9 เหตุผล ที่คนรุ่นใหม่เทใจให้ AIS เป็นบริษัทที่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุดจนติดอันดับ Top50 Companies in Thailand 2024

ทำไม AIS ถึงติดอันดับ Top 50 Companies in Thailand 2024 ในฐานะองค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด คำตอบทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว!!  

WorkVenture ชวนมาสัมผัสวิธีคิด ชีวิตการทำงาน และบรรยากาศของออฟฟิศที่ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่แห่งนวัตกรรมและ Collaborative Workspace  สเปซสร้างสรรค์ที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม ที่สำคัญคือทำเลที่ตั้งยังอยู่ในย่านสุดชิคที่สุดย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ อย่างอารีย์ รวมถึงอีกหลากหลายเหตุผลที่ทำให้ AIS กลายเป็นองค์กรในฝันของคนรุ่นใหม่ในยุคนี้!!  

ใครที่กำลังมองหาการทำงานและโอกาสเติบโตในอุตสาหกรรมสายเทคฯ โดยเฉพาะในบริษัทที่กำลังก้าวสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะ (Cognitive tech-co) ที่มีเสียงการันตีล้นหลามจากคนรุ่นใหม่แล้วล่ะก็ อย่ารอช้า! ตาม WorkVenture มาได้เลย เชื่อว่าถ้าอ่านจบแล้ว AIS จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่ติดท็อปลิสต์ในใจคุณอย่างแน่นอน 

1. วัฒนธรรมองค์กร ขับเคลื่อนด้วยพลังและคุณค่าที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญ

วัฒนธรรมขององค์กรก็เปรียบได้กับเข็มทิศที่คอยชี้นำแนวทางการคิด วิธีการทำงาน คุณค่า และเป้าหมายของคนทำงาน สำหรับคนรุ่นใหม่แล้ว คุณค่าในการทำงานสำคัญมากพอ ๆ กับรายได้และคุณภาพชีวิตในที่ทำงานเลยทีเดียว ซึ่งวัฒนธรรมองค์กรของ AIS ที่กลมกลืนอยู่ในวิถีการทำงาน และเป็น DNA ของคน AIS ในทุกระดับ ก็ตรงกับคุณค่าในการทำงานของคนรุ่นใหม่สุด ๆ โดยประกอบด้วย 3 หลักสำคัญ คือ FIT FUN FAIR 

“FIT” คือการมีพลังในการทำงาน มีสุขภาพกายใจที่ดี พร้อมเรียนรู้ทักษะความรู้ใหม่ ๆ สะท้อนการให้ความสำคัญกับสุขภาพกายใจ และการไม่หยุดนิ่งพัฒนาตัวเอง  

“FUN”  ที่ชวนให้พนักงานทุกคนกล้าคิดกล้าทำ สนุกกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ตอบคุณค่าคนรุ่นใหม่ที่ชอบการทดลอง การมีพื้นที่ให้ได้แสดงความคิดเห็นและลงมือทำ  

“FAIR” หรือความเท่าเทียม อีกหนึ่งคุณค่าสำคัญที่คนรุ่นใหม่มองหา ซึ่งที่ AIS ทุกคนมีโอกาสเท่ากัน รับฟังความคิดเห็น ยอมรับความแตกต่าง และมอบผลตอบแทนตามผลงานอย่างเหมาะสม 

จากคุณค่าที่ตรงใจคนรุ่นใหม่ทั้ง 3 ข้อนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า วัฒนธรรมองค์กรของ AIS เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้หลาย ๆ คนสนใจอยากจะร่วมงานกับ AIS 

2. โลเคชั่นและการเดินทาง สะดวกสบายใกล้ ๆ BTS 

การเดินทางไปทำงานที่ราบรื่น สะดวก ไม่ยุ่งยาก ทำให้เราเริ่มต้นวันทำงานอย่างมีความสุข ซึ่งออฟฟิศของ AIS นั้นก็มีทำเลทองใกล้จุดขนส่งสาธารณะอย่างสถานีรถไฟฟ้า BTS ช่วยให้พนักงานวางแผนการเดินทางได้ง่าย สะดวก ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง 

โดยสำนักงานหลักก็ตั้งอยู่ที่ อาคาร AIS Towe 1 ซอยพหลโยธิน 8 นอกจากนั้น AIS ยังมีสำนักงานอีกหลายแห่งกระจายอยู่ตามอาคารต่าง ๆ ในละแวกประดิพัทธ์-อารีย์ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีอารีย์ หรือสถานีสะพานควาย ทั้งยังอยู่ในพื้นที่ให้บริการรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า ทำให้การเดินทางระหว่างสำนักงานต่าง ๆ สะดวกสบายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสุด ๆ 

