ไลฟ์สไตล์ | 31 August 2015

รู้แล้วเริ่มเลย! 14 วิธีปรับฉบับชาวออฟฟิศเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน

เราหลายๆ คนก็อยากมีสุขภาพที่ดี ร่างกายฟิตแอนด์เฟิร์มใช่มั้ยคะ อยากตื่นเช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์ เล่นโยคะ กินอาหารเช้าแบบคลีนๆ อะไรแบบนี้ แต่บางครั้งความจริงกับความฝันมันก็สวนทางกันซะเหลือเกิน ตื่นเช้ามาก็ต้องรีบๆ ล่กๆ แต่งตัวไปทำงาน ข้าวเช้าก็นั่นแหละ ข้าวเหนียวหมูปิ้งข้างทาง แว๊นไปทำงานก็สูดมลพิษจากท้องถนนเข้าไป สุขภาพมันจะไม่เสียได้ยังไงกันล่ะแบบนี้

จริงๆ แล้ว การมีสุขภาพที่ดีนี่ เริ่มต้นง่ายๆ ได้ที่ตัวเองนะ เราไม่จำเป็นต้องตั้งธงว่า ฉันจะกินคลีนทุกมื้อ! ฉันจะออกกำลังกายทุกวัน! ฉันจะดื่มน้ำผักวันละสองแก้ว! การตั้งเป้าหมายที่ตึงเกินไปไม่ใช่เรื่องที่ดีนักหรอกค่ะ เพราะเวลาตบะแตกแล้วร่างพังขึ้นมาทีเนี่ย เอาคืนยากกกกกก! ดังนั้น เราอาจจะเริ่มต้นจากเรื่องเล็กๆ ทำให้เป็นนิสัย ก่อนที่จะพัฒนาไปทำเรื่องใหญ่ๆ ต่อไปก็ได้ และวันนี้เราก็จะมาบอกถึง นิสัยง่ายๆ 14 อย่าง ที่จะทำให้คุณสุขภาพดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

ขยับตัวอยู่เสมอ

ขี่จักรยานไปทำงาน กระโดดตบ 30 ทีในตอนเช้า กระโดดเชือกวันละ 5 นาที ตั้ง Playlist เพลงมันๆซัก 4-5 เพลงแล้วก็เต้นให้หลุดโลก ออกกำลังกายยกขาขึ้นลงใต้โต๊ะทำงาน ตั้งปลุกทุกชั่วโมงให้ตัวเองลุกไปเข้ากินน้ำหรือเดินไปทักทายเพื่อนร่วมงาน อะไรก็ได้แต่ขอให้คุณได้ขยับตัวบ้าง นั่งนานๆ เส้นจะยึด เดี๋ยวเป็น Office Syndrome นะคะ

อาบน้ำเย็น

เราเชื่อว่าหลายๆ คนคงติดนิสัยอาบน้ำอุ่น แต่รู้ไหมคะว่า น้ำที่อุ่นเกินไปก็ทำร้ายสุขภาพผิวและผมของเราได้เลยนะ แต่แน่นอนว่าถ้าจะให้อาบน้ำเย็นเจี๊ยบอย่างกับใส่น้ำแข็งก็คงจะเกินไปใช่ไหมคะ ดังนั้นพยามหาจุดกึ่งกลาง หรือไม่ก็ลองเปิดแต่น้ำเย็นอย่างเดียวในช่วง 2 นาทีสุดท้าย เพราะความเย็นจากน้ำจะช่วยกระตุ้นร่างกายของคุณ กระชับรูขุมขน และยังทำให้คุณตื่นจากความงัวเงียในตอนเช้าอีกด้วย

ยืดเหยียด

ในระหว่างวัน ให้ความสนใจกับร่างกายของคุณและลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายเรื่อยๆ ในเวลาที่คุณรู้สึกเมื่อย เหนื่อย หรือต้องยกของอะไรหนักๆ ลองทำโยคะท่า “ไหว้พระอาทิตย์” ดูในตอนเช้าสิคะ มันจะทำให้เลือดของคุณสูบฉีดอย่างดีเลยแหละ แล้วในตอนเย็นก็พยายามก้มตัวลงแตะปลายเท้าตัวเองดูบ้าง

