คำแนะนำด้านอาชีพ | 9 November 2015

สกิลสำคัญที่คุณไม่รู้ว่าคุณต้องมีถึงจะประสบความสำเร็จ!

เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจ บริษัทจะต้องมีความคิดริเริ่ม และผู้นำหรือเจ้าของบริษัทนั้นๆ ก็ต้องมีความคิดริเริ่มด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าคุณไม่ได้กำลังนั่งอยู่ในห้องสูท หรือทำงานให้กับบริษัททางด้านนวัตกรรมอย่าง Apple หรือ Google คุณก็อาจจะไม่ได้คิดว่าคุณสมบัติข้อนี้มันสำคัญอะไรมากมายสำหรับความสำเร็จส่วนตัว

 

คิดอีกครั้งนะคะ ความสามารถที่จะมีความคิดริเริ่ม ที่จะใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา หรือตอบสนองความต้องการของลูกค้า นั้นเป็นสกิลสำคัญที่ทุกคนควรจะมีติดตัวไว้ มาดูกันว่า การมีความคิดริเริ่มนี่มีความสำคัญอย่างไรต่อการประสบความสำเร็จของคุณ และวิธีที่จะสร้างมันขึ้นมา

 

การมีความคิดริเริ่มจะทำให้คุณเป็นคนน่าจ้าง

 

เหมือนกับความเป็นผู้นำ หรือความสามารถในการทำงานเป็นทีม การมีความคิดริเริ่มก็เป็นหนึ่งใน soft skill ที่ผู้ว่าจ้างทั้งหลายอยากให้ว่าที่พนักงานอย่างคุณมี ทำไมน่ะเหรอ? เพราะมีบริษัทมากขึ้นเรื่อยๆ ที่รู้ตัวว่า กุญแจสำคัญในการพัฒนาด้านนวัตกรรมขององค์กรก็คือพนักงานในทุกระดับนั่นเอง บริษัทใหญ่ๆ อย่าง Marriott International หรือ Comcast ต่างก็ต้องการคนที่มีความคิดริเริ่มมาช่วยให้พวกเขายังเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามในโลกธุรกิจ หรือบริษัท Startup อย่าง HomeAway หรือ Venmo นั้นต้องการคนที่มีความคิดริเริ่มมาช่วยทำให้ไอเดียของพวกเขาเป็นจริง และต้องเป็นจริงอย่างรวดเร็วด้วย

 

 

“ความคิดริเริ่มจะนำความคิดสร้างสรรคืและคุณค่าของงธุรกิจมาเจอกัน ดังนั้นถ้าคุณอยู่ในตำแหน่งที่ต้องแก้ปัญหาทางธุรกิจ ทักษะด้านความคิดริเริ่มมันก็เป็นเรื่องจำเป็นนะ และยิ่งการแข่งขันในโลกของธุรกิจแลทุนนิยมสูงขึ้น ผู้นำของบริษัทที่มีความสามารถในการคิดอะไรนอกกรอกและสร้างทางออกที่น่าพึ่งพอใจได้ก็จะชนะในตลาด” Jennifer Hsieh, รองประธานกรรมการฝ่าย Insight, Strategy and Innovation ที่ Marriott International

 

การมีความคิดริเริ่มจะทำให้คุณรักษางานของตัวเองไว้ได้

 

“ความลับข้อหนึ่งของคนที่ประสบความสำเร็จในบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วก็คือ พวกเขาสามารถปรับตัวให้เข้ากับความโกลาหนและความไม่แน่นอนของการที่มีคนเข้ามาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาสามารถทำงานใหม่ได้อย่างรวดเร็วเป็นประจำ” คำแนะนำจาก Molly Graham, COO ของ Quip และอดีตพนักงานของ Google และ Facebook ในเว็บไซต์ First Round Review

 

มันไม่ใช่แค่การมีความคิดริเริ่มในการทำงาน แต่คุณต้องมีความคิดริเริ่มเกี่ยวกับงานของตัวเองด้วย คุณต้องเติบโตไปพร้อมกับบริษัทและมองหาหนทางใหม่ๆ ในการนำเสนอคุณค่าของคุณให้กับเขาอยู่เสมอ

 

ถึงแม้จะเป็นบริษัทใหญ่ที่ไม่ได้เติบโตรวดเร็วขนาดนั้นก็ตาม คนที่มีความคิดริเริ่มก็ยังคงเป็นทรัพยากรที่สำคัญสำหรับบริษัท และจากบทความของ Mark Lukens การกลืนคำว่า “นี่ไม่ใช่งานของฉัน” แล้วก็ทำให้งานๆ นั้นเป็นงานของคุณ จะทำให้คุณกลายเป็นคนสำคัญต่อบริษัทและเป็นการวางตำแหน่งตัวเองให้ไปหาตำแหน่งใหญ่ๆ ได้ในอนาคต ซึ่งบริษัทมักจะไม่ปล่อยคนแบบนี้ไปง่ายๆ หรอก

