ไลฟ์สไตล์ | 14 May 2015

ลองทำตาม 10 ข้อนี้ รับรองคุณจะกลายเป็นคนพูดแล้วมีเสน่ห์

การสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นหนึ่งในความสามารถที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตมาก แต่มันก็เป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยให้ความสนใจกับมันซักเท่าไหร่ ไม่ว่าคุณจะแค่อยากมีความสามารถในการสนทนากับเพื่อนๆได้ดีขึ้น หรือคุณอยากจะอธิบายไอเดียเด็ดๆของคุณให้เพื่อนร่วมงานฟัง บทความนี้จะบอกคุณถึงเทคนิคที่จำเป็นในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ มันแทบจะไม่ต่างอะไรกับการขี่จักรยานหรือว่ายน้ำเลย เพราะถ้าเป็นแล้วคุณจะไม่ลืมมันหรอก!

 

10. ระวังภาษากายของคุณไว้ให้ดี

คุณบอกเพื่อนว่าคุณพร้อมที่จะคุยกับเขา แต่คุณกำลังกอดอกอยู่ คุณบอกว่าคุณกำลังฟังที่เขาพูด แต่ตาคุณก็ยังมองโทรศัพท์...พอจะเห็นภาพหรือยัง?

ภาษากายของเรามักจะบอกอะไรได้มากกว่าที่เราคิด ไม่ว่าจะเป็นวิธีที่คุณสบตา หรือท่าทางของคุณในตอนที่สัมภาษณ์ คุณกำลังสื่อสารอยู่ตลอดเวลา แม้คุณจะไม่ได้พูดอะไรเลยก็ตาม มันอาจจะฟังดูเป็นวิธีแปลกๆในการพัฒนาการสื่อสารของคุณนะ แต่เราอยากให้คุณ นึกถึง “หัวแม่เท้า” หรือลองหาท่าโพสแบบทรงพลัง ที่จะเพิ่มความมั่นใจให้คุณแบบเต็มเปี่ยมก่อนจะต้องไปเจรจางานใหญ่ หรือ คุณจะลองเรียนรู้ที่จะอ่านภาษากายของคนอื่น เพื่อที่คุณจะหาวิธีตอบกลับไปได้อย่างเหมาะสมก็ได้นะ

 

9. อย่าติดเอ่อ

การที่คุณพูด “คือ” “เอ่อ” หรือ “แบบว่า” ในระหว่างประโยคมันไม่ทำให้การพูดของคุณดูดีขึ้นเลย  เอาคำพวกนั้นออกไปเถอะ แล้วประโยคของคุณจะฟังดูน่าเชื่อถือและมั่นใจ วิธีที่จะลดการพูดคำพวกนี้ก็คือ ตั้งสติและลองนับดูว่า เราพูดมันบ่อยแค่ไหน หรือ คุณอาจจะลองเอามือออกจากกระเป๋า ทำตัวตามสบาย และหยุดทำสมาธิก่อนที่จะพูดก็ดีนะ ความเงียบระหว่างประโยคมันไม่แย่อย่างที่คุณคิดหรอก

 

8. มีสคริปอยู่ในหัวสำหรับการพูดคุยแบบกึ่งทางการ หรือการพูดเนื่องในโอกาสต่างๆ

การพูดแบบกึ่งทางการเป็นศาสตร์ที่มีคนแค่ไม่กี่คนสามารถทำได้  ถ้าคุณไม่ใช่คนพวกนั้น คุณควรจะวางแผนไว้ล่วงหน้า เพราะการพูดติดๆขัดๆเวลาที่ต้องคุยกับคนที่เราไม่คุ้นเคยนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนใหญ่แล้ว การพูดถึง ครอบครัว หน้าที่การงาน กิจกรรมยามว่าง หรือความฝันของคุณ จะเป็นหัวข้อที่ดีในการสนทนา เพราะข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณ และคู่สนทนาของคุณได้รู้จักกันมากขึ้น และมันก็ง่ายขึ้นที่จะหาเรื่องคุยอื่นๆที่คุณทั้งคู่สนใจต่อไป

 

7. รู้จักเล่าเรื่อง

เรื่องราวต่างๆเป็นอะไรที่ทรงพลังมาก มันจะทำให้เราตื่นตัว ทำให้การพรีเซนต์ของคุณดูน่าสนใจมากขึ้น ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น และอาจจะทำให้คุณผ่านการสัมภาษณ์ไปได้อย่างดีก็ได้ ความลับในการเป็นนักเล่าเรื่องที่ดีนั้น คือให้คุณใช้คำว่า “แต่” มาประกอบในการเล่าเรื่อง ทุกๆคนมีเรื่องราวดีๆอย่างน้อยหนึ่งเรื่องให้เล่าอยู่แล้วแหละ แต่มันจะดีมากเลยถ้าคุณเตรียมเรื่องไว้ในหัวอย่างน้อยสามเรื่อง สำหรับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน คุณสามารถใช้เรื่องพวกนี้เป็นตัวดึงดูดความสนใจและให้คนฟังคล้อยตามไปในสิ่งที่คุณกำลังพูดอยู่ได้เลยนะ

 

6. คอยถามคำถาม และทวนในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด  

ยอมรับเถอะว่าเราทุกคนเคยนั่งใจลอยเวลาที่คนอื่นพูดอยู่ หรือได้ยินอะไรผิดๆ การถามคำถามและทวนในสิ่งที่อีกฝ่ายพึ่งพูดถึงไป จะแสดงให้เห็นว่าคุณได้ใส่ใจกับสิ่งที่เขาพูด และช่วยให้คุณได้เข้าใจในบางอย่างที่คุณอาจจะเข้าใจผิด

