คำแนะนำการหางาน | 21 September 2015

5 วิธีลดความเครียดระหว่างหางานใหม่

อะไรที่มันเครียดกว่าการเปลี่ยนงานซ้ำแล้วซ้ำเล่าคะ? ไม่มีงานทำเลยยังไงล่ะ! การอยู่ในขั้นตอนหางานแบบไม่มีที่สิ้นสุดนั้นเป็นอะไรที่น่าเหนื่อยและเครียดมาก และความเครียดนี้แหละสามารถนำไปสู่ปัญหาทางด้านสุขภาพ อารมณ์ หรือแม้แต่ทัศนคติได้เลย พูดได้ง่ายๆ ว่า มันสามารถส่งผลกระทบต่อความสามารถในการหางานของคุณได้เลยนะ และเป็นผลกระทบในทางที่ไม่ค่อยดีซะด้วย ถ้าอยากเป็นผู้สมัครที่เขาเลือกล่ะก็ คุณก็ต้องมีสุขภาพที่พร้อมทั้งกายและใจด้วย เพราะไม่มีใครอยากจ้างคนที่จะมาทำงานแล้วทำหน้าบึ้งตึงหรือป่วยอยู่ตลอดเวลาหรอกนะ

ผลสำรวจเกี่ยวกับความคิดเห็นต่อสุขภาพจาก Aon Hewitt ได้พบว่า คนรุ่นใหม่ยุคนี้ มักจะดูแลตัวเองได้แย่กว่าคนยุคก่อนๆ เพราะหลังจากไปสำรวจประชากรชาวอเมริกัน 2,700 คน มีเพียง 39% เท่านั้นที่คิดว่าการดูแลสุขภาพตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ เราอยากจะเตือนเหล่าคนรุ่นใหม่ที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ว่า ถึงคุณจะยังอายุน้อย มันก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะแข็งแรงไม่เจ็บป่วยตลอดไปนะคะ และนี่ก็เป็น 5 เรื่องง่ายๆ ที่คุณควรจะทำระหว่างหางานใหม่ เพื่อจะได้มีสุขภาพที่ดีพร้อมจะเริ่มงานได้ทันทียังไงล่ะ!

 

1. ออกกำลังกายเป็นประจำ

คุณอาจจะได้ยินจนเบื่อแล้วว่าการออกกำลังกายน่ะดีต่อสุขภาพ แต่งานวิจัยหลายๆ ที่กล่าวว่า ไม่เพียงแต่ดีต่อสุขภาพเท่านั้นนะ การออกกำลังกายยังสามารถเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดอาการซึมเศร้า หรือสามารถช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้นในผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับอีกด้วย ดังนั้น ถ้าคุณเครียดเรื่องหางานจนนอนไม่หลับ การออกกำลังกายอาจจะช่วยคุณได้นะ ถ้าการจะหาเวลาและแรงจูงใจที่จะไปออกกำลังกายมันยากมาก ลองทำกับมันเหมือนเป็นงานสังคมสิ ออกกำลังกายกับเพื่อน เข้าคลาสโยคะ หรือลองใช้แอปพลิเคชั่นพวก FitBit หรือ RunKeeper เพื่อติดตามผลของการออกกำลังกาย คุณจะได้รู้ว่าตัวเองทำได้ดีแค่ไหนแล้ว

 

2. เติมพลังด้วยผัก ผลไม้ และวิตามิน

พอโตแล้ว คุณก็สามารถกินอะไรที่มันไม่ดีต่อสุขภาพได้เยอะขึ้นเพราะไม่ค่อยมีใครมาบ่น ตอนนั้นล่ะก็ดีใจสุดๆ เลยใช่ไหมคะ แต่อย่าลืมนะว่า ของไม่ดีต่อสุขภาพ กินมากๆ ร่างกายก็จะแย่ค่ะ กินเป็นครั้งคราวน่ะพอได้ แต่ถ้าคุณอยากได้ของกินที่จะให้พลังงานกับคุณได้ทั้งวันล่ะก็ ลองกินผัก ผลไม้แทนขนมขบเคี้ยวเหล่านั้นดูสิคะ เวลาว่างๆ คุณก็อาจจะลองหาสูตรอาหารหรือขนมใหม่ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ แล้วก็ควรจะเริ่มกินวิตามินรวมเพื่อช่วยในเรื่องระบบภูมิคุ้มกันและความเครียดด้วยนะ