 

การมีความคิดริเริ่มจะช่วยให้คุณเติบโตกลายไปเป็นผู้นำ

 

อยากที่เราบอกไปตอนต้น การมีความคิดริเริ่มไม่ใช่ทักษะสำหรับผู้นำเท่านั้น แต่มันยังเป็นทักษะที่เปลี่ยนในคนธรรมดาๆ กลายไปเป็นผู้นำได้อีกด้วย “หลายๆ คนที่ประสบความสำเร็จในโลกของธุรกิจ เขาไปถึงจุดนั้นได้เพราะเขาเชี่ยวชาญในด้านการคิดวิเคราะห์ การดำเนินงาน และการปฏิบัติงาน และเมื่อคุณสร้างความมั่นใจด้วยความคิดริเริ่มที่มี มันก็เปลี่ยนวิธีที่คุณเข้าหาปัญหาและวิธีที่คุณแก้มัน คิดอะไรให้มันนอกกรอบ และนำทีมไปให้ถึงจุดหมาย” Jennifer Hsieh กล่าว

 

 

งั้น คุณเริ่มมีความคิดริเริ่มหรือความคิดสร้างสรรค์ในชีวิตการทำงานประจำวันได้อย่างไรบ้าง? และคุณจะแสดงให้นายจ้าง และว่าที่นายจ้างในอนาคตเห็นได้อย่างไร?

 

Neil Blumenthal ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Warby Parker อธิบายไว้ว่า ความคิดริเริ่มก็เหมือนกล้ามเนื้อ ซึ่งเราทุกคนมี และสามารถฝึกมันให้แข็งแกร่งได้ เริ่มง่ายๆ ได้ด้วยการมองหาวิธีง่ายๆ ที่จะออกจาก comfort zone ในที่ทำงาน  มันมีงานอะไรที่ต้องทำ แต่เหมือนจะไม่มีใครอยากทำหรือเปล่า? โปรเจคที่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับแผนกของคุณ แต่คุณอยากจะลองช่วยดู? มีไอเดียดีๆ ที่ใช้ได้จริงแล้วคุณอยากจะนำทีมไปไหม? ลองเสี่ยงและคว้าโอกาสที่ผ่านเข้ามา และเปิดใจกับการทำอะไรที่มันอาจจะแตกต่างออกไปจากเดิมดู การทำแบบนี้จะช่วยให้สมองของคุณเตรียมพร้อมสำหรับความคิดริเริ่มอย่างแน่นอน

 

และเมื่อคุณไปสมัครงานที่บริษัทซึ่งคุณรู้สึกได้ว่าให้ความสำคัญกับทักษะนี้ ก็พูดเน้นไปในทางที่โชว์ให้เห็นว่าคุณเป็นคนประเภทที่มีความคิดริเริ่มนะ พูดถึงช่วงเวลาที่คุณนำทีมและเสนอไอเดียใหม่ๆ (ไม่ว่ามันจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม) หรือสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ขึ้นมา แล้วก็พูดถึงช่วงเวลาที่คุณล้มเหลว แสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณไม่กลัวที่จะเสี่ยงกับอะไรที่มันคุ้มค่าที่จะสามารถทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปข้างหน้าได้ พูดคุยเกี่ยวกับคลาสออนไลน์ที่คุณลงเรียนไว้ หรืองานอดิเรกที่แสดงให้เห็นว่าคุณมีความอยากรู้อยากเห็นและความต้องการที่จะเรียนรู้

 

 

และอย่าลืมว่า การมีความคิดริเริ่มไม่ใช่แค่ทักษะที่จะมีประโยชน์แค่ตอนทำงานเท่านั้นนะ มันสามารถทำให้คุณคิดอะไรแตกต่างไปได้ในทุกๆ เรื่อง 

 

“การมีความคิดริเริ่มเป็นแนวความคิดและขั้นตอนที่สร้างสรรค์ซึ่งสามารถปรับใช้ได้กับชีวิตในหลายๆ แง่มุม” Chris Baer, Senior Director ของ Insight, Strategy and Innovation ที่ Marriott International กล่าว 

 
“มันจะทำให้เราเป็นคนถ่อมตัว เปิดใจ ทำให้เรามีจินตนาการ และพร้อมรับโอกาสและความคิดใหม่ๆ และกล้าที่จะคิดและทำไอเดียของเราให้เป็นจริงอีกด้วย” Matthew Von Ertfelda รองประธานกรรมการ และหัวหน้าทีม Insight, Strategy and Innovation รวมทั้งยังเป็นเพื่อนร่วมงานของ Chris กล่าว