คำแนะนำด้านอาชีพ | 23 August 2023

เริ่มงานใหม่ปรับตัวยังไง? 6 ทริคง่าย ๆ ช่วยพนักงานใหม่เอาตัวรอด

ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กจบใหม่หรือคนที่มีประสบการณ์ทำงานมาแล้วหลายปี เมื่อต้องเริ่มงานใหม่หลายคนก็มักจะประสบปัญหาเดียวกันคือ “ไม่รู้จะปรับตัวเข้ากับองค์กรใหม่ยังไง” ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกกังวลเมื่อเข้าไปอยู่ในสังคมที่ไม่คุ้นเคยเป็นครั้งแรก แต่ในขณะเดียวกันการเอาชนะความกังวลก็ไม่ใช่เรื่องยาก ในวันนี้ WorkVenture จึงอยากเชิญชวนเหล่าพนักงานใหม่ไฟแรงที่พร้อมจะเติบโตและก้าวหน้ามาเรียนรู้  6 ทริคง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณเริ่มงานใหม่ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

 


 

1. สังเกต เรียนรู้ และทำตาม

ดังสุภาษิตที่ว่า “เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม” สิ่งสำคัญประการแรกที่ต้องเรียนรู้เมื่อเข้าไปอยู่ในองค์กรใหม่ คือ วัฒนธรรมและกฎระเบียบขององค์กรนั้น โดยคุณสามารถเรียนรู้ได้จากการตั้งใจสังเกตเพื่อนร่วมงานที่อยู่มาก่อนว่า พวกเขามีวิธีการใช้ชีวิตในองค์กรอย่างไร และจำเป็นต้องศึกษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เพื่อที่จะได้เข้าใจว่าองค์กรมีความยืดหยุ่นให้กับคุณมากน้อยแค่ไหนและกฏข้อใดที่ห้ามละเมิดเป็นอันขาด ซึ่งสองสิ่งนี้จะเป็นปัจจัยที่กำหนดแนวทางการใช้ชีวิตในที่ทำงานใหม่ของคุณในอนาคตได้อย่างเหมาะสมและเป็นมืออาชีพ

 


 

2. สร้างความสัมพันธ์ที่ดี

การสร้างมิตรย่อมดีกว่าการสร้างศัตรู เพราะการมีความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมงานเมื่อเข้าไปอยู่ในองค์กรใหม่นอกจากจะช่วยให้การเริ่มต้นเป็นไปอย่างราบรื่น ก็ยังส่งผลดีต่อตัวคุณในการทำงานระยะยาวอีกด้วยทั้งในแง่ของการทำงานและช่วยกันแก้ปัญหา โดยวิธีการเข้าหาเพื่อนร่วมงานใหม่ ๆ นั้นไม่ยากอย่างที่คิด ขอแค่คุณเป็นผู้ที่มีความสุภาพ ให้เกียรติ มีน้ำใจ ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ และไม่ลืมที่จะพกความสดใสไปทักทายพวกเขา เพียงเท่านี้การผูกมิตรและปรับตัวให้เข้ากับสังคมการทำงานใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอีกต่อไป

 

3. สื่อสารให้มีประสิทธิภาพ

บทความของ Forbes Coaches Council ได้ระบุสาเหตุหลักของการสื่อสารที่ผิดพลาดภายในองค์กร โดยหนึ่งในนั้นคือ การใช้ภาษา เพราะแม้ว่าจะทำงานอยู่ในองค์กรเดียวกันแต่ไม่ได้หมายความว่าพนักงานทุกคนจะเข้าใจตรงกันเสมอไป และยิ่งเป็นเรื่องใหญ่โดยเฉพาะกับพนักงานใหม่ที่ต้องปรับตัวกับวิธีการสื่อสาร แต่ทุกปัญหามีทางออก เพียงยึดหลักสามข้อนี้รับรองว่าคุณจะสื่อสารออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอนแม้เป็นพนักงานใหม่ก็ตาม

  • เลือกใช้คำให้ชัดเจน เพราะบางคำหรือบางวลีอาจมีได้หลายความหมาย คุณจึงต้องรอบคอบอยู่เสมอ ไม่ว่าจะตรวจสอบจากพจนานุกรมที่ได้มาตรฐานหรือการปรับรูปประโยคให้ตรงไปตรงมา เพื่อให้แน่ใจว่าจะสื่อสารออกมาให้ผู้ฟังเข้าใจได้อย่างถูกต้อง

  • เรียงลำดับความสำคัญเนื้อหา แม้ว่าคุณกำลังเร่งรีบเพื่อที่จะส่งต่อข้อความที่ได้รับมา แต่การที่หยุดและใช้เวลาสักครู่ในการทำความเข้าใจ จัดลำดับ และเรียบเรียงเนื้อหาเหล่านั้นออกมาให้เป็นคำพูดของคุณเองจะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่า ไม่เพียงแค่เรื่องการสื่อสารกับผู้อื่นเท่านั้น แต่รวมถึงการจดจำรายละเอียดของเนื้อหานั้น ๆ ในระยะยาวอีกด้วย

