คำแนะนำด้านอาชีพ | 23 November 2015

สัญญาณอันตรายว่าคุณกำลังจะสติแตกในที่ทำงาน

การสติหลุดนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากและมันอาจจะทำให้คุณสับสนอาการของมันกับเรื่องอื่นๆ อย่างการไม่สบาย หรือมีเจ้านายห่วยๆ คุณอาจจะคิดว่าคุณจะรู้ตัวก่อนที่สติจะเริ่มหลุดได้ใช่ไหม? ก็ไม่เสมอไปหรอกนะคะ และนี่ก็คือสัญญาณ 7 อย่างที่บอกว่าคุณกำลังเครียดใกล้สติแตกแบบสุดๆ และวิธีว่าจะแก้ไขมันยังไง

 

1.) คุณเยาะเย้ย ถากถางคนอื่นๆ มากเป็นพิเศษ

 

วันนี้คนกลายเป็นคนขี้ประชดประชันมากกว่าปกติหรือเปล่า? ทำตัวล้อเลียนงานปาร์ตี้สละโสดของเพื่อนร่วมงานที่เธอมักจะทำตัวดีๆ กับคุณเสมออยู่หรือเปล่า? ลองเช็คตัวเองดูดีๆ นะคะเพราะว่าถ้าคุณเจอกับเรื่องหนักๆ มากๆ เข้า คุณก็อาจจะแสดงออกมาแบบนี้ได้เช่นกัน การทำตัวซึมเศร้าแบบ Debbie Downer ก็คือวิธีระบายความเครียดของร่างกายคุณนั่นเอง

 

 

2.) คุณอยากจะวิ่งหนีไปไกลๆ

 

คุณมีความรู้สึกอยากจะทิ้งทุกอย่างแล้วจองตั๋วเที่ยวเดียวไปไหนไกลๆ บ้างมั้ยคะ? หรือบางทีก็ชอบอู้งานแล้วนั่งจินตนาการถึงกระท่อมเล็กๆ น่ารักๆ กลางป่า? ความคิดยั่วยวนเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณของความเหนื่อยล้าในจิตใจคุณก็ได้ และการหนีปัญหาก็คือกลไลธรรมชาติที่ร่างกายจะพยายามสร้างระยะห่างให้ตัวคุณเองกับงาน หรือหลีกเลี่ยงที่จะทำมันเพราะคุณใส่ความตั้งใจและตั้งความหวังไว้ผิดที่ผิดทางไปหน่อยว่าการทำแบบนี้มันจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้

 

 

3.) คุณทำงานธรรมดาๆ ง่ายๆ พัง

 

ช่วงนี้คุณป้ำๆ เป๋อๆ หรือเปล่า? ลืมวันครบรอบ หรือนั่งใจลอยตอนประชุม? การที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่สนใจรายละเอียดต่างๆ นานา นี่ก็เป็นสัญญาณอย่างหนึ่งของการใกล้สติแตกแล้วนะคะ เมื่อคุณมีปัญหากับการจดจำเรื่องต่างๆ หรือมีสมาธิกับงานประจำวัน มันก็อาจจะได้เวลาพักบ้างแล้วล่ะ

 

4.) คุณเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา

 

คุณรู้สึกอยากจนซุกอยู่บนเตียงตลอดทั้งวันหรือเปล่า? ความเฉื่อยชาอยู่ตลอดนี้แหละเป็นสัญญาณแบบคลาสสิกของการใกล้สติแตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณนอนเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มซักทีนะ แย่มากๆ เลยล่ะ อาการเหนื่อยล้าในจิตใจคือสัญญาณแบบลับๆ ว่าคุณกำลังทนทุกข์กับความผิดปกติในการทำงานอยู่นั่นเอง

 

 

5.) คุณหงุดหงิดไม่พอใจอยู่ตลอดเวลา

 

