ไลฟ์สไตล์ | 2 February 2015

สายแล้วได้อะไร? "ตรงต่อเวลา" เกมการทำงานสู่ความสำเร็จรูปแบบใหม่

ทุกวันนี้ มีคนให้คำแนะนำกันมากมายว่าควรทำตัวยังไงถึงจะส่งเสริมให้เราประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมากที่สุด บางท่านเสนอว่าเราไม่ควรพูดคุยเล่นหัวกับเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานเกินไป ในขณะที่บางคนบอกว่าการผูกสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานให้ดี ๆ นั่นแหละคือเคล็ดลับความสำเร็จของจริง แต่บางคนก็บอกว่าคนทำงานต้องมีเวลาสักสิบนาทีต่อชั่วโมงในการอัดควันบุหรี่ลงปอดสักตัวสองตัว หรือจิบกาแฟเข้มๆสักช็อตเพื่อเติมเรี่ยวเติมแรงให้ร่างกายพร้อมทำงานอย่างต่อเนื่อง แต่เราขอเสนอว่าจงพักข้อเสนอทุกอย่างไว้ก่อนเถิด มันมีสิ่งหนึ่งสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานทุกคนได้ระบุตรงกันว่าต้องทำ เมื่อทำไปแล้วมันจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางบวกให้แก่คุณอย่างมหาศาล และสิ่งนั้นที่เราจะเสนอนับตั้งแต่นี้ไปก็คือ การตรงต่อเวลา นั่นเอง 

                หากคุณเป็นคนตรงต่อเวลาแล้วละก็ คุณจะมีพลังงานด้านบวกที่ส่งตรงไปยังเจ้านายและเพื่อนร่วมงานได้ทันทีโดยไม่ต้องทำอะไรอื่น ๆ เพิ่มเติมเลย เพราะการตรงต่อเวลาของคุณมันสามารถสื่อสารได้เลยว่าคุณน่ะ มีความทุ่มเท ความสนใจ และความเอาใจใส่ต่องานที่คุณต้องรับผิดชอบมากแค่ไหน

                เมื่อพนักงานมีความตรงต่อเวลา การทำงานของทั้งองค์กรก็จะราบรื่นไปโดยปริยาย ก็ง่ายๆครับ เมื่อทุกคนมาประชุมพร้อมกัน  การประชุมก็สามารถเริ่มและดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ได้รวดเร็วฉับไว กลับกัน ถ้าใครบางคนมาสายบ่อยๆและทุกๆคนต้องรอเป็นประจำ คนที่รอคงจะได้แต่นั่งส่ายหัว จิ้มมือถือฆ่าเวลาไปพลางคิดถึงไอ้คนมาสายไปพลางว่า  “เออหนอ ไอ้หมอนี่มันช่างช้าได้ตลอดปีตลอดชาติ” ซึ่งแน่นอนว่าการไม่ตรงต่อเวลานอกจากจะทำให้งานอืดแล้ว ยังจะทำชาวบ้านชาวช่องเขาเอือมระอา ไม่อยากคบหาผู้มาสายอีกด้วย

            แค่คุณลองหันมาตรงต่อเวลา นอกจากจะไม่เป็นการสร้างความเดือดร้อนต่อส่วนรวมและส่วนตัวแล้ว ยังเป็นทางสำคัญที่นำพาคุณไปสู่ความสำเร็จได้ง่ายๆเลย เรื่องนี้ไม่ใช่คำพูดลอยๆ ทีเกินจริงแต่อย่างใด เพราะงานวิจัยของ ไดอานา ดีลองซอ (Diana DeLonzor) ผู้เขียนหนังสือ  “Never Be Late Again: 7 Cures for the Punctually Challenged” ได้แสดงผลการศึกษาให้เห็นอย่าชัดเจนว่า ผู้จัดการแผนกแทบจะไม่ได้โปรโมทพวกมาสายให้เลื่อนตำแหน่งสูง ๆ เลย  ในทางกลับกันคนที่ได้เลื่อนตำแหน่งแบบพรวดพราดล้วนมีคุณสมบัติของผู้ซื่อตรงต่อการมาตามเวลานัดหมาย หรือ คนตรงต่อเวลา นั่นเอง

