ทัวร์ออฟฟิศ ธนาคารกรุงไทย ที่ท้าให้คุณมากล้าเปลี่ยนเพื่อก้าวนำ ในพื้นที่ทำงานสุดล้ำใจกลางเมือง
จะเป็นอย่างไรเมื่อ WorkVenture ได้มีโอกาสเข้าไปทัวร์ออฟฟิศของธนาคารกรุงไทย ที่นอกจากจะได้ไปดูโซนต่าง ๆ ของออฟฟิศแล้ว ยังได้ไปสัมผัสบรรยากาศการทำงานของทีมงานมืออาชีพที่กรุงไทยอีกด้วย เรียกได้ว่าการไปเยือนครั้งนี้ เปิดประสบการณ์ใหม่สำหรับออฟฟิศที่สามารถเป็นทุกอย่างให้กับพนักงาน และฟังก์ชั่นทุกอย่างในแต่ละ Facility ล้วนผ่านการออกแบบที่ให้พนักงานได้แชร์ความคิดเห็นและใช้งานได้จริงกันทุกห้อง
เห็นระบบของ Facility ที่กรุงไทยแบบนี้แล้วยิ่งรู้สึกว่าออฟฟิศนี้น่าทำงานมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนกรุงไทยถึง “กล้าเปลี่ยนเพื่อก้าวนำ” ไปกับการทำงานที่กรุงไทย ก็เพราะสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือที่นี่เข้าใจและส่งเสริมให้พนักงานทำงานได้อย่างเต็มที่เสมอ
อยากเห็นกันแล้วรึยังว่าออฟฟิศของธนาคารกรุงไทยแบบใหม่แบบสับจะดีไซน์มุมทำงานออกมาได้เท่ขนาดไหน มาลบภาพจำเดิม ๆ เรื่องบรรยากาศการทำงานของธนาคารทั่วไป แล้วชมออฟฟิศของธนาคารกรุงไทยที่กล้าเปลี่ยนเพื่อก้าวนำในทุกเรื่องไปด้วยกันที่นี่เลย
ออฟฟิศสำนักงานใหญ่ 1 ตึกใหญ่สุดโมเดิร์นบนเส้นสุขุมวิท
ขอเริ่มที่ภายนอกด้านหน้าตึกก่อนเลย พอเราเดินทางไปถึงออฟฟิศธนาคารกรุงไทยที่ถนนสุขุมวิท เราจะได้เห็น 2 อาคารสำนักงานตั้งอยู่ 2 ฟากของถนน โดยมีสะพานเชื่อมข้ามฟาก และสถาปัตยกรรมของตึกที่ดูมินิมอลทันสมัยด้วยสีเทาฟ้า ทำให้เราสามารถเห็นอาคารสำนักงานใหญ่ 1 และ 2 เด่นชัดแต่ไกลจากทั้งสองฝั่งถนน และที่สำคัญคือเรื่องโลเคชั่นที่ตั้งที่อยู่ใจกลางเมือง ใกล้มาก ๆ สำหรับการเดินทางไปที่ออฟฟิศด้วย BTS เพลินจิต หรือถ้าใครมีรถยนต์ขับไปทำงาน ก็สามารถเข้าไปจอดที่ตึกได้จากหลายเส้นทาง เป็นตำแหน่งที่เดินทางไปทำงานได้สะดวกมากๆ เลย และตรงทางเข้าหน้าตึกออฟฟิศสำนักงานใหญ่ 1 ก็สวยงามตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น มีการดีไซน์ที่ผสมกลมกลืนธรรมชาติเข้าไปแบบเก๋ ๆ มองแล้วให้ความสดชื่นสบายตากับทั้งพนักงานและลูกค้าที่มาเยือน
สะพานลอยทางเชื่อมระหว่างตึกที่โดดเด่นอยู่ในใจกลางเมือง
นอกจากสะพานทางเชื่อมจะต่อตรงเข้าไปยังตึกออฟฟิศสำนักงานใหญ่ที่ 1 และ พื้นที่ตรงนี้ยังมีสาขาของธนาคารกรุงไทยคอยอำนวยความสะดวกผู้ที่สัญจรไปมาในย่านนี้ด้วยนะ และถ้าพนักงานต้องการเดินไปใช้สวัสดิการหรือทำธุระที่ออฟฟิศสำนักงานใหญ่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามของถนนก็สามารถใช้สะพายลอยส่วนนี้ข้ามไปมาได้อย่างสะดวกสบายเลย