  • อย่าลืมทวนคำพูด เพราะต่อให้เลือกใช้คำที่ชัดเจนและลำดับความสำคัญของเนื้อหาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ระหว่างการสนทนากับผู้อื่น การกล่าวซ้ำหรือย้ำเตือนส่วนที่มีความสำคัญจะช่วยป้องกันการตกหล่นของเนื้อหาได้ อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งตัวคุณและคู่สนทนาได้ทบทวนว่าเข้าใจตรงกันแล้วหรือไม่

 


 

4. มีความรับผิดชอบสูง

การก้าวเข้าไปสู่องค์กรใหม่อาจมีเรื่องให้ต้องใส่ใจไม่น้อยทั้งขอบเขตการทำงาน กฎระเบียบขององค์กร หรือกระทั่งชื่อและตำแหน่งของเพื่อนร่วมงาน สิ่งที่จะช่วยให้คุณผู้เป็นพนักงานใหม่สามารถให้ความสำคัญกับทุกเรื่องที่ถือไว้อยู่เต็มสองแขนได้เป็นอย่างดีคงไม่พ้น การมีความรับผิดชอบอยู่เสมอ เพราะสิ่งนี้จะทำให้คุณเป็นผู้ที่ไม่ละทิ้งสิ่งที่ได้รับมอบหมาย ไม่ละเมิดกฏระเบียบเพียงเพราะมันทำให้รู้สึกยุ่งยาก และไม่ย่อท้อต่อการผูกมิตรกับเพื่อนร่วมงานที่มีความแตกต่าง การมีความรับผิดชอบสูง จึงจำเป็นและมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการปรับตัวในองค์กรใหม่

 


 

5. ทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วอยู่เสมอ

ต่อให้เคยทำงานมาแล้วกี่ปี มีประสบการณ์มามากแค่ไหน แต่เมื่อก้าวเข้ามาอยู่ในสังคมการทำงานใหม่ก็ย่อมมีเรื่องให้ต้องเรียนรู้ ดังนั้นการเปิดใจให้กว้างเข้าไว้เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์หรือปัญหาที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน จะทำให้คุณเรียนรู้จากประสบการณ์จริงได้ไว ปรับตัวเข้ากับองค์กรใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ไม่พอยังสามารถวางแผนจัดการงานที่ได้รับมอบหมายและพัฒนาตัวเองไปพร้อมกันได้ เรียกว่าขอเพียงเป็นน้ำครึ่งแก้วที่พร้อมจะเรียนรู้ คุณก็จะได้รับประโยชน์ถึงสี่อย่างติดตัวไปตลอดชีวิตการทำงานเลยทีเดียว

 

6. วางแผนพัฒนาตัวเอง 

เป้าหมายไม่อาจสำเร็จได้ หากขาดการวางแผนที่ดี ยิ่งเป็นพนักงานใหม่ การตั้งเป้าหมาย วางแผน และพัฒนาไปทีละขั้นจึงยิ่งสำคัญ เพราะเบื้องหน้ายังมีความท้าทายที่รอให้คุณไปพิชิตรวมถึงมีโอกาสในการเติบโตให้ได้ไขว่คว้าอยู่อีกมาก เพื่อให้การวางแผนพัฒนาตัวเองในฐานะพนักงานใหม่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน คุณสามารถยึดสองข้อนี้เป็นแนวทางในการช่วยกำหนดอนาคต ซึ่งสามารถทำตามได้ไม่ยากแม้กำลังอยู่ในช่วงปรับตัวก็ตาม

  • น้อมรับคำติเตือนจากผู้อื่น เพราะการทำผิดพลาดเป็นหนึ่งในขั้นตอนของการเติบโต เมื่อใดก็ตามที่คุณยอมรับและให้โอกาสตัวเองได้เรียนรู้รวมถึงปรับปรุงตัวจากคำแนะนำทั้งเชิงบวกและเชิงลบที่ได้รับจากหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงาน นั่นหมายความว่าก้าวแรกในการพัฒนาตัวเองของคุณได้เริ่มขึ้นแล้ว

  • จดข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นลงในจุดที่สามารถมองเห็นได้ตลอด แม้ทุกคนล้วนเคยทำผิดพลาด แต่การทำผิดซ้ำซ้อนในเรื่องเดิมก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี เพราะคุณจะไม่อาจพัฒนาตัวเองตามแผนได้ดังหวัง การจดข้อผิดพลาดรวมถึงวิธีแก้ไขเอาไว้ เช่น ในสมุดโน้ตคู่ใจ บนกระดาษโน้ตที่แปะอยู่บนโต๊ะทำงาน หรือที่ใดก็ตามที่มองเห็นได้ง่าย จะทำให้คุณรอบคอบมากขึ้น และหลีกเลี่ยงการทำงานผิดพลาดในเรื่องเดิมได้เป็นอย่างดี

 

การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมขององค์กรใหม่แน่นอนว่าต้องมีเรื่องให้รู้สึกกังวล เรียนรู้ และแก้ไขอยู่ตลอดเวลาจนในบางครั้งคุณอาจจะรู้สึกท้อแท้ แต่ WorkVenture ขอยืนยันว่าฟ้าหลังฝนนั้นสวยงามเสมอ เพียงแค่คุณนำทริคที่เรานำเสนอไปปรับใช้ คุณก็จะสามารถรับมือกับการปรับตัวให้เข้ากับองค์กรใหม่และทำงานได้อย่างมีความสุข