ไลฟ์สไตล์ | 11 July 2016

15 วิธีง่ายๆ เปลี่ยนคุณให้เป็นคนที่ดีขึ้น

คนส่วนใหญ่ก็คาดหวังอยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้น เป็นคนที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่ไหนก็ตาม แต่ปัญหาก็คือ จะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองยังไงดีล่ะ?

 

1. คิดก่อนพูด

คำพูดนั้น พูดออกไปแล้วเอาคืนมาไม่ได้นะคะ ลองคิดถึงตอนโดนแฟนบอกรักครั้งแรกสิ รู้สึกดีมากใช่ไหมล่ะ? อย่างไรก็ตาม คำพูดก็สามารถนำมาซึ่งความเจ็บปวด เคยเล่นมุกที่มันไม่ถูกที่ถูกเวลา หรือเคยล้อเพื่อนจนเพื่อนร้องไห้ไหมคะ? คุณอาจจะรู้สึกแย่ทีหลังก็ได้ ดังนั้น คิดสักนิด ว่าสิ่งที่คุณจะพูดออกไป มันจะไปกระทบความรู้สึกของใครเข้าหรือเปล่า

 

2. ยอมรับการเปลี่ยนแปลง

การเปลี่ยนแปลงจะช่วยให้เราเติบโต แทนที่จะต่อต้านมัน คุรควรจะเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ถึงแม้ว่าตอนแรกมันจะทำให้คุณกลัวบ้างก็ตาม คุณอาจจะกลัวที่จะลองกินไอติมร้านที่พึ่งเปิดใหม่ แต่ใครจะรู้ล่ะ มันอาจจะกลายเป็นร้านโปรดของคุณก็ได้  นอกจากจะยอมรับการเปลี่ยนแปลง คุณควรจะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปในทางที่ดีด้วยนะ อาจจะเริ่มง่ายๆ ด้วยการทำโครงการรีไซเคิลขวดน้ำที่ออฟฟิศก็ได้ เพราะมันจะทำให้สังคมที่คุณอยู่ดีขึ้นยังไงล่ะ

 

3. ยินดีกับสิ่งที่เป็นอยู่

งานวิจัยจาก University of Massachusetts Dartmouth บอกว่า คนที่เขียนบันทึกเกี่ยวกับสิ่งที่เขายินดีในแต่ละวัน จะมองโลกในแง่ดีและรู้สึกดีกับชีวิตของพวกเขามากกว่า  ยิ่งไปกว่านั้น คนพวกนี้จะมีความอิจฉาต่อคนที่รวยกว่าน้อยลง มีความยินดีที่จะช่วยเหลือคนอื่นมากขึ้น และสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาทางด้านสุขภาพอย่างโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจได้ด้วย

 

4. ทำในสิ่งที่ถูกต้อง

ในฐานะที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว คุณน่าจะแยกแยะได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด เช่น ถ้าคุณทำน้ำหก มันก็ไม่จำเป็นจะต้องบอกกันว่าคุณต้องเช็ดน้ำที่หกนะ คุณรู้อยู่แล้วว่าคุณต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำ และมันก็ไม่แฟร์ที่จะทิ้งไว้ให้คนอื่นเก็บกวาดแทน

 

5. ใช้จุดแข็งให้เป็นประโยชน์

ทักษะและความสามารถพิเศษที่คุณมีนั่นคือของขวัญล่ะ อย่าปล่อยมันทิ้งไปเปล่าๆ ถ้าคุณเล่นกีต้าร์เป็น ก็แชร์ความรู้นั้นกัคนอื่นๆ ด้วย มันจะนำความยินดีไปให้คนอื่นๆ ที่อยู่ในชีวิตของคุณด้วยค่ะ

 

6. ยอมรับจุดอ่อนของตัวเอง

และในขณะเดียวกัน คุณก็ต้องระวังจุดอ่อนของตัวเองค่ะ มันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราโตขึ้นนะ ลองเขียนลิสท์จุดอ่อนของคุณออกมาแล้วก็ตั้งเป้าหมายว่าจะแก้ไขหรือทำให้มันดีขึ้นได้อย่างไรในอนาคต

 