ออฟฟิศสำนักงานใหญ่ 2 ที่ตั้งอยู่ถัดจากทางรถไฟไม่ห่างจากสะพานเขียวสวนลุม-สวนเบญจกิตติ
เราข้ามฝั่งมาที่ออฟฟิศของธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ 2 ฝั่งนี้กันบ้างดีกว่า ที่ตั้งของตึกนี้จัดว่าเป็นทำเลทองที่เป็นทางลัดไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ไม่ยาก หัวมุมถนนของออฟฟิศได้เชื่อมถนนเส้นสุขุมวิทและพระราม 4 ไว้ ทำให้เดินทางไปได้หลายที่แบบไม่ยาก จากโลเคชั่นนี้ ถ้าพนักงานอยากจะแวะไปเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือออกกำลังกายแถวสวนลุมหรือสวนเบญจกิตติ เก็บโมเมนต์สวย ๆ ที่สะพานเขียว ก็สามารถแวะไป enjoy ได้ เหมาะกับสายสุขภาพที่แท้ทรู และบริเวณด้านหน้าออฟฟิศสำนักงาน 2 ของกรุงไทยยังมีร้านค้ามากมายให้พนักงานได้เดินช็อปปิ้งเลือกซื้อมื้ออาหารอร่อยๆ กันอีกด้วย
ธนาคารกรุงไทยให้การสนับสนุนเรื่องรักษ์โลกอย่างจริงจัง
โดยมีการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาเป็นรถยนต์ส่วนกลางของธนาคาร และได้มีที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า สนับสนุนในเรื่องรักษ์โลก ESG ซึ่งเป็น MEGA TREND ที่สำคัญในปัจจุบัน เห็นไหมล่ะ ว่าที่นี่นอกจากจะแคร์พนักงานมากแล้ว ยังแคร์โลกมาก ๆ ด้วย
โถงกลางสุดล้ำสำหรับจัดอีเวนต์สนุก ๆ และ Awards Showroom ที่จัดแสดงรางวัล
เข้ามาในตึกกันบ้างพื้นที่ในห้องโถงกลางภายในออฟฟิศจะเป็นลานส่วนกลางสำหรับจัดงานอีเวนต์ภายในที่สามารถจุคนได้มากถึง 100 คน หากมีงานอีเวนต์สำหรับพนักงานในออฟฟิศ พื้นที่ตรงนี้ก็จะเป็นหนึ่งใน Landmark สำคัญของธนาคารที่พนักงานจะได้เข้าร่วมและทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ รวมถึงงานอีเวนต์ตั้งบูธต่าง ๆ สำหรับลูกค้าที่มาเยือนที่ตึก และในช่วงที่ไม่ได้มีงานอีเวนต์เราก็จะได้เห็นโซนการจัดแสดงรางวัล บริเวณโถงตรงนี้ก็จะเปรียบเสมือน Awards Showroom ที่โชว์รางวัลต่าง ๆ อันน่าภูมิใจของธนาคาร ทั้งในด้านการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์/บริการทางการเงิน รวมไปถึงการบริหารบุคคล ตั้งแต่ระดับประเทศไปจนถึงระดับสากล เช่น รางวัล Techsauce Global Summit 2022 สาขา The Disruptor รางวัล Asian Experience Awards 2022 สาขา Employee Experience of the Year - Banking จากนิตยสาร The Asian Business Review เป็นต้น ใครที่ได้เดินผ่านโถงกลางส่วนนี้ก็จะรู้สึกว้าว ได้เห็นถึงศักยภาพของธนาคาร และพนักงานก็รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่น่าชื่นชม มีอนาคตกว้างไกล และให้ความมั่นคงในระยะยาว
Krungthai Innovation Lab เปิดมิติโซนนั่งทำงานแบบ multifunction ที่ทำแทบทุกอย่างได้ในที่เดียว
