พาทัวร์ออฟฟิศ Double Pine ออฟฟิศที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความอบอุ่น

ปัจจุบันมีซอฟแวร์ที่ช่วยให้การทำงานในออฟฟิศสะดวกขึ้นจำนวนมาก แน่นอนว่าซอฟแวร์เหล่านั้นย่อมเป็นที่นิยมและถูกใช้งานอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะซอฟแวร์ในกลุ่มของบัญชี เพราะช่วยให้ความยุ่งยากในการทำบัญชีมีความสะดวกมากขึ้น ทั้งยังประหยัดต้นทุนในส่วนอื่นๆได้ด้วย วันนี้ WorkVenture เลยจะพาผู้อ่านไปเยี่ยมชมออฟฟิศและพูดคุยกับทีมผู้บริหาร บริษัท ดับเบิ้ลไพน์ จำกัด บริษัทผู้พัฒนาและให้บริการผลิตภัณฑ์โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป ที่มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 25ปี

เมื่อ WorkVenture ก้าวเข้ามาในบริษัท Double Pine ก็สัมผัสได้ในทันทีว่าพนักงานมีความเป็นกันเองแถมยังต้องรับ WorkVenture อย่างอบอุ่น ด้วยรอยยิ้มและขนมนมเนย 

ออฟฟิศ Double Pine น่าอยู่มากเลยค่ะ นอกจากจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นขององค์กรแล้ว ทาง WorkVenture ยังรู้สึกว่าบรรยากาศภายในออฟฟิศก็ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม โดยคุณเจนจิรา “เจนจิรา ประยูรรัตน์ CEO ของ Double Pine​” ได้บอกว่า “อยากให้ออฟฟิศเหมือนบ้านหลังที่2ของพนักงาน” การตกแต่งจึงดูสวยงามและเต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นไม่ว่าจะเป็นรูปตามผนังระหว่างทางเดิน หรือจะเป็นบอร์ดกิจกรรมต่างๆของออฟฟิศ เช่น กีฬาภายใน

ที่น่าสนใจคือการดีไซน์อย่างทันสมัยของออฟฟิศ แต่ก็ลงตัวด้วยบรรยากาศความเป็นกันเองของพนักงาน

ทาง WorkVenture แอบเห็นว่า ช่วงเที่ยงพนักงานมาทานอาหารร่วมกันบริเวณห้องทานอาหาร และพูดคุยกันอย่างสนุกสนานด้วย นี่ถ้าไม่ติดว่าทาง WorkVenture ต้องไปธุระที่อื่นต่อ คงไม่พลาดไปนั่งทานด้วยอย่างแน่นอน

ขณะที่ทีมงาน WorkVenture นั่งทานขนม และเดินชมออฟฟิศสักพัก ก็มีโอกาสได้นั่งพูดคุยกับคุณเจนจิรา อย่างเป็นกันเอง ทีมงาน WorkVenture บอกได้เลยว่า CEO ของบริษัทซอฟแวร์แห่งนี้ทั้งสวย ทั้งเก่ง และแกร่งอย่างแท้จริง แถมยังมีรอยยิ้มที่อบอุ่นให้กับพวกเราด้วย

นั่งคุยกับคุณเจนจิรา ทีมผู้บริหารไปสักพัก ทำให้รู้จัก Double Pine มากขึ้น WorkVenture ได้ทราบว่า Double Pine เป็น บริษัทผลิตและขายซอฟแวร์บัญชีระดับกลาง โดยขายพร้อมซอฟแวร์และบริการ ซึ่งถือว่าครบครันเป็นอย่างมาก โดยก่อตั้งมาประมาณ 25 ปี โดยมุ่งเน้นซอฟแวร์ในเชิงบัญชีครบวงจร ตั้งแต่ขบวนการซื้อ ขบวนการผลิตหรือประกอบสินค้า รวมไปถึงขบวนการขาย ฯลฯ โดยเป็นลักษณะของบัญชี ERP โดยเน้นเรื่องต้นทุน

นอกจากนี้ยังทำให้ทาง WorkVenture ทราบที่มาของการก่อตั้งบริษัท Double Pine อย่างน่าสนใจทีเดียวเชียว โดยคุณเจนจิราบอกว่า แรงบันดาลใจการก่อตั้ง Double Pine มีมาตั้งแต่อายุ10 ปี เนื่องจากคุณเจนจิรา เห็นครอบครัวทำธุรกิจ แล้วพบว่าทำไป ทำมาก็ขาดทุนเรื่อยๆ เนื่องจากไม่ได้มีการทำบัญชีอย่างชัดเจน ไม่รู้ต้นทุนของแต่ละงาน นักบัญชีไม่สามารถเก็บยอดมาให้ได้ จึงมีแค่การรับเงินและจ่ายเงินเท่านั้น  ต้องไปวัดดวงเอาว่าปลายปีจะมีผลลัพธ์อย่างไร คุณเจนจิราที่อยู่ข้างสนาม มองเห็นคุณพ่อทำธุรกิจมาตั้งแต่เด็ก เลยคิดว่าตนจะไม่ทำธุรกิจอะไรที่ซื้อมาขายไปเด็ดขาด เลยมาจบที่การเขียนซอฟแวร์จำหน่ายเป็นที่มาของ Double Pine บริษัทซอฟแวร์ที่มีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้นี่เอง 