3. จุดเช็กอินใกล้ออฟฟิศ ในย่านสุดชิคของกรุงเทพฯ

AIS ตั้งอยู่ใจกลางย่านสุดชิคอย่าง ‘อารีย์’ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความมีชีวิตชีวา ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนวัยทำงานได้ครบทุกแนว ทั้งคาเฟ่ขนม เบเกอรี เครื่องดื่ม และร้านอาหารเก๋ ๆ มากมาย ไปจนถึง สปา ร้านสังสรรค์ยามค่ำคืน รวมทั้งยังมีอีเวนต์และนิทรรศการสร้างแรงบันดาลใจ สับเปลี่ยนหมุนเวียนมาจัดขึ้นในย่านอารีย์อยู่เป็นประจำ ทั้งเดินทางง่าย สะดวกสบาย ทำงานใกล้พื้นที่สร้างสรรค์ พูดได้เลยว่า มาทำงานที่ AIS ก็เหมือนได้เติมพลังใจให้ตัวเองในทุก ๆ วัน

4. สวัสดิการที่จริงใจ ดีไซน์ได้ตามความชื่นชอบและไลฟ์สไตล์

“สวัสดิการ” อีกหนึ่งสิ่งที่สามารถบ่งบอกได้ว่าองค์กรให้ความสำคัญต่อพนักงานมากน้อยเพียงใด ซึ่ง AIS เองก็ใส่ใจถึงเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะที่นี่มีแนวคิดที่ต้องการให้ความสำคัญกับทุกความแตกต่าง โดยพนักงานทุกคนจะได้รับการดูแล และสวัสดิการอย่างเท่าเทียม รวมทั้งมีการให้ความสำคัญกับ Flexibility เพราะเชื่อว่าแต่ละคนมีความชอบ ความสะดวกที่ไม่เหมือนกัน จึงมีการปรับสวัสดิการ ให้ตอบโจทย์กับความหลากหลายของพนักงานอย่างทั่วถึง มีการเพิ่มทางเลือกที่พนักงานสามารถจัดสรรได้เองตามไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น

• วันลาพิเศษในเดือนเกิด ที่ไม่จำเป็นต้องลาตรงกับวันเกิด 

• ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ที่เลือกแผนได้เองตามการใช้ชีวิตของแต่ละคน 

• การตรวจสุขภาพที่เลือกเข้ารับการตรวจได้ตลอด 365 วัน ตามเวลาที่พนักงานสะดวก 

อีกทั้งยังมีสวัสดิการที่สมกับความเป็น AIS ด้วยแพ็กเกจสำหรับโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ตบ้าน สตรีมมิ่งความบันเทิง พิเศษเฉพาะพนักงานและครอบครัว ตลอดจนสิทธิ์ในการเลือกซื้อเบอร์สวย และการซื้อมือถือหรือ Gadget ต่าง ๆ ในราคาหรือเงื่อนไขพิเศษ

นอกจากนี้ AIS ยังมีโครงการ AIS Wellness เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพเชิงป้องกันของพนักงาน ภายใต้แนวคิด 4 อ. ได้แก่ อ.อาหาร อ.อารมณ์ อ.ออกกำลังกาย และ อ.ออมเงิน ซึ่งครอบคลุมทั้งสุขภาพกายใจ รวมถึงสุขภาพการเงิน ผ่านกิจกรรมหลายรูปแบบตามความต้องการของแต่ละคน

และสุดท้ายกับสวัสดิการสนุก ๆ อย่าง Flexi benefit ในรูปแบบของ Token ที่พนักงานสะสมจากการเข้าโปรแกรมเรียนรู้ พัฒนาตัวเอง หรือร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อแลกของรางวัลตามความชอบ ตั้งแต่เวาเชอร์ร้านอาหาร คูปองแลกขนม ไอศกรีม ส่วนลด Grab, Shopee เครื่องใช้ไฟฟ้า  นับว่าเป็นองค์กรที่มีสวัสดิการตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของพนักงานในแต่ละเจนได้เป็นอย่างดี

5. ประวัติองค์กร 34 ปี เครือข่ายสีเขียวที่คอยเคียงคู่คนไทย ในทุกการเปลี่ยนแปลงของโลก