เจาะเข้ามาถึงโซนที่คนรุ่นใหม่มาร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีใหม่ๆ ของธนาคาร เป็นพื้นที่เปิดกว้างให้พนักงานระดมสมอง นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทักษะต่างๆ ในสภาพแวดล้อมที่ทันสมัย เหมาะกับการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆโซนนี้มีชื่อว่า KRUNGTHAI INNOVATION LAB
ซึ่งออกแบบให้สะอาด สว่างและสบายตามาก ๆ เพราะใช้สีคลีน ๆ อย่างสีขาว ฟ้า เป็นหลักในการออกแบบทั้งหมด และยังประกอบไปด้วยดีไซน์ที่เท่และทันสมัยมากทำให้พื้นที่นี้น่าเข้ามาใช้งานยิ่งขึ้น โซนนี้จะมีการแบ่งห้องออกเป็นส่วนที่สามารถนั่ง ทำงาน ได้ทั้งกลุ่มใหญ่และกลุ่มเล็ก และภายในยังมีห้องประชุมสำหรับทีมทำงานที่ต้องการระดมสมอง และถกกันเพื่อสรุปไอเดียการทำงานด้วย ส่วนกลางของตึกอย่าง KRUNGTHAI INNOVATION LAB เลยเป็นหนึ่งในจุดนั่งทำงานยอดฮิตของคนทำงานที่ธนาคารกรุงไทย เอาล่ะ มาเจาะแต่ละห้องที่ตั้งอยู่ในโซนนี้กันดีกว่า
เวที The Circle สุดอลังการของกรุงไทยที่ใช้ในหลากหลายกิจกรรม
หลาย ๆ บริษัทอาจจะมีพื้นที่ในการพรีเซนต์งาน หรือส่วนกลางที่นำไปจัดกิจกรรมตั้งเวทีและจัดเก้าอี้แบบ theatre ทั่วไป แต่กรุงไทยแบบใหม่แบบสับเขาจัดเวทีให้ และล้อมวงรอบเวทีที่นั่งเป็นทรง Circle เข้าไปแล้วนึกว่าเราอยู่ในรายการทีวีเลย ต้องบอกเลยว่าห้องนี้สวยมากจริง ๆ นอกจากความสวยงามแล้ว พื้นที่ตรงนี้มีความ Adaptable มาก ๆ ใช้ทำได้หลายกิจกรรมมากกว่าที่เราคิดเลย เพราะเวที The Circle สามารถใช้ในการสัมมนาย่อยได้ ใช้ในการพรีเซนต์งานของแต่ละทีมได้ ใช้ในการจัดแสดงต่าง ๆ หรือกิจกรรมของพนักงานได้ รวมไปถึงการใช้จัดงานอีเวนต์ย่อม ๆ จากสื่อภายนอกก็ทำได้ ส่วนนี้จะมีอุปกรณ์จัดกิจกรรมพร้อมให้เลย ไมค์ที่มากับระบบเสียงก็คุมเสียงได้ดังและฟังชัด ด้วยพื้นที่นั่งที่เยอะมากกว่าที่ตาเห็นจากในรูป โดยประมาณแล้วพื้นที่รอบเวทีจะสามารถจุคนได้ 40 – 50 คนเลย และบรรยากาศที่เวทีนี้จะทำให้คนทำงานได้รับแรงผลักดันให้กล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้นด้วย เพราะดีไซน์ที่ล้ำทันสมัยของห้องจะทำให้ให้พนักงานรู้สึกว่าอยากออกไอเดียความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ทั้งในฐานะคนที่นั่งฟังอยู่ในวงล้อม และในฐานะของคนที่ยืนอยู่กลางเวที The Circle จึงเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยเติมพลัง Creativity ให้พนักงานได้ด้วย
ห้องประชุมสุดไฮเทค ที่มาใน Futuristic Architecture Concept
