คำแนะนำด้านอาชีพ | 28 July 2015

กฎเกณฑ์ที่คนทำงานทุกคนต้องรู้ จาก Rules of Work the Series

ในออฟฟิศส่วนใหญ่ มักจะมีกฎเกณฑ์บางอย่างที่ไม่ได้บอกไว้ แต่คนในนั้นก็จะรู้ๆ กันอยู่ เช่น ใครถูกกับใคร ไม่ถูกกับใคร ขึ้นลิฟท์จะหลบกันยังไง ห้องน้ำชั้นนี้ใครใช้ได้บ้าง ใครออกไปสูบบุหรี่ตรงระเบียงชั้นนี้บ้าง ใครเป็นคนคุมเรื่องเบิกเงินสด ใครเป็นคนดูแลอุปกรณ์ออฟฟิศ หรือแม้แต่ตารางวันหยุด

ริชาร์ด เทมพลาร์ ผู้แต่งหนังสือเรื่อง Rules of Work กล่าวว่า ครั้งหนึ่ง เขาเคยทำงานในออฟฟิศที่ นักแปลชาวสวิสเป็นคนดูแลเรื่องการลาหยุดของทุกคน ทุกคนต้องไปแจ้งนักแปลคนนี้เวลาพวกเขาต้องการลาหยุด และต้องรอให้คนๆ นี้อนุญาตเสียก่อน! ทำไมนักแปลคนนี้ถึงได้ทำหน้าที่นี้ล่ะ? และทุกครั้งที่ถามเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ คำตอบก็จะเป็นประมาณว่า บริษัทให้นักแปลทำหน้าที่นี้มานานแล้ว เป็นตำแหน่งที่สืบต่อๆ กันมา แถมหัวหน้าก็ยังดูพึงพอใจที่นักแปลรับภาระนี้ไปแทนอีกด้วย เป็นเรื่องที่ประหลาดมากๆ

ดังนั้น ถ้าคุณทำงานที่ไหนๆ ซักพักนึง คุณก็จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไปโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าคุณยังใหม่อยู่ เรื่องพวกนี้ก็รอให้คุณเรียนรู้อยู่นะ แต่การเรียนรู้กฎเกณฑ์พวกนี้มันช่วยอะไรคุณได้ล่ะ? ง่ายมาก การรู้กฎเกณฑ์พวกนี้สามารถทำให้คุณเอาชนะคนหลายๆ คนโดยไม่ต้องลงแรงได้เลยนะ

 

ริชาร์ดเล่าว่า ครั้งหนึ่ง เขาเคยทำงานในบริษัทที่ พนักงานที่อาวุโสน้อยที่สุด ต้องชงกาแฟแล้วเอาไปให้หัวหน้าที่อาวุโสที่สุดในแผนกทุกเช้า และก็ต้องยืนรอระหว่างที่หัวหน้าคนนั้นดื่มกาแฟให้หมดด้วย มันไม่ได้มีกฎออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรว่าพนักงานที่อาวุโสน้อยที่สุด ‘ต้องทำ’ เช่นนั้น แต่เขาถูกคาดหวังให้ทำแบบนั้น และถ้าเขาไม่ทำ เขาก็อาจจะโดนเพ่งเล็งได้ ดังนั้น ริชาร์ดต้องสละเวลา 5 นาทีในตอนเช้าของทุกๆ วัน อยู่กับหัวหน้าอาวุโสคนนั้น ฟังเขาบ่นและตำหนิติเตียนในเรื่องต่างๆ

ริชาร์ดเอาชนะสถานการณ์นี้ด้วยการไปเปรยๆ ให้หัวหน้าที่ใหญ่สุดในบริษัทฟังว่า หัวหน้าอาวุโสคนนี้มีความสามารถดีๆ ที่ไม่ได้เปิดเผยนะ และความสามารถนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับอีกแผนกหนึ่งมากกว่า ในที่สุดหัวหน้าคนนี้ก็โดนย้ายไปแผนกอื่น เป็นวิธีเอาคืนที่ยอดเยี่ยมไปเลยใช่มั้ยล่ะคะ

นอกจากกฎเกณฑ์พื้นฐานเหล่านี้แล้ว สิ่งที่คุณควรจะรู้อีกอย่างก็คือ เมื่อไหร่ต้องกลับช้า เมื่อไหร่ต้องกลับเร็ว