 

3. ไปตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ

ถ้าคุณอิดออดที่จะไปหาหมอล่ะก็ คุณไม่ใช่คนเดียวหรอกค่ะ ผลสำรวจจาก Aon Hewitt พบว่าคนรุ่นใหม่ Gen Y มีเพียง 54% เท่านั้นที่ไปหาหมอในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ส่วนคน Gen X นั้นไปหาหมอประมาณ 60% และคนยุค Baby Boomers นั้นไปหาหมอกันถึง 73% เลยทีเดียว ถึงเทคโนโลยีปัจจุบันจะอำนวยความสะดวกในด้านข้อมูล ทำให้หลายๆ คนสามารถวินิจฉัยอาการของตัวเองได้แบบคร่าวๆ และในบางเคสที่ไม่ร้ายแรงมากก็อาจจะหาวิธีรักษาเองได้ด้วย แต่การไปตรวจสุขภาพเป็นประจำก็จะทำให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงโรคต่างๆ ที่ถ้าปล่อยไว้ อาจจะถึงขั้นร้ายแรงจนคุณต้องหยุดงานได้เลยนะ!

 

4. นอนหลับพักผ่อนให้มากขึ้น

การนอนหลับไม่เพียงพอนั้นจะดูดพลังงานและสมาธิของคุณให้หายไปอย่างรวดเร็ว และคุณจะคิดอะไรได้เชื่องช้าไม่ทันการ ซึ่งจริงๆ แล้ว เวลาที่คุณหางาน ทุกอย่างควรจะเป็นตรงกันข้าม! ดังนั้น นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวันนะคะ ฟังร่างกายของคุณบ้าง และเวลาที่คุณหมดแรงแบบสุดๆ เนี่ย ก็จงไปนอนซะ ถึงนั่นจะหมายความว่าคุณต้องออกจากงานปาร์ตี้เร็วอีกนิด มันอาจจะไม่ได้มีผลกระทบอะไรให้เห็นแบบทันตาหรอก แต่ในระยะยาว การนอนตี 4 ทุกวันจะทำให้คุณตื่นตัวน้อยลง และสุขภาพก็แย่ลงอีกด้วย

 

5. ทำงานอาสา

ระหว่างการว่างงานอันยาวนาน มันก็เป็นเรื่องปกติที่คุณอาจจะรู้สึกหลงทางไปบ้าง คุณไม่มีงานอะไรที่ต้องทำ ไม่มีที่ที่ต้องไป และคุณก็อาจจะรู้สึกว่ามันยากเหลือเกินที่จะทำตัวมุ่งมั่นและมั่นใจตลอดการหางาน ดังนั้น ทำจิตใจให้สดใสด้วยการออกไปทำงานอาสาค่ะ ถึงคุณอาจจะไม่ได้เงินกลับมา แต่สิ่งที่คุณจะได้ก็คือสภาพจิตใจที่ดีขึ้นละยังจะได้ช่วยสังคมอีกด้วย นอกจากนั้น คนจะยังจะได้พบปะพูดคุยกับคนที่มีงานทำ ซึ่งคุณจะสามารถสร้างคอนเนคชั่นจากตรงนี้ได้อีกด้วย! การเข้าสังคมแบบนี้จะช่วยให้คุณมีพลังและต่อสู้กับอาการซึมเศร้าที่ไม่มีงานทำได้เป็นอย่างดีทีเดียวล่ะ

สุขภาพที่ดีทั้งกายและใจนั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการหางาน ยิ่งคุณสุขภาพดีมากเท่าไหร่ คุณก็สามารถอดทนต่อความเครียดและความยากลำบากในการหางานได้ดีมากเท่านั้น การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายจะช่วยให้สมองคุณปลอดโปร่งและคิดอะไรดีๆ ได้ ส่วนการกินอาหารดีๆ ก็จะทำให้ร่างกายของคุณสบาย และอย่าลืมที่จะไปหาหมออย่างเป็นประจำด้วยนะคะ