เพื่อน ๆ WorkVenture ลองจินตนาการดูสิ ถ้าได้นั่งในประชุมในห้องนี้จะต้องดีมากแน่ ๆ เพราะเก้าอี้ทุกตัวในห้องประชุมนั่งสบายมาก และความล้ำของดีไซน์การตกแต่งยิ่งไม่ต้องพูดถึง เข้าไปในห้องประชุมนี้แล้วเราจะรู้สึกเหมือนได้วาร์ปไปยังอนาคตเลย เพราะทุกห้องจะใช้การออกแบบที่เป็น Futuristic Architecture Concept แค่ดีไซน์ก็กินขาดแล้วในเรื่องของความล้ำสมัย ยังมีเครื่องมือทำงานและอุปกรณ์ห้องประชุมที่ไฮเทคสุด ๆ รองรับความต้องการทุกแบบสำหรับการประชุม มีทั้งหน้าจอ LED ขนาดใหญ่ให้ทุกคนในที่นั่งได้เห็นรายละเอียดกันชัด ๆ มีปลั๊กไฟสำรองให้สำหรับทุกที่นั่งทำงานต่อได้สะดวก มีกล้องสำหรับการเชื่อมต่อประชุมงานกับคนที่ทำงานออนไลน์มาจากทางบ้าน แสงสว่างในห้องเพียงพอต่อการทำงานและการเปิดจอพรีเซนต์งานทุกแบบ โดยพื้นที่ในห้องก็กว้างขวาง แม้จะนั่งกันเต็มห้องครบทุกที่นั่งก็ยังมีพื้นที่ให้ขยับตัวได้สบาย ไม่มีอึดอัด ที่สำคัญคือห้องประชุมหน้าตาไฮเทคแบบนี้มีจำนวนเพียงพอสำหรับรองรับการใช้บริการของพนักงาน เพื่อให้ไอเดียของพนักงานไปให้สุด แบบไม่สะดุด
มุมทำงานส่วนตัวแบบ Co-working Space ที่ออกแบบได้ด้วยตัวเอง
อย่างที่บอกกันไปแล้วว่าโซน KRUNGTHAI INNOVATION LAB มีขนาดใหญ่ มุมนั่งทำงานในโซนนี้ยังมีให้อีกเยอะมาก โดยการออกแบบตรงส่วนนี้จะเป็นแนว Co-working Space ที่มีความโปร่งสบายตา โต๊ะทุกตัวจะมีรางปลั๊กไฟให้พนักงานได้เชื่อมชาร์จ Laptop ของตัวเองได้ ข้อดีของการนั่งทำงานในมุมนี้คือเรื่องความเงียบ พอเดินเข้าไปแล้วโซนนั่งทำงานตรงนี้เงียบกว่าที่คิดมาก เหมือนเราเดินเข้าไปในห้องสมุดเลย ถึงจะมีพนักงานนั่งกันอยู่หลายคน แต่ทุกคนต่างใช้เสียงกันอย่างเบาที่สุด เพื่อไม่ให้ไปรบกวนเพื่อนในที่ทำงานที่ต้องการโฟกัสกับการทำงานอย่างสงบ และใน Co-working Space ได้มีการแบ่งห้องออกเป็นมุมห้องเล็ก ๆ ที่มีโต๊ะใหญ่และหน้าจอทีวีสำหรับเปิดสไลด์ทำงานได้ ห้องเล็กแต่ละห้องจะสามารถนั่งทำงานกันได้ 5-6 คน และมีโต๊ะยาวที่คนทำงานสามารถเลือกนั่งใช้งานได้จริงตามที่แต่ละคนสะดวก โดยรวมแล้วมุมทำงานใน KRUNGTHAI INNOVATION LAB เป็นที่เปลี่ยนมู้ดการทำงาน ที่เปิดให้พนักงานได้ออกแบบที่นั่งทำงานของตัวเองได้แบบสนุก ๆ เป็นแนวคิดการทำงานที่ลบภาพจำแบบเดิม ๆ และเปิดกว้างเรื่อง Flexible Workplace อย่างเต็มที่
Boardroom ห้องประชุมใหญ่สำหรับงานที่ต้องการสรุปอย่างเป็นทางการ