นอกจากนั้นมันยังช่วยในการพูดแบบกึ่งทางการ และ ช่วยเติมเต็มความเงียบในบทสนทนาได้อีกด้วยนะ แทนที่จะเปิดการสนทนาด้วยลมฟ้าอากาศ ลองถามคู่สนทนาของคุณดูว่า หน้าร้อนนี้มีแพลนไปไหนรึเปล่า หรือ ช่วงนี้ได้ดูหนังอะไรบ้างไหม แล้วก็ต่อยอดจากคำตอบเหล่านั้นดีกว่า คุณควรจะเป็นคนที่ให้ความสนใจคนอื่น มากกว่าทำตัวเป็นคนที่น่าสนใจซะเองนะ

 

5. เอาอะไรที่รบกวนความสนใจออกไป

มันค่อนข้างจะหยาบคายนะที่คุณเล่นมือถือตลอดเวลาที่คุณกำลังอยู่กับเพื่อนๆและควรจะคุยกับพวกเขา เราเข้าใจว่าคุณไม่สามารถจะกำจัดสิ่งรบกวนหรือเทคโนโลยีพวกนี้ออกไปได้หมดหรอก แต่การหยุดใช้มันซักแป๊บนึงจะทำให้ความสามารถในการสื่อสารกับคนอื่นของคุณดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยนะ ในประเทศไทย การสนทนาแบบตัวต่อตัวแบบธรรมดาๆ แทบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว เพราะคนไทยติดมือถือ และไม่สามารถวางมันลงได้ คนแบบนี้จะไม่สามารถประสบความสำเร็จในประเทศแถบตะวันตกได้อย่างแน่นอนนะจ๊ะ ระวังเอาไว้ด้วย

 

4. ปรับตัวไปตามผู้ฟัง

การสื่อสารที่ดีที่สุดคือปรับวิธีการพูดไปตามผู้ฟัง คุณอาจจะมีสไตล์ในการสื่อสารมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่ต้องพูดกับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า แฟน เด็ก หรือผู้สูงอายุ พยายามนึกถึงผู้ฟังของคุณอยู่เสมอเวลาที่คุณต้องการจะสื่อสารกับเขา แน่นอนว่า อย่าพูดกับแฟนของคุณเหมือนกับที่พูดกับหัวหน้าของคุณเชียวนะ ไม่อย่างงั้นล่ะก็...อย่าหาว่าเราไม่เตือน!

 

3. พูดสั้นๆ แต่ก็เจาะจงด้วย

เวลาสื่อสาร ทั้งการเขียนและการพูด คุณควรจะมี ที่มา เหตุผล ใจความ และประโยคปิดท้ายที่ดี เพื่อที่ข้อความของคุณจะได้สั้นกระชับและไม่มีอะไรตกหล่น นอกจากนั้น คุณควรจะสื่อสารให้ ชัดเจน ได้ใจความ เห็นภาพ ถูกต้อง เนื้อความสอดคล้องกัน ครบถ้วนสมบูรณ์ และสุภาพนอบน้อมอีกด้วย

 

2. นึกถึงความรู้สึกคนอื่น

การสื่อสารเป็นอะไรที่ไปสองทาง ถ้าคุณฝึกมองจากมุมมองของฝั่งตรงข้าม คุณจะลดความกังวลและความยกลำบากในการสื่อสารกับผู้อื่นไปได้เลย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเข้าใจเวลาที่แฟนคุณบอกว่าเธอเหนื่อยเกินกว่าที่จะคุยกัน ว่าจริงๆแล้วมันหมายความว่าเธออยากคุยกับคุณ คุณก็มาถูกทางแล้วแหละ การนึกถึงความรู้สึกคนอื่นจะทำให้คุณเข้าใจข้อความที่ฝั่งตรงข้ามต้องการสื่อได้ดีขึ้น ถึงแม้ว่าบางอย่างเค้าจะไม่ได้พูดมันออกมาก็ตาม และพอคุณเข้าใจ คุณก็จะสามารถโต้ตอบได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เรารู้ว่ามันไม่ง่ายหรอกที่จะต้องมาคอยนึกถึงคนอื่นตลอดเวลา แต่การสังเกตพฤติกรรมของคนและคอยเอาสิ่งที่เห็นมาวิเคราะห์ก็เป็นวิธีที่ดีในการฝึกเรื่องนี้นะ

 

1. ฟังให้มากๆ

หลังจากทำตามคำแนะนำด้านบนดูแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คุณจะทำได้ก็คือ ฟังให้เยอะๆ ให้ความสนใจกับสิ่งที่คนอื่นกำลังพูดและไม่ขัดจังหวะเขา ถึงคุณจะมีสไตล์ในการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน แต่อย่างน้อยคุณก็จะเข้าใจในเรื่องเดียวกันนะ และหวังว่าอีกฝ่ายจะฟังคุณอย่างตั้งใจเหมือนกับที่คุณฟังเขา

ถ้าคุณไม่สนใจฟังที่คนอื่นพูด พวกเขาก็จะมองว่าคุณเป็นคนหยิ่งและไม่ฉลาด ซึ่งคุณอาจจะเป็นคนแบบนั้นจริงๆก็ได้ แต่ว่าเราจะบอกความลับให้ ผู้คนมักจะชอบคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีและฉลาดมากกว่าอยู่แล้ว ดังนั้น ฟังที่พวกเขาพูดเถอะ ตั้งใจฟัง แล้วคนพวกนั้นก็จะรู้สึกดีกับคุณเองแหละ