เมื่อทาง WorkVenture ถามคุณเจนจิราว่า ซอฟแวร์บัญชีของ Double Pine ต่างจากซอฟแวร์อื่นอย่างไร คุณเจนจิราก็ตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “บัญชีของ Double Pine ไม่ใช่แค่บัญชี2ระดับเฉยๆแต่เป็นบัญชีลึก6ระดับ นั่นหมายความว่าซอฟแวร์ของเราครบทุกระบบ โดยบัญชี6ระดับของเรา เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ช่วงนั้นทุกอย่างล่มสลาย รายได้จากแสนๆไปถึงล้าน ลดเหลือแค่ 3 หมื่น บริษัทลูกค้าเก่าๆของเราก็ปิดกิจการไป

เราเลยคิดว่าไม่ได้การละ เลยใช้ช่วงวิกฤตนี้มาเป็นโอกาสในการพัฒนาซอฟแวร์ของเราแทน เราทำซอฟแวร์ใหม่ เราทำวินโด้เวอร์ชั่นใหม่ออกมา ครบทุกระบบ แทนที่จะ 2 ระดับบัญชี ก็เพิ่มมาเป็น 6 ระดับบัญชี เขียนใหม่หมดเลย ช่วงนั้นเลยเป็นช่วงของการพัฒนาบริษัทเรา” 

ฟังไปฟังมา WorkVenture อดถามคุณเจนจิราไม่ได้ว่า ข้อดีที่โดดเด่นของ Double Pine คืออะไรบ้าง ก็ได้คำตอบว่า “เราเข้าใจลูกค้าที่เป็นนักบัญชีว่าเขาประสบปัญหาอะไรบ้าง และเราจะเอื้ออำนวยความสะดวกเหล่านั้นได้อย่างไร ดังนั้น Double Pine จึงครบทั้งคุณภาพของซอฟแวร์และ service mind ในการให้บริการลูกค้า เราเลยปั้นคนของเราเองให้มีความเข้าใจในคอนเซ็ปที่ลึกซึ้ง เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงได้” 

ระหว่างสัมภาษณ์ก็แอบเหลือบตาไปเห็นลูกสุนัขหน้าออฟฟิศ เลยทำให้ WorkVenture นึกสงสัยขึ้นมาว่าหากเปรียบเทียบ Double Pine กับสัตว์สักอย่าง องค์กรที่อบอุ่นแบบนี้จะเป็นสัตว์อะไรกันนะ คุณเจนจิรานิ่งคิดสักพัก ก่อนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง “คุณทองแดงค่ะ Double Pine เป็นองค์กรที่รอบคอบ ฉลาด อบอุ่น คล้ายนิสัยของสุนัข แน่นอนว่าองค์กรเราจะไม่มีหัวหน้าที่มาเสียงดัง ตวาดพนักงานเด็ดขาด องค์กรเราอยู่ด้วยกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือกันเหมือนเป็นครอบครัว เป็นพี่เป็นน้องกัน ”

ไหนๆก็มาถึง Double Pine บริษัทที่น่าสนใจขนาดนี้แล้ว ทาง WorkVenture ต้องขอถามเพิ่มเติมสักหน่อยว่า แพลนในอนาคตบริษัทจะเติบโตไปทางทิศทางไหน และคุณเจนจิราก็ได้ให้คำตอบกับทางเราว่า

“ในช่วง 5 ปีนี้ ซอฟแวร์ของ Double Pine จะเป็น innovation อย่างมาก และมีวิธีการใช้งานที่ง่ายอย่างมาก เราจะทำให้ซอฟแวร์มีภาษาที่หลากหลายมากขึ้น ประมาณ3-4 ภาษา เราจะทำแบบให้เช่าใช้เหมือนซอฟแวร์เมืองนอก และมี demo ออนไลน์ ลูกค้าสามารถเข้ามาดูการสาธิตการใช้งานได้ตามตารางเวลา ในส่วนของภายในปีหน้า เราแพลนไว้ว่า ยอดขายเราน่าจะเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว อีกทั้งซอฟแวร์ตัวนี้ไม่ต้องเสียภาษี ยอดขายจะสูงขึ้นมาก ฐานลูกค้าพร้อมจะเดินหน้าตามเราไป ฉะนั้นจำนวนเงินที่จะเข้ามาก็ถือว่าเยอะพอสมควร”