 

มองสิ่งรอบๆ ตัวบ้าง

ครั้งต่อไปที่อยู่ข้างนอก ลองเก็บโทรศัพท์และปล่อยสายตาของคุณให้ล่องลอยไป สังเกตรายละเอียดต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่ปกติคุณมักจะมองข้ามไป ก่อนจะกลับเข้าไปข้างใน ลองหยุดและเงยหน้ามองฟ้า มองเมฆ หรือมองพระจันทร์ดูบ้าง

ทำตัวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ

ดื่มน้ำให้มากๆ ในทุกวัน ลองเริ่มจากการดื่มน้ำครั้งละ 1 แก้วก่อนอาหารดูก็ได้ค่ะ เพราะบางครั้งเราก็เข้าใจตัวเองผิดว่าเราหิวข้าว ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเราคอแห้งหิวน้ำต่างหาก นอกจากนั่น การดื่มน้ำหลังมื้ออาหารจะทำให้เราอิ่มอยู่ได้นานขึ้นด้วยนะ

อย่าลืมผลไม้เปรี้ยวๆ

ดื่มน้ำมะนาวอุ่นๆ ในตอนเช้ามีประโยชน์แบบที่คุณนึกไม่ถึงเลยทีเดียวแหละ เพราะในน้ำมะนาวเต็มไปด้วยสาร antioxidant ที่จะช่วยลดอาการอักเสบติดเชื้อ ช่วยระบบย่อยอาหาร เพิ่มพลังงาน และประโยชน์อื่นๆ อีกมากมากเลยทีเดียว

 

อยู่กับธรรมชาติ

ไม่ว่าจะเป็นการลุกจากโต๊ะทำงานออกมาอาบแดด ตื่นเร็วขึ้นอีกซักนิดเพื่อจะได้มีเวลาเดินเล่นหน้าบ้าน หรือตื่นเช้าเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้นริมชายหาด อะไรก็ได้ค่ะ มีการทำวิจัยถึงประโยชน์จากการอยู่กับธรรมชาติซึ่งมีมากมาย ทั้งลดอาการซึมเศร้า ช่วยเรื่องสมาธิและความคิดสร้างสรรค์ และยังจะทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

หันเข้าหาบันได

ไม่ว่าจะอยู่ที่ทำงานหรือที่บ้าน (สำหรับคนที่อยู่หอพักหรือคอนโดนะ) มันจะมีโอกาสให้เราได้ใช้บันไดแทนลิฟท์เสมอแหละค่ะ ดังนั้น สร้างความท้าทายให้ตัวเองด้วยการเดินขึ้นบันไดบ้าง

ปรับบุคลิกภาพให้สมบูรณ์แบบ

นั่งหลังตรง และยืดตัวขึ้นเวลายืนอีกซักนิด การที่บุคลิกภาพของเราแย่ มันไม่ได้กระทบแค่ภาพลักษณ์แต่เป็นสุขภาพด้วยนะ เพราะการนั่งหลังค่อม ไหล่ห่อ ก็เป็นบ่อเกิดของอาการปวดกล้ามเนื้อ เลือดไม่ไหวเวียน ปวดหัว และอาจจะทำให้อารมณ์ไม่ดีได้อีกด้วย ดังนั้น นั่งหลังตรงและจำไว้ว่าภาษากายแบบผู้ชนะคือกุญแจสำคัญสู่การมีสุขภาพที่ดีทั้งภายนอกและภายใน

 

 