มันก็เป็นธรรมเนียมของบางออฟฟิศอีกเหมือนกันนะ ว่าการมาก่อนเวลาเริ่มงานมากๆ หรืออยู่ทำงานหลังเวลาเลิกงานจะทำให้คุณดูเป็นคนขยัน มันไม่มีกฎ หรือไม่มีใครออกมาบอกตรงๆ หรอกว่าคุณต้องมาเช้านะ คุณต้องกลับดึกนะ แต่มันก็เป็นกฎเกณฑ์ที่เราต้องรู้และปรับใช้ให้เข้ากับตัวเราเอง

จุดประสงค์ของการมาเร็วกลับดึก ก็คือเราต้องการให้คนอื่น (เช่น หัวหน้าแผนกสุดโหด) มองว่าเราขยันเท่าๆกับคนอื่นใช่มั้ยล่ะ ดังนั้น วิธีการก็คือทำตัวให้กลมกลืนกับคนอื่น เค้ามาเวลาไหนเราก็มาเวลานั้น เค้ากลับกันเวลาไหนเราก็กลับเวลานั้น แต่จริงๆ แล้วถ้าเราเก่งกว่าคนพวกนั้น เราไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นก็ได้ ทำงานของตัวเองให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด เราก็ไม่จำเป็นจะต้องนั่งแกร่วอยู่ที่ออฟฟิศจนดึกๆ ดื่นๆ แล้ว

ถ้าคุณเคยดูคลิปหรือฟังพวกนักพูดโน้มน้าวใจพูดถึงเรื่องต่างๆ คุณจะสังเกตเห็นว่า นักพูดเหล่านั้นมักจะยกมือขึ้นเวลาที่เขาตั้งตำถามอะไรบางอย่างให้แก่ผู้ฟัง มันเป็นจุดเริ่มต้น แล้วคนอื่นๆ ก็จะกล้ายกมือตามเพราะว่ามันมีคนเริ่มต้นยกมือแล้ว ฟังดูตลกใช่ไหมคะ? แต่มันเป็นหลักจิตวิทยาจริงๆ นะ คือการที่ไม่กล้ามีใครกลับเพราะทุกคนก็คิดว่าคนอื่นกำลังจับตาดูตัวเองอยู่ว่าใครจะไปก่อน หรือ ใครจะเป็นหน่วยกล้าตายที่จะโดนหัวหน้าเพ่งเล็ง คนที่เป็นแบบนี้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า “Presenteeism” คือการที่คนทำงานสามารถอยู่ทำงานได้ แต่ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่เพราะสภาพร่างกายและจิตใจที่ไม่เหมาะสม และมันเหมือนจะเป็นคำสาปของพนักงานออฟฟิศเลยทีเดียว ดังนั้น สิ่งที่ทุกคนต้องการก็คือ คนๆ หนึ่งเริ่มต้นกลับบ้านในเวลาที่เหมาะสม และไม่ดึกจนเกินไป และคนๆ นั้นจะเป็นผู้ปลดปล่อยทุกคนจากความเครียดว่าเมื่อไหร่จะได้กลับบ้านในที่สุด

 

คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า การกลับเร็ว หรือจริงๆก็คือกลับเวลาที่ควรจะกลับนั่นแหละ จะทำให้คุณได้รับความสนใจในทางที่ไม่ดีมากเกินไป เช่น คุณอาจจะดูไม่ดี เป็นคนขี้เกียจ ชอบอู้งาน แต่เชื่อไหมว่า ถ้าเรากลับบ้านอย่างมั่นใจ เรื่องพวกนี้จะไม่เกิดขึ้น คุณจะดูไม่ดี ถ้าคุณพยามหลบหน้าหลบตาคนอื่น ออกทางประตูหลัง หรือทำตัวเหมือนสุนัขขี้กลัวที่หางจุกก้น ดังนั้น โบกมือลาเพื่อนร่วมงานของคุณอย่างมั่นใจและบอกกับพวกเขาว่า “คนสุดท้ายอย่าลืมปิดไฟด้วยนะ” แล้วก็ไปใช้ชีวิตอย่างสบายใจเถอะ อย่าลืมว่าคนเราต้องมี Work-life balance นะคะ ขอให้มีความสุขกับการทำงานค่ะ

close
ลงทะเบียนกับ WorkVenture เพื่อค้นหางานใหม่ล่าสุดและอ่านรีวิวบริษัทจากผู้ทำงานจริง