                ลองจินตนาการเล่นๆดูก็ได้ว่าถ้าเจ้านายจะต้องเลือกเลื่อนตำแหน่งให้คนสองคน เขาจะตัดสินใจยังไง สมมติว่าคนที่หนึ่งเป็นคนตรงต่อเวลาทุกกระเบียดนิ้ว ให้มากี่โมงก็มาทันตลอด ในขณะที่คนที่สองนี่สายมันทุกอย่างที่เขานัดหมายไว้ ก็แน่นอนว่าเต็งหนึ่งในการถูกเลือกต้องหนีไม่พ้นคนแรกอยู่แล้ว เพราะหากเจ้านายคนนี้มีเหตุมีผล เขาคงไม่สามารถฝากความหวังไว้กับคนที่ทำไมได้แม้กระทั่งมาตรงเวลาอย่างไอ้คนที่สองอยู่แล้ว  หากเขานึกครึ้มไปโปรโมตไอ้คนที่สองเมื่อไหร่ ผลร้ายมันจะไม่ใช่แค่เลือกคนนิสัยไม่ดีขึ้นตำแหน่งสูง แต่มันยังเป็นการบั่นทอนกำลังใจของคนทำงานอื่นๆด้วย เพราะคนอื่นๆคงต้องคิดกันบ้างหละว่า เออ ใช่สิ คนทำดีไม่ได้ดี

                ยิ่งในยุคสมัยนี้ ที่บริษัทชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลกจากตะวันตกเริ่มย้ายสำนักงาน หรือเข้ามาตั้งสำนักงานสาขาในประเทศไทย ยิ่งต้องตระหนักไว้เลยว่าการตรงต่อเวลาคือคุณสมบัติที่โค-ตะ-ระ สำคัญ เพราะชาวตะวันตกหรือฝรั่งให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้เป็นอย่างยิ่ง  บริษัทเหล่านี้หวังใจว่าคนที่เขาจ้างมาทำงานด้วยจะต้องให้ความสำคัญกับการตรงต่อเวลาเหมือนที่พวกเขาให้ความสำคัญเช่นกัน อย่าเผลอไปสัมภาษณ์ หรือประชุมสายทีเดียวเชียวเพราะนั่นคือพฤติกรรมที่หยาบคายในสายตาบริษัทฝรั่งเหล่านั้นเป็นอย่างยิ่ง ฝรั่งหลายคนถือกันว่าการที่คนๆหนึ่งปล่อยให้คนอื่นรอมีค่าเท่ากับการขโมยทรัพย์สินของคนอื่นกันเลยทีเดียว นั่นก็เพราะพวกเขาถือกันเวลาทำงานที่เสียไปคือทรัพย์สมบัติที่มีค่าเป็นอย่างยิ่ง

                ถ้าพื้นเพของคุณเป็นคนไม่ค่อยตรงต่อเวลาเท่าไหร่ เราขอแนะให้คุณลองแข็งใจ ตื่นเช้ากว่าเดิมสัก 10 นาที, ลูบหน้าล้างหน้าด้วยน้ำเย็นๆสักหน่อย มันจะทำให้คุณตื่นตัว สดชื่น และมีพลังในการตัดสินใจที่ดีขึ้นได้ทันที หากคุณทำเช่นนี้ได้ คุณก็จะมีเวลาเหลือเพียงพอสำหรับการรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันของคุณ และยังสามารถไปทำงานได้ทันเวลาอีกด้วย

                การจราจรในประเทศไทยในแต่ละวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กทม. เป็นอะไรที่คาดเดายากพอๆกับการแทงหวยให้ถูกเลขท้าย 3 ตัว สิ่งนี้คงทำให้เจ้าของบริษัทพอจะเข้าใจหากวันดีคืนดีลูกน้องของเขามาสาย หรือมีอันต้องลางานไปทั้งวันเนื่องจากความเลวร้ายของการจราจรในบางวัน แต่เชื่อเถิดว่าจะเป็นสภาพของการจราจรที่เลวร้ายหรือห่าฝนที่เทลงมาอย่างหนักก็ไม่เคยทำให้ผู้ที่มีนิสัยตรงต่อเวลาอยู่เป็นนิจมาถึงที่ทำงานสายได้เลย และไอ้สิ่ง ๆ นี้คงทำให้เจ้าของบริษัทตัดสินใจได้ไม่ยากเลยว่าหากเขาจะมอบตำแหน่งที่ดีให้ใครสักคน เขาจะเลือกมันให้คนแบบไหนกัน

ดังนั้น อย่าร้อช้าเลยครับ...มาตรงต่อเวลากันเถอะ