เปิด 5 ทักษะทางการเงิน และเทคนิคการลงทุน ที่ต้องมีในปี 2023
เชื่อว่าพวกเรามักจะถูกปลูกฝังเรื่องการออมเงินกันตั้งแต่เด็กๆ แต่น้อยนักที่จะมีคนมาสอนว่าเราจะต่อยอดเงินนั้นได้อย่างไร? ในเหล่าคนทำงาน พนักงานออฟฟิศอย่างพวกเรายิ่งควรจัดสรรเงินอย่างระมัดระวังโดยเฉพาะในช่วงที่ศรษฐกิจผัวผวนแบบนี้ เงินเดือนที่ได้มาจึงควรแบ่งไว้ในการออมและการลงทุนด้วยเช่นกัน ทั้งเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อและต่อยอดเงินให้งอกเงยขึ้น แต่ถ้าหากว่าคุณยังไม่มีการวางแผนการเงินที่ชัดเจน และอยากเรียนรู้การลงทุนก็สามารถเริ่มต้นลงทุนในรูปแบบที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้ ซึ่งวันนี้ WorkVenture ได้รวบรวมเทคนิคในการลงทุนเบื้องต้นพร้อม 5 ทักษะทางการเงิน ที่ต้องมีใน 2023 มาเป็นอีก 1 ทางออกของคุณ ดังนี้
1. ออมเงินให้ได้
คุณต้องมีวินัยในการออมเงิน และมีการวางแผนที่ชัดเจน เป็นสัดส่วน และที่สำคัญต้องเป็นจริงได้ ซึ่งคุณต้องมั่นใจว่าคุณสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่มีการผลัดวันประกันพรุ่ง หรือมีข้ออ้างต่างๆ เพื่อเอาเงินส่วนนั้นมาใช้ก่อน
เทคนิคการลงทุน : ก่อนที่คุณจะเริ่มลงทุนอย่างอื่นเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม คุณควรจะลงทุนเงินก้อนแรกของคุณเพื่อเป็น "กองทุนเงินเผื่อฉุกเฉิน" ในกรณีที่เกิดเหตุการณืไม่คาดคิดต่างๆ ในอนาคต ซึ่งคุณสามารถเลือกออมได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บเป็นเงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ หรือลงทุนตราสารตลาดการเงินที่มีสภาพคล่อง และมีความเสี่ยงต่ำก็ได้
2. วางแผนภาษีให้เป็น
การวางแผนภาษีเป็นทักษะที่สำคัญ เพราะเมื่อมีรายได้ก็ต้องเสียภาษี ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อกำหนดต่างๆ ในการเสียภาษีให้ดี ทว่าจะรอยื่นภาษีอย่างเดียวไม่ศึกษาข้อมูลมันไม่ได้แล้ว ยิ่งในยุคแห่งเทคโนโลยีที่คุณสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย มีผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับการคำนวณภาษีมาเผยแพร่ข้อมูล การยื่นภาษี การลดหย่อนภาษี เนื่องจากการยื่นภาษีก็สามารถทำได้หลายรูปแบบ ซึ่งก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป แต่การรู้จักใช้ความรู้ให้เกิดประโยชน์คุณเองก็จะสามารถรักษาสิทธิของตนเองได้
เทคนิคการลงทุน : ในการลงทุนของตราสารทางการเงินบางประเภทก็สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ ช่วยให้คุณเสียภาษีน้อยลง และสามารถเป็นเงินทุนสำคัญที่สามารถสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตของคุณหลังเกษียณงานได้ นั่นก็คือ กองทุนรวม SSF RMF รวมถึงประกันชีวิต (อายุเกิน ) ปี
3. เริ่มสร้าง Passive Income
อย่าคิดแค่ว่าคุณมีรายได้เท่านี้แล้วจะต้องใช้เงินให้น้อยลง เพราะถ้าคุณอยากใช้เงินมากขึ้น คุณก็หาโอกาสในการเพิ่มช่องทางรายรับให้มากกว่า 1 ทางดูสิ ยิ่งคุณพยายามสร้างมันมาก้ท่าไหร่คุณก็จะรู้ว่านั่นคือความมั่งคั่งที่มากขึ้นและมีอิสภาพทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งแต่ละคนก็สามารถสร้าง Passive Income ได้ด้วยวิธีที่แตกต่างกันออกไป บางคนใช้ความถนัด หรืองานอดิเรกที่ชอบมาสร้างรายได้เสริม หรือบางคนศึกษาการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อเริ่มลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว หุ้นปันผล หรือกองทุนที่มีนโยบายจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ
เทคนิคการลงทุน : ควรสร้างฐานเงินทุนตั้งแต่เนิ่นๆ เงินที่นำมาลงทุนต้องไม่กระทบต่อเงินในส่วนอื่น และเป็นเงินที่สามารถรับความเสี่ยงได้ และเมื่อได้เงินปันผลหรือผลตอบแทนแล้วก็ไม่ควรนำมาใช้แต่ควรจะเป็นการลงทุนเพิ่มเติม
4. รู้จักกองทุนรวมและสร้าง Asset Alocation
การศึกษาการลงทุนในรูปแบบของกองทุนรวม เป็นการลงทุนที่ไม่ต้องคอยดูกราฟหรือติดตามพอร์ตหุ้นอยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องคอยระวัง เพราะเป็นการลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ และยังสามารถสร้างความมั่งคั่งทางการเงินได้
เทคนิคการลงทุน : ควรหาและเลือกกองทุนหลัก หรือ Core Portfolio ที่เป็นการลงทุนกองทุนรวมประเภทกระจายไปในทุกสินทรัพย์ครบทั้งในและต่างประเทศ และต้องคำนึงถึงความเสี่ยง ที่ตนเองรับไหว แต่ถ้าคุณมั่นใจว่าสามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น ก็อาจจะเลือกลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์ที่คุณมีความชำนาญนั้นมากขึ้น
5. เปิดรับโอกาสการลงทุนต่างประเทศ
การลงทุนต่างในประเทศมีแน้วโน้มการเติบโตที่สูงกว่า มีหุ้นใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่งในด้านการลุงทุนปัจจุบัน และยังสามารถเป็นตัวกระจายความเสี่ยงจากสภาวะเศษฐกิจภายในประเทศได้เป็นอย่างดี
เทคนิคการลงทุน : ควรศึกษาข้อมูล และติดตามข่าวเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจของต่างประเทศ ประกอบการตัดสินใจการลงทุน เลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเรา และความเสี่ยงที่รับไหว
แนะนำว่าไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ ศึกษา และทำความเข้าใจ ไม่มีใครเก่งตั้งแต่เริ่ม แต่ทุกคนสามารถพํฒนากันได้ เพราะในโลกออนไลน์มีสื่อความรู้มากมายที่คุณสามารถศึกษาด้วยตนเอง หรือถ้าอยากฝึกฝนแบบจริงจัง ก็มีหลายสถาบันที่ให้ความรู้เกี่ยวกับหุ้น ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือคนที่มีความรู้อยู่แล้วอยากจะพัฒนาต่อยอดก็สามารถเรียนรู้ได้
ที่มา : https://www.thansettakij.com/finance/552484