รู้ตัวอีกที ค่ายมือถือสีเขียวอย่าง AIS เพื่อนคู่ใจของใครหลาย ๆ คน ก็อยู่เคียงข้างกับคนไทยมากว่า 34 ปีแล้ว โดยในอดีต AIS เผชิญความท้าทายอย่างมากมาย  แต่ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ทำให้ AIS ได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่เข้าถึงคนไทยทั่วประเทศ จนไม่ว่าใคร ๆ ต่างก็รู้จักน้องอุ่นใจ ซึ่งเป็นตัวแทนของความอุ่นใจเมื่อใช้บริการ AIS 

เดินทางมาถึงปัจจุบัน ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลมีบทบาทสำคัญต่อวิถีชีวิตมากขึ้น AIS ก็ตั้งเป้าหมายองค์กร ในการก้าวเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Cognitive tech-co) ที่ได้รับการยอมรับสูงสุดในประเทศไทย ด้วยการสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจหลัก รวมถึงยกระดับรากฐานสำคัญของบริษัทด้วยความอัจฉริยะ นวัตกรรม และ โซลูชันที่คำนึงถึงลูกค้าเป็นศูนย์กลาง 

เห็นได้ชัดเลยว่า การตอบรับทุกการเปลี่ยนแปลงของโลก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันรวมถึงในอนาคต เป็นอีกหนึ่งศักยภาพที่ยืนยันว่า AIS จะเติบโตอย่างมั่นคงไปพร้อม ๆ กับพนักงานในองค์กร และเป็นองค์กรที่พร้อมอยู่เคียงคู่คนไทยไปอีกนาน

6. รูปแบบการทำงาน ยืดหยุ่นไม่แพ้ใคร พร้อมใส่ใจทุกสายงาน

ปัจจุบันเทรนด์การทำงานของคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญในเรื่องของความยืดหยุ่นมากขึ้น หลาย ๆ คนเริ่มมองหาการทำงานที่สามารถให้พื้นที่กับพนักงานได้ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ในการเลือกทำงาน หรือ พื้นที่ในที่ทำงาน ซึ่ง AIS ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และพร้อมปรับตัวให้รับกับความต้องการที่หลากหลายของพนักงาน โดยมีนโยบาย Work Anywhere สำหรับพนักงานในสายงานที่สามารถทำงานทางไกล และเข้ามาออฟฟิศเป็นครั้งคราว เช่น IT 

หรือในส่วนของการเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศนั้น AIS ก็ได้จัดสรรพื้นที่การทำงานที่สะดวกสบาย เอื้อให้เกิดความคล่องตัว และมีพื้นที่ Co-working space ที่พนักงานสามารถเปลี่ยนบรรยากาศทำงาน หรือใช้หารือกันเวลาที่มีโปรเจกต์ต่าง ๆ ได้อย่างลื่นไหลไปพร้อมกับบรรยากาศการทำงานแบบ collective และเครื่องมือหลากหลาย ที่ช่วยสร้างเสริมและพัฒนาให้พนักงานมีทักษะการคิดเชิงนวัตกรรมอีกด้วย

7. สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่ทำงานสร้างสรรค์ ครบครันด้วยเทคโนโลยี 

ใครที่ก้าวเข้ามาในออฟฟิศของ AIS ก็เหมือนได้เข้าสู่พื้นที่นวัตกรรมและ สเปซสร้างสรรค์ที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีมอย่างแท้จริง เพราะออฟฟิศที่นี่ ได้เน้นการออกแบบและการจัดสรรพื้นที่ทำงานแบบ Collaborative Workspace เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการทำงานเป็นทีม ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ลดช่องว่างระหว่างหัวหน้าลูกน้อง โดยมีการติดตั้งแคปซูลสำหรับคุยโทรศัพท์หรือการประชุมสั้น ๆ ไว้เพื่อมอบความเป็นส่วนตัวสำหรับคนที่ต้องการ 

เพื่อเน้นย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะ AIS ก็ได้อำนวยความสะดวกให้พนักงาน ด้วยการมีพันธมิตรระดับโลกหลายราย อาทิ Microsoft ทำให้พนักงานสามารถเข้าถึงโปรแกรมหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ก่อนใคร เท่านั้นยังไม่พอ AIS ก็ยังนำ IoT Smart Automation เข้ามาในพื้นที่ทำงาน ๆ และห้องประชุม เพื่อควบคุมระบบไฟ และรองรับการประชุมทางไกล รวมถึงเซนเซอร์ปรับอุณหภูมิและแสงสว่างเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการทำงาน มี Cultivation Library ห้องสมุดดิจิทัล ที่เอาใจคนรักการอ่านอีกด้วย

