว ชมรมปลูกผักสวนครัว ชมรมธรรมะ ชมรมทําเล็บ หรือจะเป็นกิจกรรม CSR ช่วยเหลือสังคมกับมูลนิธิที่อยู่อาศัยประจำประเทศไทย เช่น สร้างบ้านให้กับผู้ยากไร้ กิจกรรมกับน้องๆเยาวชนคนรุ่นใหม่ การบูรณะและทาสีโรงเรียน เป็นต้น การจัดกิจกรรมเหล่านี้เพื่อให้พนักงานทุกคนได้มีโอกาสทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังช่วยสร้างมิตรภาพและความสัมพันธ์ดีๆกับเพื่อนร่วมงานได้อีกด้วย



3.  สร้างสรรค์โลกสวยด้วยพนักงาน TOA  

TOA ใส่ใจกับการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรและปลูกฝังจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม เพราะเชื่อว่าการช่วยเหลือสังคมคืออีกหนึ่งสิ่งที่สร้างความสุข และรอยยิ้มให้กับพนักงานได้ เช่นโครงการสอนเทคนิคทาสีแก่ชาวบ้าน เป็นการนึกถึงสังคมผ่านธุรกิจที่เราเชี่ยวชาญโดยใช้สีเป็นตัวนำ มอบความรู้และเทคนิคให้ชาวบ้านสามารถนำไปใช้จริงได้ในชีวิตจริง นอกจากนั้นยังมีโครงการที่พนักงานได้ช่วยสอนงานแก่คนว่างงาน บริษัทช่วยซื้อสินค้าเกษตรกร เพื่อนำมาจำหน่ายให้พนักงานในราคาพิเศษในช่วงโควิด 



4. ผสมผสานความหลากหลายอย่างลงตัว

TOA เข้าใจดีว่าพนักงานแต่ละคนมีความพิเศษเป็นของตัวเอง เปรียบเสมือนสีที่มีหลายเฉดหลายโทน ทำให้การทำงานที่นี่มีวัฒนธรรมที่หลากหลายผสมผสานความต่างทั้งช่วงวัยและเพศที่ไม่มีข้อจำกัด ด้วยการสนับสนุนให้ทุกๆคนได้แสดงความคิดเห็นและโชว์ออกมาอย่างเต็มที่ เพราะ TOA  เชื่อมั่นในศักยภาพและความรู้ความสามารถของพนักงานทุกคนว่านี่จะเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนให้พนักงานและองค์กรเติบโตไปด้วยกันได้



5. เต็มที่กับพนักงานทุกคน

TOA เปรียบเสมือนครอบครัวขนาดใหญ่ที่ทุกคนมีความสำคัญเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับใหญ่ หรือพนักงานใหม่ เพราะพนักงานทุกคนต่างก็เป็นฟันเฟืองที่คอยขับเคลื่อนให้บริษัทก้าวหน้าไปได้ ดังนั้น TOA จึงให้ความสำคัญกับการดูแลเอาใจใส่พนักงานเป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น การมีนักจิตวิทยามาอยู่ประจำออฟฟิศเพื่อคอยให้คำปรึกษาและแนะนำให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องาน ครอบครัว หรือความรัก ก็สามารถเข้ามาปรึกษาได้เลย หรือการฉีดวัคซีนโควิด ให้กับพนักงาน การจัดรถรับส่งพนักงาน สวัสดิการชุดพนักงาน และกองทุนฯ นอกจากนี้ยังมีบริการนวดแผนไทยให้กับพนักงาน จากหมอนวดที่เป็นหนึ่งในพนักงานของ TOA ซึ่งเคยประสบอุบัติหตุทำให้สูญเสียการมองเห็นไป แต่บริษัทไม่เคยคิดทอดทิ้งพร้อมยังส่งไปเรียนการนวดแผนไทยต่อยอดความสามารถให้พนักงานท่านนั้นสามารถดูแลตัวเองต่อไปได้ เรียกได้ว่า นี่แหละคือความใส่ใจแบบครอบครัวอย่างแท้จริง

มาถึงตรงนี้แล้วเชื่อว่าหลายๆคนต้องรู้สึกเซอร์ไพรซ์ว่า TOA มอบอะไรกับพนักงานขนาดนี้หลายหรอ เอาเป็นว่าถ้าคุณได้ลองเข้าไปสัมผัสการทำงานจริงๆ จะรู้ว่าที่นี่ยังมีอะไรดีๆอีกมากมายที่พร้อมจะส่งมอบให้กับคุณตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาเป็นครอบครับวเดียวกันกับ TOA