พาไปดูเบื้องหลัง Pomelo Fashion

Pomelo Fashion เป็นแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นออนไลน์ที่ทำงานกันอย่างรวดเร็ว และมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือลูกค้าที่อยู่ในเอเชีย ถ้าต้องเปรียบเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง Pomelo ก็เปรียบเสมือนนกยูง ที่จะคอยรำแพนหางอวดความสวยงามของตนท่ามกลางการแข่งขันกันอย่างดุเดือดในตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นนั่นเอง สิ่งที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์อื่นๆ ก็คือความมุ่งมั่นและใส่ใจในการสร้างแบรนด์และสินค้าของพวกเขา เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมาจากภายในองค์กรทั้งสิ้น พวกเขามั่นใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างในธุรกิจนี้ถูกปรับเปลี่ยนมาเพื่อให้เข้ากับความต้องการของลูกค้า ทั้งดีไซน์ การผลิต จนไปถึง วิธีการขายและการตีตลาด สิ่งนี้เอง ที่ทำให้ Pomelo ไม่เหมือนแบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์อื่นๆ ที่ไม่ค่อยได้มีการทำธุรกิจบูรณาการแนวดิ่ง กล่าวคือ ไม่ได้ควบคุมการธุรกิจของตัวเองอย่างเบ็ดเสร็จตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตจนถึงการจำหน่าย

ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของ Pomelo นี้เอง ทำให้หลายๆ คนก็อยากจะร่วมงานด้วย แต่อย่างไรก็ตาม Pomelo มีแนวคิดที่ว่า “ทีมยิ่งเล็ก ก็ยิ่งเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว” ซึ่งแนวคิดนี้ทำให้พวกเขาระมัดระวังในการเลือกคนมาร่วมงานเป็นอย่างมากและจะพยายามใช้คนให้น้อยที่สุดในการทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันอย่างสูงสุด นอกจากนั้น การใช้คนจำนวนไม่มากก็จะทำให้พนักงานเกิดความสามัคคีและมีความรับผิดชอบต่องานที่ทำมากขึ้นอีกด้วย

เวลาจะเลือกใครสักคนเข้ามาทำงานด้วยกัน Pomelo จะต้องการคุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณ เนื่องจากยังสามารถเรียกตัวเองได้ว่าเป็น Startup พวกเขาเลยไม่ต้องการพนักงานที่มีทักษะพิเศษหรือเฉพาะทางมากนัก แต่พวกเขาต้องการพนักงานที่มองโลกในแง่ดี พร้อมที่จะทุ่มเทกับงาน และยังจะต้องเป็นคนที่เรียนรู้เรื่องต่างๆ อย่างรวดเร็วและกล้าที่จะก้าวออกจาก comfort zone ของตัวเองอีกด้วย

Pomelo ยอมรับว่า บางครั้งพวกเขาก็เจอคนที่ใช่ และพวกเขาก็ตัดสินใจจ้างคนๆ นั้นทันที โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าจะให้มาทำงานในตำแหน่งอะไร และพฤติกรรมการจ้างงานของ Pomelo นั้นก็สวนทางกับหลายๆ บริษัทในปัจจุบันที่มักจะเลือกผู้สมัครที่มีประสบการณ์มากที่สุด แต่ Pomelo บอกว่า “ประสบการณ์หนึ่งปี สองปี หรือสามปีมันไม่ได้มีประโยชน์มากนักหรอกในการเข้ามาร่วมงานกับเรา เรามองหาผู้สมัครที่ดีที่สุด ไม่ใช่สิ่งที่ผู้สมัครเคยทำมา”

การฝึกงานเป็นอะไรที่ Pomelo ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการเลือกคนหน้าใหม่เข้ามาร่วมงาน เพราะโปรแกรมฝึกงานจะทำให้ผู้คนได้เข้ามาลองร่วมงานกับ Pomelo ได้รู้ว่าข้างในนี้ทำงานกันอย่างไร และสไตล์การทำงานของเขาเข้ากับบริษัทได้ไหม