หลังจากออกมาจากโซน KRUNGTHAI INNOVATION LAB ที่เราได้เห็นห้องประชุมหลากหลายดีไซน์สำหรับคนทำงานกันแล้ว เรามาดูห้องประชุมใหญ่สุดอลังการของธนาคารกรุงไทยกันบ้าง ห้องประชุม Boardroom นี้จะมีการประชุมระดับผู้บริหาร หัวหน้าทีม และพนักงานจะได้เข้าร่วม เพื่อสรุปประเด็นของโปรเจกต์และงานอย่างเป็นทางการ ภายในห้องประชุมจะมีหน้าจอสำหรับโชว์พรีเซนต์ 1 หน้าจอใหญ่ และ 2 หน้าจอเล็ก และเนื่องจากดีไซน์ของโต๊ะประชุมถูกออกแบบให้เป็นทรงสามเหลี่ยม คนเข้าร่วมประชุมทุกคนจึงต้องหันหน้าคนละฝั่ง หน้าจอพรีเซนต์จึงมีการจัดวางให้ทุกคนในห้องสามารถมองเห็นพรีเซนต์ได้จากทุกมุม ส่วนการออกแบบและวัสดุที่ใช้สำหรับการตกแต่งห้องประชุม Boardroom จะใช้ไม้เป็นหลัก เพื่อให้บรรยากาศภายในห้องมีความจริงจังและเป็นทางการมากยิ่งขึ้น
สถานพยาบาลของธนาคารกรุงไทย เหมือนย่อส่วนโรงพยาบาลมาตั้งไว้ไว้ในธนาคาร
เราจะเรียก Facility นี้ว่าห้องพยาบาลไม่ได้เลย เพราะพื้นที่ของสถานพยาบาลให้บรรยากาศและความรู้สึกแบบเดียวกันกับตึกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลเลย มีตั้งแต่ห้องตรวจรักษาโรคต่าง ๆ ที่เป็นสวัสดิการให้พนักงานทุกคน มีห้อง x-ray ห้องทำฟัน ห้องพักผู้ป่วย ห้องทำแผลฆ่าเชื้อ มีจุดวัดค่าสายตาและวัดความดันให้ รวมถึงมีอุปกรณ์ดูแลคนไข้ทุกคนอย่างจริงจัง ทีมงานคุณหมอและพยาบาลที่สถานพยาบาลนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของธนาคารกรุงไทย ที่พร้อมให้บริการดูแลพนักงานทุกคนเป็นอย่างดี รวมไปถึงการดูแลฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้พนักงานด้วย ทั้งวัคซีนบาดทะยักทุกเข็ม วัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันโรคอื่น ๆ ด้วย ทุกการดูแลภายใต้สถานพยาบาลของกรุงไทยเป็นบริการที่ฟรีสำหรับพนักงานทุกคน เรียกว่าการทำงานที่ธนาคารกรุงไทยมีการใส่ใจดูแลพนักงานทุกคน มีพนักงานหลายคนทำงานตั้งแต่จบใหม่จนแต่งงานมีครอบครัว ก็ยังได้รับการดูแลเรื่องสุขภาพเป็นอย่างดีมาตลอด กรุงไทยเลยอยู่ในทุกช่วงชีวิตที่สร้างความประทับใจให้คนทำงานทุกวัย
ห้องอาหาร Food Court ที่เป็นได้มากกว่าที่พักกลางวันของพนักงาน
ลบภาพจำเดิม ๆ เรื่องโรงอาหารของบริษัทมีกับข้าวให้เลือกน้อยไปเลยค่ะ ถ้าได้มาเจอห้องอาหารของธนาคารกรุงไทยแล้ว เราอาจจจะต้องใช้เวลาเดินเลือกมื้อกลางวันกันสักพักเลยล่ะ ด้วยร้านอาหารหลายสัญชาติและหลากหลายเมนูให้เลือก และแน่นอนว่าต้องมีชานม ชาไทย และกาแฟให้ซื้อไปนั่งเติมพลังขณะทำงานต่อได้ด้วย
โดยร้านอาหารที่นี่ราคาประหยัด แต่มีบริเวณที่นั่งทานข้าวกว้างขวางเทียบเท่ากับ Food Court ในห้างเลย แถมทุกโต๊ะรับประทานอาหารจะมีป้ายคำคมสร้างแรงบันดาลใจ จากคนดังระดับโลกให้พนักงานได้อ่านเติมไฟระหว่าง enjoy กับมื้ออาหารอีกด้วย ส่วนเรื่องความสะอาดที่โรงอาหารนี้ก็เป็นเลิศ เพราะมีพนักงานคอยดูแลเรื่องความสะอาดให้ตลอด และบางครั้งห้องอาหารแห่งนี้จะถูกดัดแปลงจัดโต๊ะใหม่เพื่อจัดงานต่าง