ข่าวสารใหม่ๆ | 13 September 2023

หยุดพักจากงานสักนิดดียังไง? 5 ประโยชน์ที่ต้องรู้ก่อนลุยงานต่อ

บทความก่อนหน้านี้เราได้พูดถึง 4 สาเหตุ ที่อาจทำให้มนุษย์ออฟฟิศอย่างคุณต้องก้มหน้าทำงานหนักจนละเลยการหยุดพักไปแล้ว WorkVenture หวังว่าทุกคนจะตระหนักถึงข้อเสียจากการโหมงานจนเกินไปแล้วลุกไปผ่อนคลายดูบ้าง เพราะในบทความนี้เราจะมาพูดถึงประโยชน์ที่จะได้รับ หากให้เวลาตัวเองได้หยุดพักสักนิดก่อนไปทำงานต่อ ที่พอคุณรู้แล้วต้องอยากลุกออกจากหน้าคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ตอนนี้แน่นอน!

 

 

เหตุผลที่คุณควรหยุดพักระหว่างทำงาน

สำหรับมนุษย์ออฟฟิศบางคนที่ไฟแรงกับการทำงานเพื่อที่จะรีบพัฒนาตัวเองและประสบความสำเร็จอาจปฏิเสธการหยุดพัก เพราะคิดว่าจะทำให้ตัวเองไปถึงเป้าหมายช้าลงกว่าเดิม แต่หลายงานวิจัยเปิดเผยว่าการหยุดพัก ไม่ว่าจะเป็นการพักสั้น พักยาว หรือการพักกลาง ก็ล้วนแล้วแต่จะส่งผลดีต่อการทำงานทั้งสิ้น โดยทุกงานวิจัยได้คำตอบตรงกันว่าการหยุดพักจะช่วยลดความเครียดและความเหนื่อยล้า รักษาสภาพร่างกายและจิตใจให้คงที่ รวมถึงป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น อาการนอนไม่หลับและโรคหัวใจ อีกทั้งงานวิจัยหนึ่งในปี 2017 ยังเน้นย้ำอีกว่าการหาเวลาพักสั้น ๆ ระหว่างทำงานตลอดทั้งวันจะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตแถมยังเพิ่มพลังในการทำงานของคุณให้ไม่มีวันหมด ดังนั้นไม่ว่าคุณจะต้องทำงานหนักด้วยสาเหตุใดก็ตาม การสร้างเวลาพักผ่อนให้กับตัวเองจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยอย่างยิ่ง แล้วมาดูกันว่าหลังจากคุณได้พักผ่อนแล้ว ประโยชน์ที่คุณจะได้รับมีอะไรบ้าง

 

5 ประโยชน์ที่จะได้รับหากคุณได้หยุดพักจากงาน

  • เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะหากฝืนทำไปในขณะที่สมองกับร่างกายของคุณเริ่มประท้วงให้คุณหยุดพัก ก็มีแต่จะลดทอนศักยภาพที่มีอยู่จนคุณอาจรู้สึกว่าผลงานของคุณแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งทำให้เกิดความอ่อนล้าและขาดแรงจูงใจในการทำงาน การที่คุณหยุดพักสักนิดระหว่างการทำงาน จะทำให้สมองที่เคยอ่อนล้ากลับมาแจ่มใส คิดเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้นกว่าตอนที่ตั้งหน้าตั้งตาโหมงานหนักอย่างเดียว ซึ่งจะนำไปสู่การวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตัดสินใจที่เฉียบขาด และการทำงานที่รวดเร็วกว่าเดิม

 


 

  • พัฒนาศักยภาพการทำงานของทีม ลองนึกภาพว่าคุณเป็นหัวหน้าทีมที่กดดันให้ลูกน้องทำงานอย่างไม่หยุดพักเพื่อหวังให้งานออกมามีคุณภาพและเสร็จเร็วที่สุด แต่กลับละเลยเรื่องสุขภาพของทีมงานจนลูกน้องภายในทีมเริ่มทยอยล้มป่วยและเครียดกันทีละคน แบบนี้นอกจากงานจะไม่เสร็จตามเวลาที่กำหนดแล้ว คุณภาพของงานก็ไม่อาจทำให้คุณหรือลูกค้าพึงพอใจได้ การสนับสนุนการพักผ่อนและคลายเครียดภายในทีมจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานเป็นทีม เพื่อเป็นการคงคุณภาพผลงานโดยภาพรวมของทีมและเป็นการรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรได้นานอีกด้วย

