Accenture Technology สร้างสรรค์นวัตกรรมเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจของคนทำงาน

ทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่ตื่นนอน ไปจนถึงเข้านอนเลยทีเดียว ชีวิตเราล้วนต้องเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง การทำงานในด้านที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีจึงกลายเป็นอะไรที่หลายคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสาขางานที่เติบโตไปได้อีกไกล และมีการพัฒนาต่อยอดไปได้อีกเรื่อยๆตามเทรนด์หรือการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ขอเพียงเราตั้งใจเรียนรู้ พัฒนาทักษะอยู่เสมอ ก็จะทำให้เราสามารถเติบโตในสายงานด้านเทคโนโลยีได้ และการเลือกทำงานในบริษัทที่มอบโอกาสเติบโตและการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่งจึงเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน   บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจและเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกเอง อย่าง เอคเซนเชอร์ (Accenture) ก็มุ่งเน้นความสำคัญในการผลักดันคนในองค์กรให้สามารถเรียนรู้ถึงเทคโนโลยีในทุกรูปแบบ ส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยีระดับลึกเพื่อให้ตอบโจทย์องค์กรได้ทุกระดับเช่นกัน ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้น มาดูพร้อมกันกับ WorkVenture เลย!

Accenture Technology กับการให้บริการด้านเทคโนโลยีที่โดดเด่น

จากที่เราได้ทำความรู้จักเอคเซนเชอร์ในภาพรวม ผ่านบทความ “6 เรื่องน่ารู้ ถ้าอยากร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง Accenture” ไปแล้ว วันนี้เราขอเจาะลึกให้มากขึ้นเกี่ยวกับสายงาน Technology ของ Accenture ที่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของบริษัทกัน

แม้เอคเซนเชอร์จะเป็นธุรกิจที่ปรึกษา แต่ก็สามารถให้บริการด้านเทคโนโลยีได้เช่นกัน โดยสายงาน Technology หรือ Accenture Technology นั้น มีพนักงานมากกว่า 325,000 คน จากพนักงานทั่วโลกของเอคเซนเชอร์กว่า 710,000 คน ที่สามารถนำเสนอและสร้างเทคโนโลยีที่ดีและเหมาะสมที่สุดในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ไม่ว่ารูปแบบธุรกิจของลูกค้าจะมีความซับซ้อนมากน้อยแค่ไหนก็ตาม มุ่งใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว ในทุก scale ของงาน สนับสนุนให้ลูกค้าเป็นผู้นำในตลาดหรืออุตสาหกรรมนั้นๆ

Accenture Innovation Hub ที่ซานฟรานซิสโก (San Francico)ประเทศสหรัฐอเมริกา

เอคเซนเชอร์ยังมี Innovation Hubs กระจายมากกว่า 100 แห่งทั่วโลก ที่สามารถแชร์ประสบการณ์และนำองค์ความรู้มาปรับใช้ได้เสมอ พร้อมความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Adobe, Alibaba, Amazon Web Services, Google, Microsoft, Pegasystems, ServiceNow, Workday เพื่อการตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

แล้วตัวอย่างของเทคโนโลยีที่เอคเซนเชอร์นำมาปรับใช้กับธุรกิจของลูกค้ามีอะไรบ้าง? Accenture Technology จะแบ่งย่อยออกมาเป็น 3 ส่วนหลัก ส่วนแรก เรียกว่า Intelligent Platform Services หรือการนำแพลตฟอร์มจากพาร์ทเนอร์สายเทคโนโลยี เช่น SAP, Salesforce, Oracle, Workday มาปรับใช้ให้เข้ากับลูกค้าในทุกอุตสาหกรรม ส่วนที่สอง คือ Cloud First โดยนำ Cloud (คลาวด์) มาปรับใช้ ได้แก่ Cloud Migration & Modernization, Application Engineering, Data & AI Transformation, Edge Computing/5G และส่วนที่สาม คือ Security เพื่อช่วยป้องกันข้อมูลสำคัญของลูกค้าให้ปลอดภัยอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น Cyber Defense, Identity & Access Management หรือ Security Strategy, Risk & Regulatory เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมไปถึง Technology Transformation, เมตาเวิร์ส (Metaverse),  Automation และอีกมากมาย