ๆ หรือจัดปาร์ตี้ได้ด้วย เพราะฝั่งหนึ่งของที่นี่เป็นเวที ถ้าเทียบกับฮอลล์จัดงานแล้วห้องอาหารนี้น่าจะรองรับจำนวนคนได้แน่น ๆ เต็มที่ถึง 300 คนไปเลย มีพี่พนักงานของกรุงไทยเคยใช้พื้นที่ในห้องอาหารนี้จัดงานแต่งงานมาหลายรุ่นแล้ว แน่นอนว่ากรุงไทยพร้อมดูแลพนักงานในทุกช่วงชีวิต ตั้งแต่เรื่องสวัสดิการเงินยืมเพื่อการแต่งงาน เพื่อไปเรียนต่อ หรือเรื่องทุนการศึกษาสำหรับลูกของพนักงานก็ทำได้ที่ธนาคารแห่งนี้
ห้องนมแม่ส่วนตัว เพื่อพนักงานที่เป็นคุณแม่และเตรียมเป็นคุณแม่ทุกคน
ธนาคารกรุงไทยใส่ใจพนักงานทุกคนเหมือนคนในครอบครัว เป็นการดูแลแบบครอบคลุม ตั้งแต่เรื่องสุขภาพที่มีการดูแลอย่างทั่วถึง มาจนถึงเรื่องไลฟ์สไตล์ของคุณแม่ลูกอ่อน หลังจากที่พนักงานที่เป็นคุณแม่ได้คลอดลูก และใช้วันลาที่บริษัทให้ไว้ไปเรียบร้อยแล้ว พอพักฟื้นดีคุณแม่หลายคนก็อยากกลับมาทำงานตามปกติ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังต้องปั๊มนมเพื่อให้ลูกได้ดื่มนมจากคุณแม่อยู่ดี ถ้าเป็นที่บริษัทอื่นคุณแม่หลายคนอาจต้องหาห้องน้ำเพื่อปั๊มนมหรือจัดการตัวเอง แต่ที่ธนาคารกรุงไทย เขามีห้องนมแม่ส่วนตัวแยกให้คุณแม่ได้จัดการปั๊มนมเก็บไว้ให้ลูกได้ เป็นห้องปิดส่วนตัวที่คุณแม่จะได้ปั๊มนมและนั่งพักได้จนเสร็จเรียบร้อยดี และที่สำคัญการเข้างานของกรุงไทยมีตัวเลือกให้เข้างานได้ 3 เวลาให้เลือก ตั้งแต่ 7.45 น. , 8.00 น. และ 8.30 น. เป็นการเปิดให้พนักงานได้จัดการเวลาทำงานของตัวเอง คุณแม่หรือพนักงานที่สะดวกเข้างานเร็วแล้วออกงานเร็วก็สามารถจัดสรรเวลาได้ง่ายขึ้น สมเป็นองค์กรชั้นนำที่ส่งเสริมการทำงานแบบ Flexible workplace ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้อย่างลงตัว
รองรับมิติเรื่อง Inclusive Workplace
ด้วยห้องพระและห้องละหมาดสำหรับพนักงาน การทำงานในสังคมเปิดที่ธนาคารกรุงไทย เปิดรับความเชื่อ และศาสนาที่แตกต่างที่พนักงานนับถือ ที่นี่จึงมีห้องปฏิบัติธรรมเป็นห้องพระให้กับชาวพุทธ และมีห้องปฏิบัติศาสนกิจให้กับชาวมุสลิมด้วยห้องละหมาด จึงเป็นการดูแลที่ครอบคลุมทั้งไลฟ์สไตล์และความเชื่อของพนักงานจริง ๆ แค่เห็นทั้งสองห้องนี้ก็รู้สึกได้รับพลังดี ๆ ขึ้นมาเลย
ขึ้นมาถึงมุม Brainstorming ในโซนออฟฟิศที่สร้างบรรยากาศสุด Active กันต่อ