แน่นอนว่าการทำงานไปนาน ๆ ก็อาจมีอาการเมื่อยล้า เสี่ยงประสบปัญหาออฟฟิศซินโดรม แต่บอกได้เลยว่าถ้าอยู่ที่ AIS คุณจะรู้สึกหมดกังวล เพราะที่นี่มี  “AIS Health Care Center” ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน โดยทีมแพทย์จากโรงพยาบาลพญาไท 2 พร้อมห้องกายภาพบำบัด ที่เต็มไปด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ทันสมัยตามมาตรฐานของโรงพยาบาล  มาให้บริการพนักงานถึงที่เลยทีเดียว

8.โอกาสเติบโต  พัฒนาอย่างไม่รู้จบ แบบฉบับ Lifelong Learning 

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่กลัวว่าการทำงานจะทำให้เราหยุดนิ่งอยู่ในเซฟโซนก็วางใจได้เลย เพราะ AIS ให้ความสำคัญกับการส่งเสริม Lifelong Learning ทุกคนจะได้โอกาสในการพัฒนาตัวเองไปสู่ The Best Version เติมความรู้ให้ตัวเองอย่างไม่รู้จบ โดยมี digital platform และองค์ความรู้ให้พนักงานแบบจัดเต็ม เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งแต่ละคนสามารถเลือกได้เองว่าอยากพัฒนาทักษะหรือความรู้ด้านใด ที่สำคัญ พนักงานสามารถดีไซน์เส้นทางการเติบโตและเลือกคว้าโอกาสได้ด้วยตัวเอง 

เปิดโลกให้กว้างยิ่งขึ้น เมื่อ AIS ได้ทรานสฟอร์มจากการใช้เทรนเนอร์มาสอนพนักงานในห้องเรียน สู่การจัดตั้ง AIS Academy ศูนย์การเรียนที่นำองค์ความรู้มาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ และสถาบันฝึกอบรมต่าง ๆ ทั้งภายในและนอกประเทศ เช่น Harvard, MIT โดยใช้ Digital Platform ที่เรียกว่า LearnDi เพื่อให้พนักงานเข้าถึงความรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา และสามารถเลือกเส้นทางพัฒนาตัวเองได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นด้าน Soft skill หรือ Hard skill อันเป็นการสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในองค์กร เมื่อพัฒนาสกิลของตัวเองแล้ว ก็พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า และด้วยธุรกิจที่หลากหลาย Career Path ของที่นี่จึงเอื้ออำนวยให้พนักงานเติบโตไปได้ทั้งแนวตั้ง แนวนอน และแนวทแยง ขึ้นอยู่กับผลงาน ความสามารถ และการเรียนรู้พัฒนาตัวเองของพนักงานแต่ละคน

9.บริการและธุรกิจ เชื่อมต่อทุกความเป็นไปได้ ด้วยบริการที่หลากหลายของ AIS 

AIS คือ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี ที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากในประเทศไทย ด้วยภาพจำของการเป็นองค์กรล้ำสมัย ผ่านการให้บริการหลัก 4 ด้าน ได้แก่

• บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยเทคโนโลยี 4G และ 5G ทั้งในประเทศและการโทรข้ามแดน 

• บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่ครอบคลุมทั้งภาคครัวเรือนและองค์กรธุรกิจ

• บริการเทคโนโลยีและโซลูชันแก่ลูกค้าองค์กรธุรกิจ ที่ครอบคลุมตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ดิจิทัลแพลตฟอร์ม และดิจิทัลโซลูชัน ตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่ถึง SME

• บริการด้านดิจิทัลที่สอดรับกับความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  วิดีโอแพลตฟอร์ม บริการทางการเงินดิจิทัล และเกมแพลตฟอร์ม 

ด้วยบริการด้านเทคโนโลยีที่หลากหลาย ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคอย่างรอบด้าน ทำให้สำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีสกิลดิจิทัล ชื่นชอบเทคโนโลยี และอยากอัปเดตตัวเองไม่ให้ตกเทรนด์ ก็คงไม่มีที่ไหนตอบโจทย์ไปกว่าการทำงานกับ AIS อีกแล้วล่ะ

ด้วยเหตุผลทั้ง 9 ข้อนี้ก็คงตอบข้อสงสัยของทุกคนแล้วว่าแล้วว่าทำไมคนรุ่นใหม่จึงเทใจให้ AIS เป็นบริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานมากที่สุด ถ้าคุณอยากสัมผัสประสบการณ์การทำงานในองค์กรสุดเจ๋งอย่าง AIS แล้วล่ะก็ ตามมาได้เลย ที่นี่