ในประเทศไทยเอง นอกจากทีม Accenture Technology ที่พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่แล้ว ก็ยังมีศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงในประเทศไทย หรือ Advanced Technology Center Thailand (ATCT) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครือข่าย Delivery Centers ของเอคเซนเชอร์ที่มีอยู่กว่า 50 แห่งทั่วโลก ที่พร้อมนำความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ และ best practice เข้ามาพัฒนาทักษะ เพื่อต่อยอดให้พนักงานเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในสายเทคโนโลยีนั้นๆอีกด้วย

วัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง

แม้ Accenture Technology ฟังดูแล้วน่าจะเป็นสายงานที่เหมาะกับผู้ชายมากกว่า แต่ไม่ใช่กับที่เอคเซนเชอร์ เพราะ 46% ของพนักงานเอคเซนเชอร์เป็นผู้หญิง นั่นแปลว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็สามารถทำงานในสายเทคโนโลยีที่เอคเซนเชอร์ได้นั่นเอง

เอคเซนเชอร์ยังสนับสนุนและให้ความสำคัญด้านการพัฒนาทักษะของพนักงาน ด้วยการลงทุนกว่า 1,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐในเรื่องของ learning & development ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ เฉพาะออนไลน์ก็มีคอร์สให้เรียนกว่า 10,000 คอร์ส ตามตำแหน่ง สายงาน และความสนใจ เพื่อให้พนักงานพร้อมสำหรับความท้าทายและ upskill อยู่เสมอ

และด้วยความที่เทคโนโลยีมีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หนึ่งในคอร์สของเอคเซนเชอร์ที่ส่งเสริมความรู้ตรงนี้คือ Technology Quotient หรือ TQ แม้ว่า พนักงานในหลายทีมจะไม่ได้มาจากสายเทคฯก็ตาม แต่ก็สามารถเรียนรู้ได้ เพราะมีสื่อการสอนหลายแบบ มีแบบทดสอบวัดระดับความรู้หลังการเทรน ซึ่งหัวข้อในคอร์สนี้ จำเป็นต่อการทำงานในอนาคตแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Cloud, Blockchain, 5G & Edge Computing, Sustainability & Technology, XR and the Metaverse เป็นต้น

ในส่วนของการทำงานที่เอคเซนเชอร์ที่มีการทำงานเป็นทีม ทุกคนจะได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานที่มีประสบการณ์ มีความชำนาญในธุรกิจนั้นๆ  ดูแลลูกค้าทั้งที่เป็นบริษัทชั้นนำในประเทศไทยและในระดับภูมิภาค ดังนั้นแต่ละทีมก็จะต้องมีความรู้จริงในงานด้านที่ตัวเองทำอยู่ อย่างทีมคลาวด์จะเป็นการสร้างนวัตกรรมด้านคลาวด์ที่ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ให้แก่ลูกค้าด้วยโปรแกรมเมอร์ front-end และ back-end มืออาชีพผ่านเทคโนโลยีที่ใหม่ที่สุด รวมไปถึงการใช้เครื่องมือใหม่ๆในการพัฒนาอย่าง DevOps Microservice Lean – Agile และอีกมากมาย ทีม Cybersecurity ก็จะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับระบบของลูกค้า ด้วยการปกป้องคอมพิวเตอร์ เน็ตเวิร์คและโปรแกรมต่างๆ ที่สำคัญให้รอดพ้นจากการใช้งานที่ไม่พึงประสงค์ รวมไปถึงทีมพัฒนา AI ที่มีพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญสูงมากกว่า 4 หมื่นคนทั่วโลกที่จะแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วผ่านการเรียนรู้ที่ไม่มีวันหลับไหลของโปรแกรมต่างๆ นอกจากนี้ยังมีทีมพัฒนา Blockchain และอีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีทุกรูปแบบ

ไม่เพียงแต่สนับสนุนให้พนักงานเก่งและมีความรู้อย่างแท้จริงเท่านั้น ที่เอคเซนเชอร์ยังสนับสนุนวัฒนธรรมแห่งความหลากหลายและความเท่าเทียม โดยเปิดโอกาสให้ผู้หญิงและกลุ่ม LGBTQ+ มีบทบาทในการทำงานได้อย่างเท่าเทียมโดยปราศจากข้อจำกัด รวมถึงบรรยากาศการทำงานที่มีความเป็นกันเอง เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเพื่อสรรหาไอเดียใหม่ๆ อีกด้วย