ห้อง Brainstorming ในชั้นนี้ เป็นโซนออฟฟิศที่อยู่ใกล้กับโซนที่นั่งทำงาน ซึ่งเป็นโซนที่หลายทีมทำงานสามารถเข้าไปใช้เพื่อช่วยกันคิดและถกเถียงเรื่องงานจนได้ข้อสรุปแบบไม่ได้ใช้เวลานานมากนัก เพื่อที่จะได้สรุปงานอย่างรวดเร็วและทำงานต่อในขั้นตอนต่อไป ดีไซน์ในห้อง Brainstorming จะเป็นกึ่งมินิมอลและโมเดิร์น ด้วยโทนการออกแบบในห้องที่ใช้สีครีม ขาว และไม้ในการออกแบบให้ความสบายตา เป็นห้องกระจกในพื้นที่โปร่ง ๆ การระดมสมองในห้องนี้จะเหมาะกับการยืน หรือนั่งเก้าอี้สูง พร้อมสร้างบรรยากาศการทำงานที่ Active ให้กับพนักงานที่มาใช้งาน หากทีมทำงานไหนจะเข้าไปใช้งานในบริเวณนี้ก็สามารถเข้าไปได้มากสุด 6-8 คน เป็นหนึ่งในห้องระดมความคิดที่น่าใช้งานมากๆ เลยทีเดียว
โซนออฟฟิศโทนสีอบอุ่นสบายตา
เป็นอีกหนึ่งโซนนั่งทำงานที่ธนาคารเพิ่งทำการ Renovate ใหม่ ให้มีดีไซน์มินิมอลและมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทธ์พนักงานในองค์กร ซึ่งพนักงานของกรุงไทยจะมีพื้นที่ทำงานของตัวเองในโซนออฟฟิศตรงนี้เป็นหลัก โดยมุมทำงานของทุกคนจะมีที่กั้นปิดส่วนตัวให้คนทำงานได้ใช้สมาธิกับงานของตัวเองในแต่ละวัน แต่อย่างที่เราได้เล่ากันไปแล้วในทัวร์ตอนต้นว่า ที่กรุงไทยเขาเปิดให้พนักงานมี Flexible Workplace ถ้าใครอยากหามุมนั่งทำงานเสริมให้กับตัวเองที่ Innovation Lab ก็ได้เช่นกัน แต่มุมในโซนออฟฟิศนี้ก็จะยังเป็นของพนักงานอยู่ บริเวณออฟฟิศที่ธนาคารจะมีการแบ่งห้องประชุมคุยงานเล็ก ๆ ให้พนักงานด้วยนะ ในห้องประชุมก็จะมีจอทีวี รางปลั๊ก และไวท์บอร์ด ให้ใช้งานได้ครบทุกฟังก์ชั่นเช่นกัน แต่ตัวห้องอาจจะจุคนได้น้อยกว่าประมาณ 5 คนต่อหนึ่งห้องประชุม เรื่องดีไซน์ในโซนนี้จัดว่าดีต่อการทำงานมากเหมือนกัน เพราะว่าสีหลัก ๆ ที่ใช้จะเป็น สีขาว สีครีม และสีน้ำตาลอ่อนของไม้ ทำให้มองไปทางไหนก็เป็นสีอ่อนโทนอบอุ่นสบายตา โซนออฟฟิศจะติดกับหน้าต่างที่ได้รับ daylight ในตอนกลางวันอย่างพอดี และสามารถปรับลดม่านหน้าต่างได้ตามความชอบของแต่ละคน ซึ่งปัจจุบัน ธนาคารอยู่ระหว่างการทยอยปรับรูปโฉมออฟฟิศใหม่ทั้งหมด ให้เป็นรูปแบบใหม่ที่ทันสมัย เอาใจพนักงานยุคใหม่เลยทีเดียว
ตู้กดขนม-เครื่องดื่มที่ให้บริการพนักงานในโซนออฟฟิศ
นอกจากโซนที่นั่งทำงานที่เราไปทัวร์มานับไม่ถ้วนแล้ว ที่ธนาคารกรุงไทยยังมีโซนพักเบรกหลายจุดและส่วนกลางให้นั่งพักผ่อนได้มากมายทั่วออฟฟิศเลย บริเวณตู้กดขนม เครื่องดื่ม และน้ำเปล่า ก็เป็นอีกมุมพักเบรกสำหรับพนักงานที่ไม่อยากเดินไปถึงห้องอาหาร หรือออกไปซื้อขนมด้านนอก โดยตัวตู้กดมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัยสแกนจ่ายเงินแทนการใช้เงินสดได้เลย ตรงจุดนี้ก็จะมีที่ให้พนักงานได้นั่งพักเป็นเบรกสั้น ๆ และมีถังขยะแยกประเภทไว้เพื่อให้พนักงานได้ทิ้งขยะรีไซเคิล หรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วย สนับสนุนเรื่อง ESG สุดๆ
Phone Booth มุมกริ๊งกร๊างให้พนักงานได้ใช้โทรศัพท์มือถือคุยงานกับลูกค้า
