บริษัทที่น่าสนใจ | 18 October 2017

4 องค์ประกอบที่ทําให้ "งานและไลฟ์สไตล์" เป็นเรื่องเดียวกันที่ Philip Morris

ยุคนี้ หนึ่งในองค์ประกอบสําคัญที่ผู้สมัครนํามาใช้ในการตัดสินใจสมัครหรือเข้าทํางานกับองค์กรใดองค์กรหนึ่ง และมีความสําคัญไม่แพ้เรื่อง "ค่าตอบแทน" ก็คือ "วัฒนธรรมองค์กร" และ "ไลฟ์สไตล์การทํางานที่ยืดหยุ่น"

บริษัทชั้นนําระ​ดับโลกอย่าง Philip Morris (Thailand) Limited ก็เป็นองค์กรสุดทันสมัยที่มีวัฒนธรรมองค์กรและไลฟ์สไตล์การทํางานที่เหมาะกับคนทุกรุ่นทุกวัย วันนี้ WorkVenture พามาดู 4 องค์ประกอบที่จะทําให้คุณได้คําตอบว่า ทำไม Philip Morris ถึงเป็นองค์กรสําหรับทุกคนอย่างแท้จริง

1. Flexible Hours & Friday Remote Working "เลือกเวลาได้เอง"

การทำงานแบบ Flexible Hours คือการที่เราสามารถเริ่มหรือเลิกงานเวลาไหนก็ได้ ซึ่งที่ Philip Morris ก็ให้พนักงานสามารถทำงานแบบ Flexible Hours ได้ด้วย โดยพนักงานสามารถเลือกเวลาเริ่มงานได้ตั้งแต่ 07.00 -10.00 น. ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การทำงานและกิจกรรมส่วนตัวของคุณเอง หากคุณเป็นสายตื่นเช้า คุณก็สามารถเลือกมาทำงานได้ตั้งแต่ 07.00 น. และกลับบ้านในเวลา 16.00 น. หรือคุณเป็นสายนอนดึก คุณก็สามารถเลือกมาทำงานเวลา 10.00 น. และกลับบ้านในเวลา 19.00 น. ซึ่งแบบนี้ทำให้คุณสามารถบริหารจัดการตารางเวลาของตัวเองได้ตรงใจมากขึ้น

นอกจากนี้ Philip Morris มองว่างานไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดให้ทำเฉพาะที่ออฟฟิศเท่านั้น พนักงานที่นี่สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ในทุกวันศุกร์ หรือที่เรียกว่า “Friday Remote Working” โดยบริษัทฯได้จัดเตรียมอุปกรณ์ที่จะช่วยสนับสนุนให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลการทำงานและติดต่อสื่อสารกันจากที่ไหนก็ได้ ซึ่งจะเป็นการช่วยประหยัดเวลาเดินทาง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สร้างความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงยังสร้าง Positive Vibes ในการทำงานได้อีกด้วย #ดีต่อใจสุดๆ

2. Flexible Dress Code "แต่งให้เป็นตัวเอง"

ความยืดหยุ่นในการทำงานไม่ได้หมายถึงเรื่องการจัดการเวลาอย่างเดียวเสมอไป Philip Morris มีวัฒนธรรมที่ส่งเสริมการเป็นตัวของคุณเอง ทั้งเรื่องของการแสดงความคิดเห็นและไลฟ์สไตล์การทำงาน

รวมถึงเรื่องการแต่งตัวโดยมีคอนเซ็ปต์ที่เรียกว่า “Be Yourself” Dress Code โดยในวันที่ไม่ต้องออกไปพบลูกค้าหรือไปร่วมงานที่เป็นทางการ พนักงานสามารถแต่งตัวมาทำงานได้ตามสไตล์ของตัว จะน้อยแต่มาก เช่น เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ เรียบแต่โก้หรือไฮแฟชั่นมาทำงานก็ยังได้

3. Flexible Working Space “ที่ทำงานสุดฮิป”

ถ้าออฟฟิศในจินตนาการของคุณคือห้องทำงานที่เต็มไปด้วยสีสัน ไม่มี Partition มาคั่นโต๊ะทำงานของเราและเพื่อนร่วมงาน มีโต๊ะพูลและเครื่องดนตรีไว้ให้เล่นเพื่อผ่อนคลายจากการทำงาน มีโต๊ะปิงปองหรือแม้กระทั่งชิงช้าในห้องประชุมแล้วล่ะก็ Philip Morris ได้ทำให้สิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องจริงแล้ว เพราะทุกพื้นที่ในออฟฟิศแห่งนี้เต็มไปด้วยสีสัน ช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานให้สนุก มีชีวิตชีวา และทำให้การนั่งทำงานในออฟฟิศไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป” ที่นี่มีรูปแบบห้องประชุมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ห้องคาเฟ่มีกีต้าร์ ห้องซาฟารี ห้องกีฬา เพื่อสร้างบรรยากาศให้คุณผ่อนคลายและช่วยให้คุณคิดไอเดียปังๆ ได้เยอะมากขึ้น

4. Flexible Benefits “สวัสดิการเลือกได้”

หมดสมัยแล้วที่สวัสดิการของบริษัทจะต้องเป็นแบบสำเร็จรูป ! บริษัทให้อะไรมา ก็ต้องใช้ตามนั้น เป็นแพ็คเกจเดียวกันหมด ที่ Philip Morris มีสวัสดิการที่ให้พนักงานได้เลือกเองเพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ทั้งสายครอบครัว รักสุขภาพ ชอบท่องเที่ยว หรือออกกำลังกาย อันไหนใช่ อันไหนโดน จัดไปตามสะดวก

นอกจากนี้บริษัทฯจะคอยจัดหาของอร่อยจากทั่วกรุงเทพฯมาให้พนักงานได้ลิ้มลองในทุกวันพุธ ในกิจกรรมที่เรียกว่า “Happy Wednesday”  พนักงานจะได้ทานของอร่อยๆและเป็นโอกาสดีที่เพื่อนๆจากแต่ละแผนกจะได้พบปะสังสรรค์อัพเดทเรื่องราวกันและได้ผ่อนคลายจากการทำงานอีกด้วย ช่างเป็นออฟฟิศที่ฉีกทุกรูปแบบเดิม ๆ ของออฟฟิศแสนน่าเบื่ออย่างแท้ทรู

ถ้าหากคุณกำลังมองหางานจากบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรสุดเจ๋งและมีไลฟ์สไตล์การทำงานที่ยืดหยุ่น รวมถึงได้ทำงานที่ท้าทายในบรรยากาศที่สนุก มีชีวิตชีวาแล้วล่ะก็ ที่ Philip Morris เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว อย่ารอช้า! มาเป็นส่วนหนึ่งของ Philip Morris โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่


close
ลงทะเบียนกับ WorkVenture เพื่อค้นหางานใหม่ล่าสุดและอ่านรีวิวบริษัทจากผู้ทำงานจริง