หลังพูดคุยกับคุณเจนจิราเสร็จ WorkVenture ก็ไม่พลาดที่จะเดินทัวร์ในออฟฟิศ Double Pine อีกรอบ แม้ว่าออฟฟิศไม่ได้มีขนาดใหญ่โออ่า แต่ก็ต้องยอมรับว่าออฟฟิศ Double Pine แห่งนี้สวยงามและถูกตกแต่งอย่างสบายตายิ่งนัก

เดินชมออฟฟิศไปสักพัก WorkVenture ก็ได้เจอกับพี่ๆพนักงานที่แวะมาทักทายพูดคุยอย่างเป็นกันเอง  ทำให้ WorkVenture ทราบว่า Double Pine เป็นบริษัทที่อบอุ่นมาก พนักงานทุกคนอยู่ด้วยกันแบบพี่น้องและช่วยเหลือกัน ในส่วนของการทำงานก็ท้าทายอย่างมาก เพราะบางวันก็เจอเรื่องยาก ต้องใช้ทักษะต่างๆเพื่อแก้ปัญหา แต่บางวันก็เจอเรื่องง่าย แถมพี่ๆพนักงานยังบอกอีกว่าการทำงานที่นี่ได้พัฒนาตนเองอยู่เสมอ และเป็นงานที่ทำให้ได้เพิ่มทักษะความรู้ตัวเองอยู่บ่อยครั้ง เพราะสามารถเดินเข้าไปถามลูกค้าเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ และให้ลูกค้าบอกเล่าหรือสอนเราได้ ทำให้ได้ความรู้ไปในตัว แถมยังเป็นโอกาสดีที่ได้พบเจอเหล่าผู้บริหารที่มีความสามารถ เพราะต้องสื่อสารเกี่ยวกับซอฟแวร์บัญชีอยู่เสมอ พี่ๆพนักงานยังแอบกระซิบมาอีกว่า ทำงานที่นี่เหนื่อยหน่อย แต่คุ้ม และถ้าใครอยากมาทำที่ Double Pine สิ่งที่ต้องมีคือการกล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ กล้านำเสนอ WorkVenture ขอสรุปสั้นๆเลยว่า คนที่อยากเข้ามาทำที่ Double Pine ต้องมีความกล้าและทะเยอทะยานที่จะเรียนรู้กับสิ่งใหม่ๆและต้องการพัฒนาตัวเองอย่างไม่สิ้นสุดนั่นเอง ใครที่มีคุณสมบัติแบบนี้ WorkVenture ว่าคุณไม่ควรพลาดแล้วล่ะ

แต่ข้อมูลอาจจะยังไม่แน่นพอ ทาง WorkVenture แอบสืบมาให้คุณผู้อ่านได้ทราบกันถ้วนหน้าถึงลักษณะพนักงานในดวงใจของ Double Pine ว่ามีลักษณะยังไงที่จะโดดเด่นตรงใจ เลยทราบมาว่าที่นี่ต้องการพนักงานที่มีทัศนคติที่ดี รวมถึงบุคลิกภาพที่ดี มีความมั่นใจ มีความอดทน ใจรักในการทำงาน แน่นอนว่าถ้าคุณมีคุณสมบัติแบบนี้ ในส่วนของรายได้และโบนัสต่างๆ จะทำให้คุณประทับใจอย่างแน่นอน 

วันนี้ผู้อ่านชาว WorkVenture  ก็ได้เยี่ยมชมออฟฟิศที่น่าอยู่และอบอุ่นของ Double Pine กันไปแล้ว ถ้าอยากเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทที่อบอุ่นเช่นนี้ WorkVenture คิดว่าคุณผู้อ่านไม่ควรพลาดที่จะให้โอกาสตัวเองในการหาประสบการณ์ดีๆ หากสนใจร่วมทำงานกับ Double Pine กดที่นี่เลยค่ะ

บริษัทดีๆที่จะมอบทั้งความรู้ ประสบการณ์ล้ำค่า ให้คุณเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่น่าพลาดอย่างยิ่ง เพราะโอกาสดีๆ  ไม่ได้มีมาบ่อยๆ

“สิ่งที่คุณจะได้จาก Double Pine ไม่ใช่เพียง “เงิน” แต่คุณจะได้ความรู้ โอกาส และการพัฒนาตัวเองอย่างไม่สิ้นสุด”