คุณหงุดหงิดไม่พอใจกับทุกๆ อย่างรอบตัวในที่ทำงานหรือเปล่า? เจ้านายก็งี่เง่า เพื่อนร่วมงานก็น่ารำคาญ ความคิดที่ว่าที่ทำงานของคุณมันห่วยน่ะ อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้นะ แค่ความคิดเหล่านี้ก็เป็นสัญญาณว่าคุณกำลังเครียดเกินไปเช่นเดียวกัน และการพยายามทำตัวเป็นพนักงานดีเด่นด้วยการทำงานหนักจนหมดแรงก็จะทำให้คุณเริ่มโทษวัฒนธรรมองค์กร (โดยไม่มีเหตุผล) สำหรับความพยายามของคุณที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง

 

6.) คุณไม่แน่ใจในตัวเอง

 

คุณทำงานอย่างนักเพื่อที่จะดึงตัวเองเข้ามาอยู่ในจุดที่คุณกำลังอยู่ แล้วทำไมคุณถึงกำลังสงสัยว่าจริงๆ แล้วคุณคู่ควรกับตรงนี้มั้ย? การลดค่าความสำเร็จของตัวเองนี้เป็นอาการคลาสสิกของการใกล้สติแตกและมันก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่ทำงานหนักมากๆ จิตใจของคุณกำลังหาวิธีที่จะจัดการกับความต้องการต่างๆ ในงานของคุณอยู่นั่นเอง

 

 

7.) คุณป่วยตลอดเวลา

 

ปวดหัวไม่ยอมหาย? ท้องร้องโครกครากตลอดเวลา? ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา? ถ้าหมอหาสาเหตุไม่เจอนะ ลองกลับมาดูตารางงานของตัวเองก่อนเลย เพราะบางครั้ง ความเครียดจากการทำงานก็สามารถมีผลกระทบกับร่างกายได้ ยิ่งจิตใจของคุณเหนื่อยมากเท่าไหร่ มันก็จะนำไปสู่สุขภาพที่แย่ลงเท่านั้น

 

งั้น จะดีขึ้นได้ยังไงล่ะ?

 

  • จองตัวเพื่อนที่มักจะทำให้คุณยิ้มได้แล้วออกไปสนุกกัน คุณอาจจะต้องพักเบรกกับงานบ้าง แต่นั้นคือประเด็น ใช่ไหม?
  • หาเวลาผ่อนคลายให้ตัวเอง ไม่ว่าจะไปทำสปาหรือไปดูโชว์ที่คุณเห็นโฆษณาแล้วมันน่าดูมากๆ มันได้เวลามีความสุขกับโลกที่คุณทำงานหนักเพื่อสร้างมันขึ้นมาแล้วล่ะ
  • ลด to-do list ลงบ้าง เพราะเมื่อคุณปล่อยให้รายละเอียดสำคัญๆ หลุดมือไป มันก็แปลว่าคุณพยายามจะยัดทุกอย่างลงไปจนมากเกินกว่าจะเป็นไปได้ในหนึ่งวันแล้วล่ะ
  • ลองไปคุยกับเจ้านายของคุณดู มันอาจจะฟังดูแปลกที่ไปคุยกับคนที่คุณก็โทษพวกเขาอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณไปคุยเพื่อขอคำปรึกษา ไม่ใช่ชวนทะเลาะ คุณอาจจะหาทางออกให้กับปัญหาที่คุณเจอได้ก็ได้
  • จัดระเบียดเป้าหมายในการทำงานของคุณใหม่เพื่อเติมพลังให้ตัวเองอีกครั้ง การสติแตกจากการเหนื่อยนั้นเป็นสัญญาณว่าคุณไม่ใช่แค่เหนื่อยธรรมดา แต่คุณเหนื่อยจากกิจวัตรประจำวันอันน่าเบื่อต่างหาก
  • มองหาความรับผิดชอบใหม่ๆ ลองเข้าร่วมกับองค์กรที่เกี่ยวข้องกับสายงานของคุณ ในแง่มุมที่คุณอยากฝึกฝนตัวเอง
  • จองทริปไปเที่ยว! มันไม่ใช่การหนีปัญหา แต่ลองคิดว่าเป็นคำสั่งหมอสิคะ การไปพักผ่อนริมทะเลอาจจะเป็นอะไรที่คุณตามหาอยู่ก็เป็นได้