ต้องบอกว่า WorkVenture ถูกใจมุมนี้มาก เพราะธนาคารกรุงไทยได้จัดสรรพื้นที่คุยโทรศัพท์ให้พนักงานมาใช้เพื่อคุยงานกับลูกค้าหรือเรื่องส่วนตัวได้อย่างสบายใจเป็นมุมเงียบและมีประตูปิดทุกห้อง โซน Phone Booth ตรงนี้จะห่างจากโซนทำงานที่มีเพื่อนร่วมงานนั่งกันเต็มไปหมด เพราะการจะใช้เสียงพูดคุยโทรศัพท์ในระหว่างที่คนอื่นทำงานกันอยู่ ถึงแม้บรรยากาศและสังคมการทำงานที่กรุงไทยจะเป็นกันเองมาก ๆ แล้วก็ตาม แต่คนคุยสายเองก็จะไม่สะดวก และเกรงใจเพื่อนร่วมงานอยู่ดี การหาที่นั่งคุยสายในที่ทำงานจึงเป็นหนึ่งในเรื่องที่ดูเหมือนเล็ก แต่ความจริงแล้วหายากมาก ๆ จนบางคนอาจเลือกที่จะไม่รับสายเลยก็เป็นได้ การที่กรุงไทยคิดและออกแบบห้องนี้เพื่อพนักงานนับเป็นความใส่ใจที่ดีมาก ๆ ต้องกดไลค์ให้เลย
ไฮไลต์สำหรับพนักงานสาย Healthy ที่อยากดูแลสุขภาพด้วยกิจกรรมฟิตเนสและห้องกายภาพ
การนั่งทำงานในออฟฟิศนาน ๆ ทั้งวันมักจะมีผลตามมาอย่างที่เรารู้กัน นั่นก็คือ ออฟฟิศซินโดรม ธนาคารกรุงไทยจึงได้เปิดห้องกายภาพอย่างจริงจัง มีผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด มีเครื่องอัลตราซาวด์ และอุปกรณ์ทำกายภาพบำบัดครบวงจร สำหรับทำการ รักษาอาการเจ็บปวดทางกายภาพให้กับพนักงานทุกคน จะได้คลายความปวดเมื่อยทุกส่วนกับบริการฟรีที่ห้องนี้เลย หรือใครที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพก็สามารถมาปรึกษาคุณหมอได้ที่สถานพยาบาลแห่งนี้ถ้าใครอยากฟิตให้ร่างกายแข็งแรงยิ่งขึ้น ก็สามารถเข้าฟิตเนสของธนาคารกรุงไทย หลังเลิกงานสามารถมาออกกำลังกายเบา ๆ หรือออกแบบจริงจังปั้นซิกซ์แพ็กก็ทำได้ที่นี่
จากการทัวร์ออฟฟิศในครั้งนี้เราได้เห็นว่าแต่ละโซนมีการแบ่งสัดส่วนห้องที่พอดีมาก ๆ ตอบโจทย์เรื่องบริเวณทำงานคุณภาพที่สนับสนุนให้พนักงานทุกคนได้นั่งทำงานกันอย่างเต็มศักยภาพ ยิ่งเรื่อง Interior design ภายในตึกนั้นยิ่งทันสมัยไปอีก ด้วยธีมสีฟ้าขาวในการตกแต่งของแต่ละ Facility ทุกโซนที่ให้ความสดใส สะอาดตา และแอบมีดีไซน์แนว Futuristic ผสมด้วย นั่งทำงานที่นี่คือได้บรรยากาศเท่ ๆ ล้ำ ๆ และได้สนุกไปกับทุกวันทำงานเลย
หลังจากเห็นทัวร์ออฟฟิศในโซนต่าง ๆ ของธนาคารกรุงไทยแล้ว คาดว่าบรรยากาศนี้จะต้องถูกใจคนรุ่นใหม่ที่กล้าเติบโตแบบเต็มศักยภาพอย่างแน่นอน เพราะกรุงไทยแบบใหม่แบบสับเขามีแนวทางการทำงานที่ทันสมัย และที่ทำงานโมเดิร์นสุด ๆ WorkVenture จึงอยากแนะนำให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์ทำงานที่ทุกอย่างเป็นไปได้ที่นี่ โดยที่เพื่อน ๆ ยังสามารถใช้ชีวิตและมีไลฟ์สไตล์ของตัวเองบนความมั่นคงในชีวิตกันได้ยาว ๆ หากคุณชื่นชอบการทำงานเวย์นี้ ก็มาหาโอกาสให้ตัวเองได้เลย ที่นี่