ผู้ที่ฝึกงานกับ Pomelo จะได้รับประสบการณ์ทำงานเหมือนจริงมากๆ เพราะงานที่พวกเขาจะได้ทำนั้นไม่ต่างจากพนักงานปกติเลย และพวกเขาก็จะได้รับการช่วยเหลือเพื่อที่จะได้มั่นใจว่าตัวเองจะไม่ถูกกองงานถล่มทับและสามารถทำงานได้อย่างมั่นใจอีกด้วย นอกจากนั้น การฝึกงานยังเป็นตัวช่วยสำหรับนักศึกษาในการตามหางานที่สนใจ งานที่ใช่ เพราะผู้ที่ฝึกงานกับ Pomelo ก็สามารถจะเปลี่ยนตำแหน่งไปมาได้ ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาอยากทำอะไร
 

คุณสมบัติเป็นสิ่งที่ Pomelo จะพิจารณาอย่างตั้งใจเวลาศึกษาผู้สมัครที่มีโอกาสได้ร่วมงานกัน พวกเขาอยากได้คนที่มีทัศนคติที่ดี เป็นคนสนุกสนาน และเป็นคนมองโลกในแง่ดี ไม่กลัวที่จะเปิดเผยเรื่องบางอย่างออกมาตรงๆ และคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดคือความกระหายที่จะเรียนรู้ พวกเขาชื่นชอบคนที่ไม่ยอมแพ้กับข้อจำกัดต่างๆ นานา และกล้าที่จะลองอะไรใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึง อย่างไรก็ตาม เด็กไทยหลายคนมักจะจำกัดตัวเองด้วยคณะที่จบมา เช่นคนที่จบมาจากคณะบัญชีก็มักจะคิดว่าตัวเองต้องหางานทางด้านบัญชี ซึ่งจริงๆ แล้วไม่จำเป็นเลย สิ่งที่คุณเรียนรู้จากมหาวิทยาลัยก็คือคุณชอบอะไรและอะไรเป็นสิ่งที่คุณอยากทำต่อไปในอนาคต คุณเรียนรู้ที่จะเรียนรู้ และคุณก็สามารถเรียนรู้ได้จากงานของคุณ

และด้วยแนวคิดนี้ คนที่ร่วมงานกับ Pomelo จึงมาจากคณะที่หลากหลาย และบางคณะก็อาจจะเป็นอะไรคาดไม่ถึงเลยทีเดียว แต่สำหรับ Pomelo แล้ว การที่คุณจะเรียนจบจากที่ไหน คณะอะไรไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตราบเท่าที่คุณเชื่อมั่นในองค์กรและมีไฟในการทำงานนี้

วิธีที่จะทำให้ Pomelo สนใจใบสมัครของคุณก็คือ พูดเกี่ยวกับธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่เกี่ยวกับ Pomelo การรู้ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาทำจะทำให้คุณดูเป็นคนเอาใจใส่และรู้ว่าตัวเองกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ ใน Resume ของคุณควรจะใส่โปรเจ็คที่คุณเคยทำตอนเรียนมหาวิทยาลัยหรือที่ๆ คุณเคยไปฝึกงานมาก็ได้ แสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณมีไฟในการทำบางสิ่งบางอย่าง และคุณสามารถทำงานสำเร็จอย่างสนุกสนาน เพราะสิ่งเหล่านี้แหละที่จะทำให้ Pomelo อยากร่วมงานกับคุณ

เมื่อถามว่า หนังอะไรที่จะแสดงถึงความเป็น Pomelo ได้ พวกเขาบอกกับเราว่า พวกเขาคิดว่าตัวเองเหมือนกับ Toy Story เหตุผลน่ะเหรอ “เพราะพวกเรากำลังพยามได้รับความรักจากเจ้านายของเรา ซึ่งก็คือลูกค้าของเรานั่นเอง!”

บทสัมภาษณ์ Win Thanapistikul: CEO และผู้ก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้า Pomelo