เลือกบริษัทไหนดี! เช็คความลับนายจ้างที่คุณต้องรู้ ก่อนตัดสินใจเริ่มงาน

หลังจากคุณไปสัมภาษณ์งานหลายต่อหลายที่ในหลาย ๆ เดือนที่ผ่านมา คุณก็ได้รับโทรศัทพ์ที่โทรมา เสนองานให้คุณ คุณตื่นเต้นมากแต่ก็ขอเวลาเพื่อคิดดูก่อน.. แน่นอนคุณตั้งใจจะตอบตกลงรับงานนั้น หลังจากนั้นไม่นาน คุณก็ได้รับโทรศัพท์อีกสายหนึ่งโดยที่คุณยังไม่ทันตั้งตัว พวกเขาโทรมาเสนองาน อีกที่ให้กับคุณ! หลังจากขอบคุณและขอเวลาเพื่อทบทวนสำหรับตำแหน่งที่คุณถูกเสนอให้นี้คุณวาง หูและตระหนักว่าคุณมีเรื่องสำคัญจะต้องให้ตัดสินใจ คุณจะเลือกงานใดงานหนึ่งจากงานมากมายที่ถูกเสนอมาอย่างไร?

ขั้นแรกถอยหลังหนึ่งก้าวแล้วสูดหายใจลึก ๆ การที่คุณจะต้องเลือกระหว่างงานสองงานนับว่าเป็น ปัญหาที่ดีนะ เพราะมันหมายความว่าการตามหางานในหลายๆเดือนที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ แล้วการที่มีคนมาเสนองานให้กับคุณทำให้เห็นว่า หลังจากผ่านการสัมภาษณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า และ ส่งใบสมัครไปมากมาย คุณได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว ให้เวลาตัวเองได้สนุกกับความสำเร็จนี้หน่อย

1. หาข้อมูล

ก่อนจะไปสัมภาษณ์งานที่ไหนก็ตาม คุณควรจะหาข้อมูลของบริษัทที่เรียกตัวคุณเข้าไปเอาไว้ให้ มากๆเราหมายความว่า คุณควรจะรู้ว่า บริษัทให้ความสำคัญกับเรื่องอะไรบ้าง หรือ บริษัทคาดหวัง อะไรจากคนที่จะมาทำงานในตำแหน่งนี้ข้อมูลอะไรประมาณนั้นแหละ แล้วใช้ข้อมูลเหล่านี้มา ประกอบการตัดสินใจว่า คุณจะรู้สึกสบายใจกับการทำงานที่ไหนมากกว่ากัน 

2. คิดถึงสภาพแวดล้อมในการทำงาน

ตอนที่คุณเข้าไปสัมภาษณ์แน่นอนคุณต้องมองเห็นภาพคร่าวๆของ วัฒนธรรมองค์กร และ ผู้คนที่นั่น ว่าเป็นอย่างไร คุณชอบพวกเขามั้ยล่ะ? คุณสามารถนึกภาพตัวเองมาทำงานที่นี่ห้าวันต่ออาทิตย์ไหว มั้ย?

3.อย่าลืมพิจารณาถึงผลประโยชน์

ผลประโยชน์เพิ่มเติมอื่นๆงานแต่ละที่ก็มีจุดเด่นจุดด้อยที่ต่างกัน เช่น ผลประโยชน์เพิ่มเติ่มอื่นๆนอกเหนือจากเงินเดือน มีบริษัท ไหนที่มีผลประโยชน์มากกว่าหรือเปล่า มีบริษัทไหนเลี้ยงข้าวเดือนละครั้งสองครั้งมั้ยการเดินทางไป ทำงานในที่หนึ่งใช้เวลานานกว่า หรือไกลกว่าอีกทีมากรึเปล่า

4. ทำแผนภูมิ

แผนภูมิจะช่วยให้คุณพิจารณาถึงจุดเด่นจุดด้อยของงานแต่ละตำแหน่ง เขียนข้อดีข้อเสียของงาน เหล่านั้นมาให้หมด จากนั้นก็ให้คะแนนแต่ละข้อตามความสำคัญของมัน งานที่ได้คะแนนโดยรวม มากกว่าน่าจะเป็นงานที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดนะ

5. มองถึงความก้าวหน้า

มันน่ายั่วยวนมากที่จะเลือกเงินก่อนสิ่งอื่นๆอย่างไรก็ตาม ถ้างานที่บริษัท A เป็นสิ่งที่คุณหลงไหล อย่างมาก และสามารถช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานระยะยาวมากกว่างานอีกงาน ที่บริษัท B คุณน่าจะพอใจกับการทำงานที่บริษัท A มากกว่าถึงที่นั่นจะจ่ายเงินเดือนน้อยกว่าก็เถอะ คุณสามารถอยู่ด้วยเงินเดือนแค่นั้นได้มั้ยล่ะ หรือคุณจำเป็นจะต้องได้เงินเดือนที่สูงกว่านั้นจริงๆ?

6. เชื่อในเซ้นส์ของคุณ

ถ้าคุณยังมีปัญหาในการเลือกระหว่างงานสองที่ให้ทำตามที่ความรู้สึกลึกๆในใจคุณบอกเพราะ ความรู้สึกเหล่านั้นมันมีเหตุผลนะถ้าเซ้นส์ของเราโผล่เข้ามาวุ่นวายและบอกว่ามันต้องการอะไร งาน นั้นอาจจะทำให้เรามีความสุขมากกว่าในระยะยาวก้ได้ คำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกงานใดงานหนึ่งจากหลายๆงาน ที่น่าจะดีที่สุดสำหรับ หน้าที่การงานของคุณได้อย่างไรก็ตาม อย่าทำให้นายจ้างของคุณต้องรอนานกว่าเวลาคุณขอไว้ เพราะจากมันดูไม่เป็นมืออาชีพเลยที่จะทำตัวไม่ตรงต่อเวลาที่คุณเป็นคนขอไว้เองตั้งแต่แรก และ พวกเขาก็จำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับการเริ่มงานของคุณ หรือไม่ก็เสนองานตำแหน่งนั้นให้คน อื่นต่อไปอีกด้วย