คำแนะนำการหางาน | 2 November 2016

หางาน เทคนิคพิชิตงานที่เราควรรู้ ก่อนจะสายไป

หางาน และแล้วคำนี้ก็มาถึง.. เพราะตอนนี้คุณจะได้ศึกษาชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัยอย่างจริงจัง เป็นผู้ใหญ่ของจริง ใช้ชีวิตจริง เจ็บจริง (และก็ได้เงินเดือนจริง) ด้วยการเข้าสู่โลกแห่งการทำงาน ว่าแต่ตอนนี้คุณหางานที่ใช่ เจองานที่ตัวเองชอบกันหรือยัง WorkVenture เว็บไซต์หางาน มีเทคนิคการหางานที่ตรงใจมาฝาก

 

1.ถามตัวเองว่าชอบอะไร สนใจสิ่งไหน

เราบางคนอาจเรียนจบในสาขาที่ตัวเองชอบ ถนัดแล้ว เห็นภาพตัวเองแล้ว ก็ดีไป แต่สำหรับคนที่ยังลังเล ไม่รู้จะไปทางไหนดี ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร (แล้วจะหางานที่ตัวเองรักเจอไหมเนี่ย?) ลองสืบเสาะหาสิ่งที่ตัวเองชอบด้วยการใช้กระดาษหนึ่งแผ่น ขีดเส้นตรงกลาง ฝั่งซ้ายเขียนสิ่งที่ตัวเองชอบ จะเป็นชอบกิน ชอบทำ สภาพแวดล้อมที่อยากอยู่ เขียนลงไปให้หมดไม่จำเป็นต้องเรื่องหางานก็ได้ ส่วนอีกด้านให้เขียนสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ ซึ่งถ้าใครนึกไม่ออกว่าชอบหรือหลงใหลสิ่งใด ลองไล่เขียนสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบก่อน สิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบคือเบาะแสชั้นดีที่จะบอกได้ว่าตัวเองชอบอะไร น่าจะคลายปัญหาเรื่องหางานได้อีกสเต็ปหนึ่ง

 

2.ล่ารายชื่อบริษัทที่อยากร่วมงานด้วย

หลายคนคงมีองค์กรในฝันที่อยากเข้าไปร่วมงานด้วย จากการสังเกต #ชีวิตดีๆ ของเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เขาทำงานอยู่ในนั้น นั่นก็เป็นอีกแรงจูงใจหนึ่ง ลองลิสต์รายชื่อองค์กรเหล่านั้นให้ครบถ้วน ดูว่าสำนักงานเขาอยู่ที่ไหน เดินทางสะดวกหรือไม่ สวัสดิการเป็นอย่างไร ข้อมูลรอบตัวเหล่านี้สำคัญมากตั้งแต่สเต็ปการหางาน เพราะหากที่ไหนเดินทางลำบาก หรือผลตอบแทนไม่ถูกใจจะได้ไม่ต้องเสียเวลาดำเนินเรื่องกันทั้งสองฝ่าย

 

3.หาไอดอลในวงการ ไล่ย้อนดูประวัติการทำงานของเขา

เพื่อสร้างแรงบันดาลใจเพิ่มขึ้นสักนิดสำหรับใครที่กำลังหางาน ลองหาไอดอลหรือบุคคลต้นแบบเจ๋งๆ ในวงการนั้นที่เราอยากจะเป็นประมาณเขา แล้วไล่ดูประวัติการทำงานย้อนหลังของเขาว่า เขาเริ่มทำงานจากองค์กรไหน หางานอย่างไร แม้หนทางชีวิตของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน แต่ก็พอจะทำให้เราเห็นลู่ทางคร่าวๆ ในอนาคตของเราได้ ว่าเราควรเริ่มหางานจากตรงไหน

 

4.หางานอย่าลืมดูเทรนด์โลก

ในอนาคต บทบาทของหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ รถยนต์ไฟฟ้าขับได้เอง อภิมหาข้อมูล คนเลิกอ่านข้อมูลยาวๆ หรือระบบการเงินออนไลน์แบบไร้เงินสด ดูเหมือนเรื่องไกลตัวสำหรับบัณฑิตสักคนหนึ่งที่กำลังหางาน โลกกำลังจะเปลี่ยนไปแบบที่เราไม่ทันตั้งตัวและจะส่งผลถึงวิถีชีวิตผู้คนแน่นอน งานบางงานจะหายไป หากหางานที่สามารถสอดรับเทรนด์โลกได้ โอกาสในการเติบโตในหน้าที่การงานก็มีสูง ลองหัดเขียนโปรแกรม ดูและหยิบใช้ข้อมูลบน Excel ให้ถนัดๆ แม้ไม่เชี่ยวชาญหรือไม่เกี่ยวข้องกับสายงาน พอทำงานจริงก็จะได้คุยกับบุคคลที่เกี่ยวข้องรู้เรื่อง และคุณจะโดดเด่นในที่ทำงานแน่นอน

 

 

5.เว็บไซต์หางานช่วยได้มาก

WorkVenture เว็บไซต์หางาน เกิดมาเพื่อสิ่งนี้! เพราะเว็บไซต์แห่งนี้เหมาะกับน้องๆ นักศึกษาที่กำลังหางาน ทั้งหางานฟูลไทม์ และหางานพาร์ทไทม์ ซึ่งระยะหลังมานี้มีงานจากองค์กรใหญ่ๆ มาเพียบ ซึ่งสามารถติดตามอัพเดตได้จากหน้าเพจของแต่ละองค์กร เชื่อมโยงกับตำแหน่งที่เกี่ยวข้องจากองค์กรอื่นๆ ได้พร้อมกัน หางานกับแบบเพลินๆ แถมยังมีโซนคำปรึกษาด้านอาชีพ ที่ช่วยแนะแนว และหางานได้ตรงใจอีกทางหนึ่ง