7. ดูแลตัวเอง

ออกกำลังกาย กินอาหารดีๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ คุณมักจะได้ยินคำแนะนำพวกนี้เป็นพันๆ ครั้งแล้ว แต่การดูแลตัวเองก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเป็นคนที่ดีขึ้นจริงๆ นะคะ  คุณจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไรถ้าคุณหมดแรง? ไม่ใช่แค่คุณจะมีความสุขมากขึ้นและทำงานได้ดีขึ้นเท่านั้นนะ เพื่อนร่วมงานและคนที่คุณรักก็จะดีใจด้วย

 

 

8. เป็นฮีโร่

คุณไม่จำเป็นจะต้องหาผ้าคลุมมาใส่แล้วออกไปกอบกู้โลกหรอกนะ แต่แค่ช่วยคุณป้าข้างบ้านถือถุงของใช้ที่พึ่งซื้อ เปิดประตูรอคนอื่นๆ จ่ายค่ารถเมล์ให้คนข้างหน้าที่ไม่มีเศษเหรียญ หรือฟังเพื่อนบ่นเวลาเลิกกับแฟน ก็เพียงพอแล้วล่ะ

 

9. ใส่ใจคนรอบข้าง

เวลาที่มีคนมาใส่ใจถามว่า วันนี้เป็นไงบ้าง มันก็รู้สึกดีใช่ไหมล่ะคะ ถ้าจะให้ดีล่ะก็ ลองทำแบบนั้นกับคนอื่นๆ ดูบ้างค่ะ มันอาจจะทำให้โลกของใครบางคนเปลี่ยนไปได้เลยนะคะ

 

10. หยุดทำตัวฟุ่มเฟือย

คุณสามารถลดการใช้น้ำได้ด้วยการอาบน้ำให้เร็วขึ้น หรือลดขยะด้วยการรีไซเคิล และก็อย่าลืมถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อประหยัดไฟด้วยนะคะ ไม่ว่ามันจะดูเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม มันก็สำคัญต่อสิ่งแวดล้อมทั้งนั้นแหละค่ะ

 

11. เป็นคนช่างสงสัย

ความช่างสงสัยจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ ทำให้สมองของคุณตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ลดความวิตกกังวลลง ทำให้คุณมีความสุข และช่วยให้คุณเรียนรู้เรื่องต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ถึงจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าสนใจก็ตาม

 

12. ให้อภัยตนเองและผู้อื่น

มนุษย์ทุกคนสามารถทำผิดพลาดกันได้ คุณก็สามารถทำผิดพลาดได้ และบางครั้งความผิดพลาดเหล่านั้นก็เจ็บปวดอยู่ไม่เบา อย่างไรก็ตาม แทนที่จะเสียพลังงานไปกับการยึดถือเอาความผิดพลาดนั้นไว้ ให้อภัยคนที่ทำผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นคนอื่นหรือตัวคุณเอง และโฟกัสไปยังอนาคตค่ะ การแก้แค้นคือการยึดติดกับอดีต และการแก้แค้นที่ดีที่สุดก็คือการประสบความสำเร็จและมีความสุขค่ะ

 

13. อย่าใจร้อน

เมื่อเราใจร้อน เราก็จะขี้หงุดหงิด และอาจจะทำอะไรที่เราเสียใจในภายหลัง คุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าคุณเหวี่ยงใส่เพื่อนเพราะว่าคุณกำลังรีบทำงาน?  เมื่อฝึกความอดทน ไม่เพียงแต่คุณจะสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น คุณจะรู้สึกดีขึ้นกับตัวเองในทุกๆ วันด้วย

 

14. เป็นตัวของตัวเอง

เมื่อคุณเป็นตัวของตัวเองแบบจริงๆ คุณก็จะสามารถโฟกัสกับเรื่องต่างๆ ได้มากขึ้น มีความมั่นใจ มีความเป็นเอกลักษณ์ และสามารถจะบอกได้ว่าคุณค่าของตัวเองอยู่ที่ไหน

 

15. หยุดชี้นิ้ว

เมื่อคุณชี้นิ้วไปที่คนอื่น อีก 3 นิ้วที่เหลือก็ชี้กลับมาหาตัวเองนะคะ เราทุกคนต่างก็ต้องพบเจออุปสรรคในการใช้ชีวิตด้วยกันทั้งนั้น แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไปโทษคนอื่นเลยส่วนหนึ่งของชีวิตก็คือการเติบโตและเป็นคนที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน คุณอยู่ที่ก้าวไหนแล้วคะ?

 

close
ลงทะเบียนกับ WorkVenture เพื่อค้นหางานใหม่ล่าสุดและอ่านรีวิวบริษัทจากผู้ทำงานจริง