เทคโนโลยีโลกเสมือน เพื่อชีวิตที่ดีกว่าแบบเอคเซนเชอร์

ในช่วงที่ผ่านมาเทคโนโลยีอย่างหนึ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปี 2022 ก็คือเรื่องของโลกเสมือนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Metaverse,เทคโนโลยีจำลองวัตถุเสมือนจริง AR (Augmented Reality) และ เทคโนโลยีจำลองพื้นที่เสมือนจริง VR (Virtual Reality) ที่ทำให้เราได้มีโอกาสพบเจอกับสิ่งของต่างๆ ในโลกมนุษย์โดยผ่านอุปกรณ์ใกล้ตัว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อพูดถึงเทคโนโลยีสุดล้ำ ก็ต้องนึกถึงเอคเซนเชอร์
 มาดูตัวอย่างที่การนำเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ของเอคเซนเชอร์กัน 

หลังการเกิดของโควิด-19 ทำให้ความต้องการใช้ชุด PPE ของบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การใช้ชุด PPE มีขั้นตอนที่หลากหลาย ซึ่งหากใช้งานอย่างไม่ถูกต้องอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อไวรัสและอื่นๆ ตามมาได้ เอคเซนเชอร์จึงได้ร่วมมือกับ The University of British Columbia, BC Women’s Hospital และ Motive ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านแพลตฟอร์มการเทรนนิ่งผ่าน VR ในการสร้างคอร์สเทรนนิ่งผ่านความจริงเสมือน (extended reality - XR) ที่สามารถใช้ได้กับทั้ง VR headsets และมือถือ เพื่อสาธิตการใช้งานชุด PPE ที่ถูกต้องให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ เพื่อความปลอดภัยในสุขภาพของผู้สวมใส่ ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และยังช่วยลดการสาธิตจากการใช้ชุด PPE ของจริงซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดอีกด้วย สามารถอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมที่นี่ 

ช่วงที่หลายคนทำงานที่บ้าน แน่นอนว่า ก็ต้องมีความคิดถึงบรรยากาศการทำงานในออฟฟิศ การได้พูดคุย หรือใช้เวลาร่วมกับเพื่อนร่วมงานกันบ้าง เอคเซนเชอร์จึงสร้าง เวอร์ชวล ออฟฟิศ ชื่อว่า Accenture Nth Floor ขึ้น โดยการสร้างประสบการณ์ความเป็นจริงแบบผสม หรือ mixed reality experience ผ่านแพลตฟอร์ม AltspaceVR ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Microsoft Mesh  เพื่อให้พนักงานที่อยู่ตามที่ต่างๆทั่วโลกได้มาพบปะพูดคุยกันในคาเฟ่ดิจิทัล ประชุม เทรนนิ่งต่างๆ รวมไปถึงการต้อนรับและอบรมพนักงานใหม่ เสมือนการเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศจริงๆ เยี่ยมชมตัวอย่างของ Accenture Nth Floor ได้ที่นี่

จากตัวอย่างที่กล่าวมา และสิทธิบัตรมากกว่า 600 ใบที่เอคเซนเชอร์ถืออยู่ ก็สามารถการันตีความเชี่ยวชาญของเอคเซนเชอร์ในเรื่องเทคโนโลยีโลกเสมือนที่มีมานานกว่า 15 ปีได้เป็นอย่างดี เอคเซนเชอร์จึงสามารถช่วยลูกค้าออกแบบประสบการณ์ กำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจ พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาปรับใช้ เพื่อช่วยให้แบรนด์ของลูกค้าทันสมัยและเป็นผู้นำในตลาด นี่เป็นเพียงเรื่องราวเล็กๆ ขององค์กรสุดล้ำแห่งนี้ หากอยากสัมผัสการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุดด้วยตนเอง เอคเซนเชอร์มีโอกาสพร้อมรอให้คุณแล้วที่ https://www.workventure.com/company/accenture-solutions-co-ltd/jobs

Reference :

Explore a Caeer in Technology : Accenture

 https://www.youtube.com/watch?v=QOc3zovb8o8

Meet me in the Metaverse: Accenture Nth Floor
https://www.youtube.com/watch?v=taRdfhRO9lY

San Francisco Innovation Hub | Accenture
https://www.youtube.com/watch?v=VvmJ0R9SjSc