คำแนะนำการหางาน | 27 April 2017

นักศึกษา Harvard เผย 7 เคล็ดลับได้งานจาก Google Apple และ Facebook

บทความวันนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะ WorkVenture จะพาทุกคนไปรู้จักกับ เจสสิก้า นักศึกษาสาว จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่ได้เข้าฝึกงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก หลายบริษัท อย่าง Apple Facebook Microsoft McKinsey Bain Goldman Sachs และ Morgan Stanley ซึ่งเธอได้เข้าไปฝึกงานในหลายด้าน ทั้ง Software Engineering, Data Science, Product Management, Consulting, Investment Banking, Trading และ Quantitative Finance

อยากรู้หล่ะสิ ว่าเธอทำได้ยังไงกัน? หลายคนคงคิดกันว่า เธอคงไม่ใช่คนธรรมดา เธอเป็นมหาเทพ! แต่เปล่าเลย..  ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพราะเธอเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี และไม่กดดันตัวเอง ตอนสัมภาษณ์หน่ะสิ นี่แหละ! เคล็ดลับของเธอ

แล้วจะทำแบบนั้นได้อย่างไร? หลายๆ คนคงอยากจะรู้เคล็ดลับพวกนี้ใช่มั้ยคะ เธอได้ให้คำตอบไว้แล้วหล่ะ โดยเธอได้บอกว่า

1.ทำการบ้านก่อนไปสัมภาษณ์

จะไปหวังว่า ตัวเองพูดเก่ง พรีเซ็นต์ดี แล้วได้ทำงานในที่ดีๆ หน่ะ เลิกคิดไปได้เลย ก่อนไปสัมภาษณ์คุณควรที่จะตั้งใจเรียนในคลาสเรียน และอ่านหนังสือเสริมความรู้สม่ำเสมอก่อน  โดยเฉพาะเนื้อหาที่เกี่ยวกับสาขาที่คุณเรียน เพราะคุณจะดูเชี่ยวชาญในสายนั้นๆ มากกว่าเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน ที่สำคัญเลย

“การเป็นคนเก่ง ย่อมดีกว่าการเป็นคนพรีเซ้นต์ตัวเองเก่ง”

2.เตรียมตอบสำหรับคำถามของสายงานที่อยากทำให้ดี

ในระหว่างการสัมภาษณ์งาน คุณอาจเกิดความเครียด จนนำไปสู่ความลังเล และความเงียบในที่สุดได้ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คุณพึงระวังที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นในระหว่างสัมภาษณ์

ดังนั้น เจสสิก้า จึงบอกว่า เธอจะระวังทุกขณะที่สัมภาษณ์ โดยเธอเตรียมคำถามอย่างหลากหลายและครอบคลุมมาก หาข้อมูลและอ่านเคสต่างๆ อย่างละเอียดเกี่ยวกับบริษัทที่เธอไปสัมภาษณ์ และเธอจะมีหลักในการตอบคำถาม เธอให้คำแนะนำ และหนทางการแก้ปัญหาในเคสต่างๆ ที่บริษัทเคยเจอและในทุกคำตอบจะต้องมีการวิเคราะห์และมีข้อสรุปอย่างชัดเจน ว่าเราได้อะไรจากเคสต่างๆ ลองดูวิธีพิชิตคำถามว่า "ทำไมอยากทำงานที่นี่"

โดยมีหลักในการตอบดังนี้

  • ทวนคำถาม เพื่อมั่นใจว่าเธอได้ยินถูกต้อง และครบทุกรายละเอียด
  • ตั้งสมมติฐานประกอบ และยกตัวอย่าง
  • ให้กระบวนการแก้ปัญหานั้นๆ อย่างชัดเจน
  • แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้สัมภาษณ์

 

3. ลองหา Case Study มาทำดู

“การฝึกซ้อมก่อนการสัมภาษณ์เป็นสิ่งสำคัญ”

คุณควรลองมองหา Case Study ที่เกี่ยวข้องกับงานที่คุณกำลังจะไปสัมภาษณ์ ซึ่งมหาวิทยาลัยดังๆของโลก อย่าง Harvard หรือ INSEAD ที่มีการเผยแพร่ Business Case เป็นประจำ โดยเฉพาะ Case Study ของ Harvard Business Review ที่เป็นที่นิยมใช้สอนนักศึกษาทั่วโลกอยู่แล้ว คุณจึงสามารถหาคำเฉลยของ Case ได้ทุกที่ออนไลน์ หรือจะให้สมบูรณ์แบบไปกว่านั้นคือลองให้เพื่อนหรือคนรอบข้างของคุณ มาดูวิธีการพูด การพรีเซ็นต์เคส และบุคลิกของคุณ และให้พวกเขาช่วยกันวิเคราะห์จุดดี จุดเสีย ว่าควรแก้ไขอย่างไร