 

6.Requirement ต้องการอะไร เตรียมของไว้ และมั่นใจว่าทำได้จริง

บางคนเรียนจบมาแบบเคว้งๆ ประสบการณ์การทำงานก็ยังไม่มี พอเปิดไปดูรายละเอียดงานที่ตัวเองหางานอยู่ ก็เจอทักษะที่เขาต้องการนับสิบๆ บรรทัด เราแนะนำว่าอย่าไปกลัวระดับนั้น ลองไล่เรียง รื้อฟื้นประสบการณ์ทั้งหมดที่เราเคยผ่านมาอย่างถี่ถ้วน เช่นประสบการณ์ฝึกงาน เข้าค่าย ทำกิจกรรมคณะ บางคนอาจลืมคิด ก็น่าจะเข้าข่ายข้อที่องค์กรต้องการอยู่ อย่าลืมว่า งานก็หาคน คนก็หางาน

 

7.Portfolio และ Resume หมั่นอัพเดตให้ทันสมัย

ประวัติส่วนตัว พอร์ตฯ ตลอดจนรายละเอียดที่กรอกไว้ในเว็บไซต์หางาน อย่าลืมไปอัพเดตให้ทันสมัยที่สุด

สิ่งนี้เปรียบเสมือนใบผ่านด่านให้ฝ่ายบุคคลเห็นและอยากนัดคุณมาคุย เขียนให้ดี จัดวางให้อ่านสะดุดตาและเข้าใจง่าย ถ้าหางานกับองค์กรใหญ่ ที่มีใบสมัครเยอะๆ อาจลดความหวือหวาทางด้านกราฟิกบนเรซูเม่หน่อยก็ได้ แต่ถ้าหางานกับองค์กรเชิงความคิดสร้างสรรค์ เอเจนซี่ องค์กรสื่อ ลองทำเรซูเม่ตัวเองให้โดดเด่นด้วยกิมมิคต่างๆ ก็น่าสนุกไม่น้อย ส่วน Resume เขียนให้ดูดี ให้โดดเด่นเข้าไว้ ลองไปดู เทคนิคการเขียน Resume ที่นี่ก็ได้

 

 

8.หางานในตำแหน่งที่เขายังไม่เปิดรับ ทำไงดี

ตอบสั้นๆ ว่า อาจปักโน้ตไว้ให้ตัวเองกลับเข้ามาดูบ่อยๆ หรือถ้าหางานกับเว็บไซต์ ลองตั้งระบบแจ้งเตือนเมื่อมีงานในตำแหน่งที่กำลังสนใจเปิดรับสมัครแล้ว

 

9.หย่อนใบสมัครไปหลายๆ ที่ และเคลียร์ตารางตัวเองให้พร้อมกับทุกการนัดสัมภาษณ์

การหางานที่ดีต่างกับการจีบหนุ่ม-จีบสาวตรงที่ การหางานนั้นคุยพร้อมกันหลายๆ ที่ไม่ใช่เรื่องผิดนั่นเอง (แต่อย่าโกหกแต่ละที่ แต่ก็อย่าพูดชัดๆ ว่า กำลังคุยอยู่กับอีกที่แบบตรงๆ เป็นศิลปะในการพูดคุย ลองทำการบ้านด้วยการอ่านบทความเกี่ยวกับ เทคนิคการสัมภาษณ์งาน น่าจะมีประโยชน์กับคุณเยอะ) อย่าคาดหวังด้วยการหางานที่เดียว สมัครไปที่เดียว ควรเผื่อใจและจัดเรียงองค์กรที่อยากร่วมงานด้วยตามลำดับ ถึงหางานแล้วได้รับ offer จากองค์กรที่ไม่ได้อยากทำมากที่สุด แต่องค์ประกอบอื่นมันเอื้อ ก็อาจปรึกษาเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เคยผ่านองค์กรนี้ แล้วชั่งใจดูว่าควรเข้าไปทำให้ได้ประสบการณ์ก่อนดีไหม เรื่องหางานวิถีแบบนี้เป็นเรื่องปัจเจกจริงๆ เพราะหลายคนก็บอกว่า “ที่ทำงานที่แรกสำคัญมาก” มันจะชี้วัดอนาคตการทำงานของคนคนนั้นได้เลย

 

ขอให้ทุกคนที่กำลังมองหางานอยู่ หาตัวเองให้เจอก่อน เตรียมข้อมูล เตรียมตัวให้ได้ แล้วไล่เรียงสมัครงานไปตามที่ต่างๆ ขอให้ได้เงินเดือนพอใช้และเหลือใช้ มีโอกาสเจริญเติบโตในสายงาน พบเจอผู้คนที่ช่วยเหลือกันในที่ทำงาน และอย่าลืมหมั่นเรียนรู้พัฒนาทักษะอื่นๆ เพิ่มเติม และขอขู่ไว้ว่า รุ่นน้องๆ ที่จะเรียนจบตามมานั้น จะเก่งกว่าคุณมากขึ้นๆ แน่ ฮ่าๆ ดังนั้นอย่าลืมฝึกทักษะต่างๆให้มากขึ้นในทุกวันด้วยล่ะ