  • เพิ่มความรอบคอบในการทำงาน หากคุณเป็นคนที่มักจะเผลอมองข้ามรายละเอียดสำคัญระหว่างทำงานโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้จะพยายามเพ่งให้มากที่สุดหรือทบทวนหลายรอบแล้วก็ตาม บางทีสาเหตุอาจมาจากการที่คุณอ่อนล้าจากการทำงานจนเกินไป ร่างกายจึงพยายามส่งสัญญาณบอกให้คุณลุกออกมาทำอย่างอื่นบ้างเพื่อเป็นการพักผ่อน เติมพลังงานให้กับสมองและสายตา แล้วคุณจะสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบหลังได้พักผ่อนมากพอ คราวนี้ก็หมดปัญหาการมองข้ามจุดผิดพลาดที่ไม่ว่าจะขนาดเล็กแค่ไหนคุณก็สังเกตและจัดการจนอยู่หมัดได้

 

 

  • รักษาสุขภาพกายและใจ เพราะทั้งสองสิ่งนี้คืออาวุธประจำตัวของมนุษย์วัยทำงานที่ไม่สามารถหาสิ่งใดมาทดแทนได้อีก หากสุขภาพของคุณพังลงด้วยโรคภัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ออฟฟิศซินโดรม ความเครียด อาการซึมเศร้า ซึ่งเป็นสาเหตุจากการทำงานโดยไม่หยุดพัก นอกจากจะส่งผลต่อกระบวนการทำงานแล้ว คุณยังต้องเสียทั้งเงินและระยะเวลานานในการรักษาที่ไม่อาจคำนวณได้เพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจที่มีเพียงหนึ่งเดียวของคุณเองให้กลับมามีสภาพคล้ายเดิมมากที่สุด ดังนั้นจัดสรรเวลาหยุดพักระหว่างการทำงานจึงเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเสมอเมื่อคุณต้องบริหารเวลาและวางแผนการทำงานในแต่ละวัน

 

 

  • สร้างความคิดสร้างสรรค์ เพราะการพักผ่อนถือเป็นวัตถุดิบสำคัญของความคิดสร้างสรรค์ เพราะยิ่งคุณฝืนใช้ร่างกายหรือจิตใจอันเหนื่อยล้าในการทำงานมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งยากที่จะผลิตไอเดียดี ๆ ออกมาเพื่อใช้งานมากเท่านั้น ในทางตรงกันข้ามหากคุณจำเป็นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การผละออกจากงานตรงหน้ามาสักพักเพื่อให้เวลาตัวเองได้ประมวลผลความคิดในหัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อาจทำให้คุณมีไอเดียใหม่ ๆ ที่น่าสนใจและสามารถนำไปต่อยอดในอนาคตได้มากกว่าเอาแต่นั่งจดจ่ออยู่นั่นเอง

 

การหยุดพักระหว่างทำงานนับเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางแห่งความสำเร็จที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด เพราะการรักษาสมดุลระหว่างชีวิตทำงานและชีวิตส่วนตัวนั้นจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพที่อาจจะพบเจอได้แถมยังเพิ่มพลังความคิดให้แจ่มใสและลื่นไหลตลอดทั้งวัน จนต้องบอกลาปัญหาเรื่องหมดไอเดียหรือคิดงานไม่ออกไปได้เลย ดังนั้นคุณจึงควรแบ่งเวลาพักผ่อนระหว่างทำงานให้เป็นนิสัยเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีอย่างที่ WorkVenture ได้แนะนำไป แต่ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าควรแบ่งเวลาทำงานและเวลาพักยังไง ก็ลองอ่านบทความนี้ดูสิ! เพื่อ Work-Life Balance ที่ดีของตัวคุณเอง