4.เตรียมแผนสำรองไว้เสมอ

คุณควรมีแผนสำรองว่า ถ้าเราไม่เจอคำถามประมาณที่เราคาดการณ์ไว้ หรือคำถามที่เราเคยเจอมาเลย คุณจะตอบว่าอะไร ดังนั้นคุณควรต้องเตรียมตัวสำหรับคำถามหรือแผนอื่นๆ ไว้ด้วยเสมอ

โดยเจสสิก้าเล่าว่า เธอเจอคำถามว่า “หากเธอไม่ได้ฝึกงานในช่วงซัมเมอร์นี้ เธอมีแผนอะไรบ้าง” ซึ่งคุณก็ควรจะตอบให้ดูเป็นเหตุเป็นผล คุณก็ได้คะแนนในการสัมภาษณ์เยอะๆ แบบเจสสิก้า

5.ลงทุนกับการสัมภาษณ์

การสัมภาษณ์แต่ละที ไม่ใช่ว่าจะเสร็จสิ้นได้ใน 2 วัน 3 วัน  คุณไม่ควรที่จะเตรียมตัวสัมภาษณ์แบบลวกๆ ขอไปที โดยเจสสิก้า เล่าว่าเธอใช้เวลาเรียนรู้ ท่องเที่ยว และหาประสบการณ์เป็นเวลาหลายสัปดาห์ เพื่อไปใช้ในการสัมภาษณ์ในแต่ละครั้ง และเจสสิก้าได้แนะนำว่า คุณควรซักซ้อมล่วงหน้า และให้คนรอบตัวหมั่นบอกจุดดี จุดด้อย เพื่อพัฒนาแก้ไขการสัมภาษณ์งานของคุณเรื่อยๆ

6.เตรียมเรื่องเล่าในอดีตที่ใช้บอกว่าคุณได้ฝึกทักษะบาง

คุณอาจจะเจอคำถามพวก “เราจะรู้ได้ไงว่าคุณมีทักษะความเป็นผู้นำ”

เวลาเจอคำถามพวกนี้ สิ่งที่คุณควรจะทำคือนำประสบการณ์ในช่วงที่คุณเรียน หรือคุณทำกิจกรรม มาตอบคำถามเพื่อรองรับข้อมูลต่างๆ มันอาจเป็นคำถามที่เป็นนามธรรม จับต้องไม่ค่อยได้ แต่สิ่งที่คุณควรจะทำก็คือ ใช้หลักเหตุและผล และตัวอย่าง รวมถึงประสบการณ์ที่คุณเคยทำ มาอ้างประกอบทุกครั้งการตอบคำถาม หรือลองดูว่ามี ทักษะที่จะทำให้คุณไม่ตกงาน

7.การสร้างสัมพันธ์เล็กๆ น้อยๆ เป็นสิ่งจำเป็น

คุณอาจไม่ได้งานนี้ก็ได้ ใครจะรู้..  แต่สิ่งที่คุณควรจะทำ คือสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้สัมภาษณ์ คุณอาจพูดเมื่อจบการสัมภาษณ์ว่าคุณรู้สึกดี ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์นี้ และอาจถามถึงโปรดักซ์ต่างๆ ของบริษัท ที่เพิ่งปล่อยมาหมาดๆ หรือคุณแอบไปสืบมาว่ากำลังจะมี เช่น ฟีเจอร์ Snapใน Facebook ดีมากเลย และคุณก็เห็นว่ามันน่าสนใจมากๆ เป็นต้น

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะรู้สึกว่ายากจัง ตั้ง 7 ข้อเนี่ย! แต่ WorkVenture บอกได้เลยว่า ถ้าฝึกฝนบ่อยๆ ความเคยชินก็จะทำให้เป็นเรื่องง่ายไปอย่างแน่นอน และบริษัทในฝันต่างๆ ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม สู้ค่ะ นักศึกษาฝึกงานทุกคน!

บทความที่คุณอาจสนใจ เคล็ดลับได้งาน แม้สาขาที่เรียนจะไม่ตรง