ใส่ใจกับสิ่งที่กิน

หลายๆ คนอาจจะติดนิสัยนั่งกินของที่โต๊ะทำงาน หน้าทีวี หรือกินอะไรก็ตามในขณะที่ตัวเราก็ทำอย่างอื่นอยู่ ซึ่งนิสัยเหล่านี้ มันน่ากลัวตรงที่คุณจะกินๆๆ เข้าไป โดยที่ไม่ได้ระมัดระวังตัวว่า สิ่งที่คุณกินมันคืออะไรบ้าง มันดีต่อสุขภาพไหม ดังนั้น ลองกินให้ชาลงนะคะ ใส่ใจกับรสชาด ความอร่อยของสิ่งที่กิน และความสุขเวลาที่กินมัน นั่งกินดีๆ ที่โต๊ะถ้าคุณสามารถ เพราะโต๊ะกินข้าวถูกสร้างมาเพื่อกินข้าว และคุณจะได้ลิ้มรสสิ่งที่คุณกินอย่างเต็มที่

ทำสมาธิ

เวลาที่ดีที่สุดในการทำสมาธิคือตอนเช้า มันเป็นสิ่งแรกที่คุณควรจะทำก่อนดื่มกาแฟ (แต่หลังจากคุณล้างหน้าแล้วนะ!) และก่อนอาหารเย็น ลองใช้เวลาเพียงล็กน้อยในการนั่งนิ่งๆ แล้วหลับตา หาจุดที่คุณนั่งแล้วมีที่พิงหลังแบบสบายตัวที่สุด เอาผ้าห่มอุ่นๆ คลุมตัก คิดถึงแต่เรื่องดีๆ ตั้วสมาธิไว้กับลมหายใจเข้าออก หรือปล่อยใจให้ล่องลอยไปก็ได้ ประโยชน์ของการทำสมาธินั้นมีหลายอย่างมาก และถึงคุณจะทำไม่สำเร็จ อย่างน้อยๆ คุณก็ได้พักสมองนะ

 

 

พักจากเทคโนโลยีบ้าง

ปิดเครื่องมือสื่อสาร และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด 15-30 นาทีก่อนเข้านอน เพราะแม้แต่การกระทำที่ดูไม่มีอะไรอย่างเช็คโทรศัพท์ก่อนนอนก็สามารถรบกวนการนอนของคุณได้ และจอสว่างๆ ของมือถือก็ทำให้เส้นประสาทตาของคุณตื่นตัวซึ่งจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณนอนหลับไม่สนิทได้อีกด้วย

พักสายตา

จักษุแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านดวงตามักจะแนะนำกฎ 20-20 ให้คุณเสมอ โดยกฎนี้จะรักษาสุขภาพดวงตาของคุณ ทำให้ดวงตาไม่เหนื่อยล้า และลดอาการปวดหัวที่มีสาเหตุมาจากดวงตาอีกด้วย ดังนั้น ทุกๆ 20 นาทีที่คุณใช้คอมพิวเตอร์ พักสายตาจากหน้าจอประมาณ 20 วินาทีด้วยการมองอย่างอื่น หรือมองสิ่งของที่ห่างออกไป 20 ฟุต ก็ได้

นอนหลับให้เพียงพอ

การนอนไม่พอนั้นเป็นสาเหตุหลักๆ เลยของการมีสุขภาพที่ย่ำแย่ แน่นอนว่าทุกๆ คนย่อมแต่การเวลานอนที่ต่างกัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ใหญ่มักจะต้องการการนอนหลับประมาณ 7-8 ชั่วโมงในแต่ละคืน ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าคุณต้องนอนมากแค่ไหนถึงจะเพียงพอ ลองใส่ใจกับระดับพลังงานและอารมณ์ของคุณในแต่ละวัน จากนั้นก็ค่อยปรับเปลี่ยนไป

 

เห็นมั้ยล่ะคะ เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ไม่ได้ต้องใช้พลังอะไรมากมายเลย แค่ลองปรับเปลี่ยนนิสัยบางอย่างของตัวเองดูเท่านั้น และคุณก็ไม่จำเป็นต้องทำมันให้ครบทุกอย่างในวันเดียวนะคะ ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ เปลี่ยนไป แล้วคุณจะมีสุขภาพที่ดีขึ้นแน่นอนค่ะ